หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

วันอาทิตย์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๐๐ น.

ณ วัดพุทธไทยเชตวัน

กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

 

วันนี้ก็เป็นวันสำคัญของชาวจีนทั้งหลายทั้งหมดล่ะ ชาวจีน ชาวไทย ชาวบ้าน ต่าง ต่างชาติทั้งหลาย วันนี้เป็นวันสำคัญ วันเช็งเม้งดิ วันเช็งเม้ง เออ วันทำบุญอุทิศกัลปนาผล ให้แก่บรรพบุรุษของเรา ของเรา เรามีบรรพบุรุษมาด้วยกันทั้งนั้น มีปู่ มีย่า มีตา มียาย มีอากง อาม่าที่ล่วงลับไปแล้วมากมาย วันนี้จะทำบุญอุทิศกัลปนาผลส่งให้ เพราะฉะนั้นจึงจัดพิธีฟังธรรมกันขึ้น เพื่อให้จิตใจน้อมไป ในธรรมะธัมโม ไม่ให้จิตใจนอกลู่นอกทางไปทางอื่น ให้ตั้งใจอย่างงั้น พูด พูดอย่างงี้ก็เข้าใจอยู่ เออ เข้าใจวันเช็งเม้ง วันเช็งเม้ง แล้วจะเอาอะไรมาบรรยายให้ฟังหนอ ตัวอย่าง ผู้ที่อยู่ในศีลในธรรม ได้รับความสุขความสบายอย่างไรบ้าง เราก็ต้องตั้งใจฟังอีกต่อไปอีก เออ ในอดีตกาลโน้น บรรพบุรุษของเราทั้งหลาย อ้า หรือบรรพบุรุษของชาวจีนทั้งหลาย มีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ นานเท่าไหร่ไม่รู้ บัดนี้ท่านเหล่านั้นล่วงลับไปแล้ว ก็คือทางเราระลึกถึงบุญคุณของท่าน อ้า จึงได้จัดงานเช็งเม้งขึ้น

 

(เสียงบรรยายภาษาอังกฤษ)

แปลแล้ว อ่ะเฮอะเออ บรรพบุรุษของเราทุกคน มีบรรพบุรุษ มีปู่ มีย่า มีตา มียาย มี เออ บูรพมหากษัตริย์ของเรา มีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ท่านเหล่านั้นคงต้องการได้รับส่วนบุญส่วนกุศลจากลูกหลานเหมือนกัน น่ะ ลูกหลานได้ตั้งใจอย่างนี้ ดีแล้วเป็น

 

ปูชา จะ ปูชะนียานัง

 

อันหนึ่ง การบูชาบุคคลที่ควรบูชาเป็นมงคลอันอุดม เป็นมงคลชีวิตของเรา ทำให้เราเจริญรุ่งเรือง เพราะเรามีกตัญญูกตเวทิตาธรรม อ้า ในท่านเหล่านั้น ไม่ได้ทอดทิ้ง ไม่นิ่งดูดาย มีโอกาสวันคล้ายวันเช่นนี้มา จึงมีจัดงานชุมนุมกันขึ้น เพื่อจะให้ได้ระลึกถึงบรรพบุรุษของตัวเองน่ะ อ้า นะโม ก็ว่าแล้ว

 

มาตาปิตุอุปัฏฐานัง

ปุตตะทารัสสะ สังคะโห

อะนากุลา จะ กัมมันตา

เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

 

นี้ ภาษิตมีอยู่อย่างนี้ อ้า เมื่อระลึกถึงบุญคุณของผู้มีพระคุณต่อเราแล้ว ไม่ทอดทิ้ง ไม่นิ่งดูดาย รีบเร่งขวนขวาย เออ สร้างบุญสร้างกุศลขึ้น นัดหมายกัน ณ สถานที่นี้ให้เป็นวันเช็งเม้ง วันตอบแทนบุญคุณของบรรพบุรุษของเรา ก็จงตั้งใจเอาเด้อ เออ

 

(เสียงบรรยายภาษาอังกฤษ)

 

แปลแล้ว เออ เมื่อบรรยายไปแล้ว แปลพร้อมอย่างงี้ เราก็งงเหมือนกัน เขาจะไปแปลไปยังไงหนออย่างงี้ เออ อะไรอ่ะ

 

อันอีเก กาเล (นานมาแล้ว) ในสมัยครั้งก่อนโน้น ในอดีตภาพครั้งก่อนโน้น มีพระราชาองค์หนึ่ง ครองประเทศจีนอยู่ ชื่อว่าอะไร ชื่อว่าพระเจ้าหวางตื้อ เออน่ะ พระเจ้าหวางตื้อนี่เป็นคนจริงคนจัง จะเรียกว่าคุ้มครองป้องกันไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินให้อยู่อย่างสงบสุขกันจริงๆ ถ้าใครนอกลู่นอกทางมาก็โดน โดนด่า โดนว่า โดนกล่าวต่างๆ นานา ถึงกับไล่หนีตีส่งไป แกจะไปอยู่ที่ไหนก็จงไป เออ อยู่กับข้า ไม่สบาย ที่ไหนมันสบาย เธอจะไปอยู่ที่ไหนก็ตามใจ เออ

ก็เข้าใจว่าพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าหวางตื้ออนุญาตให้ไปได้ เออ ก็เลยชวนลูกและเมีย เราจะอยู่ในเมืองนี้ไม่ได้แล้ว พระเจ้าแผ่นดินไม่โปรดเราแล้ว ไม่เมตตาต่อเราแล้ว เราทำอุตส่าห์พยายามทุกสิ่งทุกอย่าง ในการปกป้องคุ้มครองแผ่นดินให้อยู่ในขอบข่ายของศีลธรรมอย่างดี แต่เขายังนอกลู่นอกทาง เขาอยากจะไปก็ไล่ส่งเลย ไปอยู่ที่ไหนก็ไปเลย พูดด้วยความโกรธหรอก ความโกรธ ไม่ได้พูดด้วยความตั้งใจจริงหรอก โกรธแล้วก็ว่าออกมาอย่างเต็ม เต็มเปาเลย ไม่ได้ ไม่ได้นั่นเลย ไม่ทำให้โกรธเลย เปิดอกกัน ในส่วน อ้า ขุนนางผู้นั้นก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ใช้งานไหว้วานอะไรได้ทั้งนั้น ตรวจเป็นตัวแทน ของพระเจ้าหวางตื้อ ได้เลย

อืม บ่ายป่านนี้ จะไปทางไหนเน้อ ออกจากนี้ก็แต่งตัวซะล่ะ แต่งตัวพาครอบครัวหนี หนีไปอยู่อาศัยญาติๆ อยู่ทางเมืองบ้านนอกไปนู้น อ้า หมู่บ้านลิ้วฉี่ หมู่บ้านนั้นมันมีน้ำตก เออ ไหลลงมาตลอดปี เวลาฝนตกแรงก็น้ำท่วมบ้านท่วมเมืองได้ เห็นแต่ที่นั่นแหละ สถานที่เหมาะสมมาก ควรจะไปอยู่ที่นั้น ตั้งหลักตั้งฐาน สร้างเนื้อสร้างตัวที่นั่นได้อยู่ ไปกันน่ะไปทั้งลูก มีลูกสาว ลูกชาย ๒ คน ลูกสาวคนหนึ่งกำลังแตกเนื้อสาวขึ้นมาน้อยๆ

พากันรอนแรมไปถึงหมู่บ้านลิ้วฉี่ เมื่อไปถึงแล้วชาวบ้าน ทั้งหลายก็ดีอกดีใจ โอ้ย เจ้านาย อ้า ผู้เป็นหลักเป็นใหญ่ในหมู่บ้านเรา เพิ่นมาอาศัยพวกเรา พวกเราต้องจัดสถานที่ให้พักพาอาศัยตามสมควร ทำบ้านมันง่ายๆ เอา ทำตึกดิน ต่อขี้ดิน อ้า หญ้ามุงแฝกหรือมุงอะไรเอาน่ะ พอได้พักผ่อนอาศัยหย่อนใจที่นี่

แต่ว่า อ้า มิ่งกงฝ่าเป็นคนใจแตก ตกการตกงานมาแล้ว เอาตัวไม่อยู่ อ้า เล่นการพนันแก้กลุ้ม เออ ไปทางนี้ เล่นการพนันบ้าง เล่นผู้หญิงผู้ญาไปต่างๆ นานา เพราะใจมันแตกแล้ว ไม่เอาใจใส่ในการดูแลภรรยาเท่าไหร่นัก เออ

ภรรยาอดรนทนไม่ไหว ก็เลยขอลาสามี อ้า ข้ามภูข้ามเขาไปหมู่บ้าน อ้า โน้น ไปขนเอาใบชา ให้คนเอาพันธุ์ใบชามามากมาย อ้า หอบมาหิ้วมาแบกมา ข้ามภูข้ามเขามา จนถึงหมู่บ้านลิ้วฉี่ แล้วก็มาตั้งหลักตั้งฐานที่นี่ เห็นภูมิประเทศแถบนี้ เป็นสถานที่เหมาะสำหรับตัวเอง สำหรับชีวิตและครอบครัวของเราคงจะอยู่ได้ อยู่รอด พูดรวบรัดเอาก็เรียกว่ามาสับซ่าว(แผ้วถาง) มาขยับขยายพันธุ์ใบชาให้เต็มป่าแห่งนี้แหละ มันมีเนื้อที่เท่าไหร่ เออ เนื้อที่หลาย เออ หลายเอเคอร์(acre) มีจำนวนมาก จะพยายามขยายใบชาให้เต็มที่แห่งนี้จนได้ หมดแล้วไปเอามาใหม่ อยู่อย่างงั้นน่ะ อืม จนไร่ใบชากว้างที่สุดมาแล้ว สุดลูกหูลูกตา อ้า ใบชาชนิดนี้เป็นใบชาพันธุ์ดีนำมาจากเมืองเจียงหนัน เมืองกังไส ที่ในโน้น มาแล้วบัดนี้ มาตั้งหลักตั้งฐานขยายพันธุ์ อ้า ใบชานั้นให้ได้ผลมากที่สุด เออ

เพิ่นเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ก็เกิดโรคเบียดเบียนขึ้นมา อ้า โลหิตกำลังร่างกายอ่อนเพลีย เพลียแรง ต่อไปต่อมาก็มาตายซะ อ้า ทนไม่ไหว ทนต่อโรคไม่ไหว ตายแล้ว มิ่งกงฝ่าก็เสียใจปะเนี่ย แหม เสียเมียที่ดี ภรรยาที่ดีเป็นคนขยันจริงจัง เสียไปด้วยการไม่ได้ฟังคำเตือนของเราเลย เออ เสียใจ เราจะเลิกตามความประสงค์ของเขา ไม่เที่ยวผู้หญิง ไม่เที่ยวผู้ญา ไม่กินเหล้าเมามายอะไร เลิกทั้งนั้น เราจะขึ้นไปสืบต่อ อ้า ฝีไม้ลายมือ อ้า น้ำพักน้ำแรงของภรรยาที่ดีของเราให้ได้ อืม

ต่อแต่นั้นก็มาตั้งหน้าตั้งตาเลิกจากความชั่วทั้งหลาย อบายมุขทั้งหลายไม่เอาแล้ว ไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน ไม่ เออ เที่ยวผู้หญิงต่างๆ เลิกหมดทุกอย่าง เอาแต่งานอย่างนี้ ขึ้นไป เมื่อเช้าก็ขึ้นไป อ้า ตอนเย็นก็ลงมา มานอนกับลูกกับเต้าอยู่อย่างนั้นน่ะ อ้า เป็นคนมีสัจจะ มีความจริงใจอยู่อย่างนี้ เรียกว่า เออ เป็นคนจริง อันต่อไปต่อมานี้ก็ นำไร่ใบชา นำใบชาทั้งหลายมา อ้า เพาะไว้แล้วลองขยาย ขยายก็ขยายอยู่ แต่ว่านำใบชาไปขายในหมู่บ้าน ในหมู่บ้าน ใบชาขายดีมีรสนิยมสูง อ่ะเนี่ย

จนป่วยลงปะเนี่ย ป่วยลงซะแล้ว อ้า มิ่งกงฝ่าป่วยลงปะเนี่ย มันนอนน้ำตาไหล คิดว่าลูกสาวเรา มันจะไปรอดไหมหนอ อย่างงั้นอย่างนี้ ชิ้วหลั่นเอ้ย พ่อไม่มีอะไรให้เจ้านะ มรดกตกทอดอะไรไม่มี ไอ้ ๒ คนพี่น้องน่ะ มาขูดมาเกาเอาไปหมด ไอ้จุ๊กฝ่า ไอ้ฉิ่นฝ่านั้นมันเป็นนักเลง เออ เขาจับได้ไปติดคุกติดตะรางอยู่นู้น แล้วมาไถเอาพี่น้อง อ้า ทุกข์ธรรมดา มีเงินมีทองมาหมด ไปเอาเงินมาจากพ่อ จากแม่ จากตระกูล จากน้องสาว

น้องสาวนั้นเป็นคนดี ไม่เที่ยวเตร่เฮฮาใดๆ ดูแล เออ เตี่ย ดูแลพ่อ ผู้เป็นพ่อกำลังป่วยหนักอยู่ เอา เอา เอายาเอา(อะ)ไรให้กินเป็นประจำอยู่ประจำ จะ จะดูแลรักษาพ่อเอง ด้วยกำลังใจของเรา ด้วยความรู้ของเรา

วันหนึ่งก็พูดกับลูกสาวว่า หลั่นเอ้ย ชิ้วหลั่นเอ้ย พ่อไม่มีอะไรให้เจ้านะ แต่ทรัพย์สมบัติก็ไม่มีอะไรก็ไม่มี เรามาอยู่กับหมู่บ้านเขา เขาก็ช่วยเหลือเราตามมีตามได้ อ้า พ่อไม่มีจริงๆ ช่างมันเถอะพ่อปะเนี่ย เออ เตี่ยเอ้ยช่างเถอะ ไอ้อย่างนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกพ่อ ให้พ่อเร่งกินยาเร็วๆ กินยาบ่อยๆ อย่าไปประมาท เออ มันจะดีขึ้นมาได้หรอก แน่ะ เอาไปเอามาก็สั่งเสียลูกว่า บ้านช่องมีแต่บ้าน อ้า ร้างๆ บ้านเพๆ (ผุพัง) ชำรุดทรุดโทรมอย่างนี้ ไม่มีอะไรจะให้เป็นมรดกของเจ้าล่ะ แต่ว่ามีไร่ใบชานั่น เออ แม่ของเจ้า แม่ของชิ้วหลั่นเป็นคนไป ขยันไปขนมาจากเมืองเจียงหนัน เมืองกังไส มาขยายเป็นไร่ใบชาใหญ่โตมาก เออ

ต่อไปต่อมาก็ตายเพิ่นเน้อ อ้า มิ่งกงฝ่าตาย ตายอย่าง น่าทุเรศ พอเตี่ยตายแล้ว วันนั้นฝนห่าใหญ่ก็ตกอย่างแรงเลย น้ำตก เออ ในหมู่บ้านลิ้วฉี่ดังสนั่นหวั่นไหวไปหมดทั้งบ้าน อ้า ทางนี้ก็นอนกอดศพปู่ เออ พ่อของตนเอง เออ ไป จะไปบอกพี่บอกน้องให้หามมาช่วย ก็ไปไม่ได้ เพราะน้ำมันท่วมไปหมด ในบ้านของเราก็น้ำท่วมเหมือนกัน ยังเหลือแต่เตียงนอนของเตี่ย อ่ะ ก็นอนหลับอยู่กับเตี่ยนั่นแหละ เตี่ยตายแล้วก็นอนหลับอยู่ใกล้ๆ กัน เออ

ไม่ ไม่ได้ไปเรียกพี่เรียกน้อง ญาติโกโหติกาทางอื่นมาช่วยงานไม่ได้ จนสว่าง จนสว่างแล้วฝนก็เลิก น้ำก็พอไปได้ เออ ก็ออกจากนี้ก็ เออ ลุยน้ำไปบอกพี่บอกน้อง อ่ะ พี่น้องทั้งหลายเอ้ย เตี่ยของข้าพเจ้า พ่อของข้าพเจ้านั่นเสียชีวิตค่ำคืนนี้ มาบอก
พี่น้องไม่ได้ เพราะฝนมันตก น้ำมันท่วมมาก มันแจ้งสว่างแล้วจึงค่อยได้มา จึงค่อยได้มาบอกพี่น้องไปช่วยเหลือ ขอแรงพี่น้องทั้งหลาย อ่ะ ช่วยเหลือเอาศพของเตี่ยขึ้นไปฝังไว้ในไร่ใบชา เออ เรียงๆ กันกับมารดาผู้เขาเสียไปแล้ว แม่เสียไปแล้วเอาศพไปไว้ที่ไร่ใบชา เอาเตี่ยนี่ไปฝังไว้เรียงกันไว้ที่นั่น เออ โอ้ย ของเล็กน้อย ชาวบ้านชาวเมืองเขาก็อาสาสมัคร อ้า ช่วยทำกิจธุระฌาปนกิจอันนี้ให้ อย่างเต็มอกเต็มใจจนเรียบร้อย เรียบร้อย ก็ทำบุญตามมีทำได้กันนั่นแหละ เออ มีเท่าไหร่ก็ช่วยกันออกไม้ออกมือ ทำทุนพอสมควร เออ อ้า ปะเนี่ยก็ จบอันนี้ซะก่อน เรื่องราวนี้มันจะเป็นยังไง ชิ้วหลั่นจะเอาตัวรอดได้หรือเปล่า อ้า นี่แหละติดตามตอนต่อไป ผู้บรรยายเพิ่นมีบรรยายยังปะเนี่ย เฮอะ อ้าเฮอะ

 

(เสียงบรรยายภาษาอังกฤษ)

 

อ้า เพิ่นๆ บรรยายจบแล้วเพิ่น เพิ่นแปลจบมาแล้ว ต่อเรื่องได้เลย บัดนี้ชิ้วหลั่นไม่มีเพื่อนอยู่ด้วย เป็นหมู่เป็นพวก เอาพ่อเอาแม่ขึ้นไปฝังไว้ในป่าใบชาเรียบร้อยแล้ว เป็นอนุสาวรีย์แล้ว อ้า

เอ้ ส่วนพี่ชาย ๒ คน ไอ้จุ๊กฝ่า ไอ้ฉิ่นฝ่าน่ะ มันเป็นคนเกเรเกกมะเหรก ไม่ตั้งจิต ไม่ตั้งใจเล่าเรียนศึกษาอะไรเลย มีแต่เที่ยว มีแต่เล่น มีแต่กินเหล้าเมามายไป เป็นนักเลง เรียกว่า เป็นนักเลง บ่อยู่ในสนับบังคับของพ่อของแม่ เขาเลยจับไปขังซะ ไปขังทรมานไว้ แต่ให้เกียรติหน่อยหนึ่ง ว่าลูกขุนนางเก่า ให้เกียรติ ไม่ได้ขังมากมายอะไรนัก อ้า ไปติดคุกติดตะราง ก็หากินเหล้ากินยาอยู่อย่างนั้นเหมือนเก่า เป็นนักเลงเกกเขกอยู่อย่างงั้น อ้า พ่อแม่มันเลยหมายหัวไว้ อ่ะ สั่งลูกว่าหลั่นเอ้ย ไอ้จุ๊กฝ่า ไอ้ฉิ่นฝ่านั่น ปล่อยมันซะ อย่าไปเอาเรื่องกับมันเลย ปล่อยมันไปตามเรื่องตามราว มันติดคุกติดตะรางอยู่ที่ไหนก็รู้อยู่ เออ แต่ว่ามันก็ต้องใช้กรรมของมันเอง น่ะ

อันนี้มาย้อนถึงแม่เฒ่าหยู้หลั้ง แม่เฒ่าหยู้หลั้งเป็นญาติห่างๆ ของชิ้วหลั่นนั่นน่ะ ของตระกูลนี้ สงสารชิ้วหลั่นอยู่คนเดียว เลยมาอยู่เป็นเพื่อน มาอยู่เป็นเพื่อนแล้วก็ ให้พายายไปดูไร่ใบชา ทรัพย์สมบัติของพ่อมีอยู่แค่นั้น พ่อกับแม่ทำไว้คือไร่ใบชากว้างสุดลูกหูลูกตา พาไปดู ยายพาไปดู พาไปดู ตรงนี้ๆๆๆ เป็นของเราหมด ไร่ใบชาทั้งหมดเนี่ย โอ้ย ไม่ตายหรอกหลั่นเอ้ย เราไม่ตายยาก ยายจะจัดการกับมันเอง จะเป็นผู้เอาใบชาที่นี่ไปขาย ในเมืองเจ๋ให้ได้ อ้า วันหนึ่งๆ เก็บมาไว้ได้หลายตะกร้าแล้ว อ้า มาบ่มไว้หรือทำยังไงของเขา พอมันได้ที่แล้วก็เอาไปขายในเมืองเด้ ในเมืองเจ๋ ได้เงินได้ทอง มีคนสำคัญคนหนึ่ง มาให้ราคาดีทุกครั้ง คนคนนั้น ชื่อว่านายหวาง อ่ะนะ อ่ะ ยายไม่รู้จักหรอกพระเจ้าหวางตื้อหรอก หาว่านายหวาง พระเจ้าหวางตื้อนั่นน่ะให้ราคาดี เอาไป เท่าไหร่เอาหมดทุกอย่าง อ่ะที่เอามาให้ อ่ะอ่ะ เอาหมดทุกอย่างแล้วก็จ่ายเงินให้ยาย ยายก็ได้เงินได้ทองแล้วก็กลับบ้าน ไปเลี้ยงชิ้วหลั่นอยู่อย่างเก่า

ทำงานมาตั้งหลายเดือนแล้ว ยายก็แก่แล้ว ก็ป่วยเป็นไข้ตะครั่นตะครอ ไม่แข็งแรงอย่างเก่า แบกเถาใบชา แบกตะกร้าใบชาขึ้นเขาลงห้วย เห็นจะลำบากแล้ว อ้า เอามันไว้นั้นซะก่อนนะหลั่น เนี่ย เจ้าเป็นสาวเป็นนาง ไม่ควรออกไปเดินทางไกล ต้องรักษาเนื้อรักษาตัวนะ ยายเป็นห่วง ชิ้ว ชิ้วหลั่นยังเป็นคนรั้น ชนิดหนึ่งเหมือนกันนะ เออ ยายห้ามเรา ประสงค์อยากจะให้เรานี่เป็นคนดี เออ แต่ว่ายายเป็นห่วงเพราะเป็นเพศผู้หญิง เพราะฉะนั้นเราต้องแปลงตัว เอาๆ เอาหนวดมาแต้มหนวด จุ๋มจิ๋มๆ ลงมา ก้นคางก็มี กระจุ๋มกระจิ๋มนิดหน่อย แล้วก็แต่งตัวอาตี๋ออกมา มาหายาย จะมาสั่งยาย จะเอาใบชาไปขายให้ได้

มาแม่ยายๆ จำข้าพเจ้าได้ไหมยาย เออ เอ้ ไม่เคยเห็นชายหนุ่มอย่างนี้มาหาสักทีเลย นี่มันมายังไงกันนะ มองไปมองมาจึงนึกออกว่า โฮ ชิ้วหลั่นนั่นเอง เออ ถ้าไปแบบนี้อาจจะปลอดภัยดีอยู่ เดินทางข้ามภูข้ามเขาไปขายใบชา เออ ถ้าสั่ง สั่งว่าถ้าจะไปจริงๆ นะให้ไปขายให้นายหวางนะ ให้นายหวาง นายหวางให้ราคาดีทุกครั้ง ยายไปได้ เพิ่นรับเอาหมดนายหวาง หมาย หมายถึงพระเจ้าหวางตื้อ ยายไม่รู้จักว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าหวางตื้อท่านให้ราคาดีที่สุด เออ จำได้ไหม จำได้ อืม พอได้ตะกร้าใบชาแล้ว ก็หาบหิ้วออกไปใส่ทางล้อทางเกวียนเขาให้เฒ่าแก่คนหนึ่ง เป็นผู้นำไปต่างนำสิ่งของจากหมู่บ้านลิ้วฉี่ เออ จากๆ จากตลาดนู้นน่ะ อืม มาขายเสมอๆ เออ เลยสั่งว่าให้ไปขายนายหวางเน้อ เออ เอ้ นายหวางนี่ มันบ้านอยู่ไหน

เอ้า เขามีกำแพงใหญ่ๆ กำแพงหมายถึงว่า รั้วพระราชวังนั่นล่ะ กำแพงใหญ่ๆ ข้ามคลองเข้าไป ก็จะไปเห็นบ้านเขา ไปขายให้นายหวาง ได้ราคาดีที่สุดในบรรดาผู้ซื้อลูกค้าทั้งหลาย ไม่ได้เงินได้ทองอะไรมากมายหรอก แต่ว่าไปให้ในบ้านนายหวางนี่ ให้คุ้มค่าทีเดียว ให้เงินหลายตำลึง ทำตามนั้นล่ะ

ทีนี้บัดนี้จะกล่าวถึงลูกชายของพระเจ้าหวางตื้อ ชื่อว่าอู๋เหล็งกุมาร มักเที่ยวประพาสป่า อ้า เที่ยวดูบ้านดูเมือง เที่ยวประพาสป่าเป็นคราใหญ่ เออ เลยสั่งว่า เจ้าเป็นลูกขุนนางนะ เจ้าเป็นลูกเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน จะแต่ง แต่งตัวดีๆ ไป ไม่ ไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ ให้เธอปลอมแปลงเป็นอาตี๋ปลอมน่ะ อ้า เป็นหนุ่มไปเที่ยวดูลิงดูค่างในป่าได้อยู่ ฟังคำสั่งของพ่อแล้วก็ไปเลย แต่ง เออ แต่งเสบียง เสบียงเดินป่า ให้ลูกน้องติดตามขุนพลทั้งนั้น ขุนพลผู้นั้น นายพลนายพันอะไร ให้ ให้ไปแต่งตัวแบบชาวบ้านธรรมดา ไม่ให้แต่งตัวเต็มยศเป็นนายร้อยเป็นนายพันก็ตาม ให้แต่งตัวธรรมดาชาวบ้านไปเที่ยวป่า ถ้าอย่างงั้นเขาจะยึดเอา เออ กำลังของเราไป อ้า กระทำตามคำสั่งเลย จัดเอาอาหารการกินเสบียงกรังได้เต็มที่ แล้วก็ออกเดินทางไปเข้าในป่า ในป่านั้นมันเป็นน่าดูน่าชมเหลือเกิน มีน้ำไหล มีห้วยน้อยๆ น้ำไหล มี เออ หญ้าเลื้อยลงมาปกน้ำ อ่ะ

มีงูเห่าดำหรืองูจงอางหรืองูเห่าดำตัวใหญ่ๆ เอ้ เห็นคนเดินซวบๆ มาทางนี้ ก็ยกคอขึ้นไปอยู่ตรงป่าไม้ ทางนี้เดิน ไม่ ไม่ได้ระวังอะไร ก็ถูกพอได้จังหวะ มันก็กัดเอาหัวแม่เท้าเลย งูตัวนั้นกัดเอาหัวแม่เท้า โอ้ งูกัดกู อ้า กุมารอู๋เหล็งกุมารก็ชักดาบกระบี่ออกจากหลัง มาตัดคองู ตัดคองูขาดก็ทิ้งไปทางโน้น แล้วก็ไปนอนร้องครางปวดอยู่ อ๋อ เสียงอ๋อยๆ อยู่นั่นน่ะ ปวดหลาย

เรียกให้หมู่มาช่วย หมู่เดินทางไปคนละทาง ละคน เออ มาแล้วเลือด ไหลออกตามไรฟัน เลือดออกจากปากจากไรฟัน นี่มันเลือดมัน มันพิษงู มันแรงมาก เลยหามเอาศพ หามเอาร่างกายของหู.. เออ อู๋เหล็งกุมารเนี่ย อ้า มันเร็ว.. อู๋เหล็งกุมารหามมันไปใส่ทางเกวียน ไปใส่ทางเกวียนก็เพื่อจะอาศัยเกวียนเขาเข้าไปในตลาด เออ อ้า ไม่ได้ไม่นานเกวียนก็มาแล้ว ก็ได้เกวียนชิ้วหลั่น ที่เกวียนชิ้วหลั่นนั่นที่บรรทุก เออ ใบชา ขออาศัยเกวียนเขามา จะเข้าไปในตลาด เออ ไปขายเหมือนกัน เออ

เขาเลยมาโค้งคำนับนายกองเกวียนคนนั้น นายๆ ขออาศัยไปด้วยคนเถอะ มีคนอาพาธหนัก งูเห่าดำกัด อาการสาหัสปางตาย เพราะฉะนั้น ขออาศัยเข้าเมืองด้วยเถอะ อ้า เออ เฒ่าแก่ หรือว่า อากงคนนั้นเหลียวมาปรึกษาชิ้วหลั่น ว่ายังไงอ่ะ เขาเหมามาแล้ว เขาเหมาล้อมาได้ ว่ากับเรา จะเอาคนไข้ขึ้นมาจะดีไหม เอาเลย เอามา เอามาได้ เอากระเถิบตะกร้าใบชาไปติดๆ กับคนขับเกวียน แล้วก็หามเอาคนเจ็บ เต็มเกวียนข้างหลังนั่น

 

ชิ้วหลั่นก็นั่งพิจารณาอยู่ แล้วมีเสียงอะไรเกิดขึ้นมาในหู เสียงพ่อสั่งว่า หลั่นเอ้ย ใบชานี่มันเป็นยาอย่างดีนะ ยาอย่างดี แก้อสรพิษได้ทุกอย่าง งูกัดหรืออะไรกัด กัดต่อยมันจะรุนแรงขนาดไหน เคี้ยวใบชาเข้าเต็มปาก แล้วก็แปะตรงแผลมันเน้อ มันก็ดูดออกมา ดูดออกมา แล้วก็นอนไปนอนมา แล้วแปะอีกใบ เห็นนิ่ง นิ่งอยู่ มันคงจะถูกหรือยาชนิดนี้ ไม่ใช่ เคี้ยวใหม่แปะใหม่อยู่อย่างงั้นน่ะ

ก็เลยบอกให้จอดเกวียนสักหน่อยนะ จอดเกวียนสักหน่อย ขอน้ำร้อน อยากได้น้ำร้อน อ้า สักกาใหญ่ๆ จะเอาใบชานี่กำวางลงใน แอ้ หม้อใบชา ได้ตามสมประสงค์แล้วก็ เอาใบชานี้แปะใส่แผลเก่า อ้า เอาของเก่าทิ้งออกไป ของใหม่มาถึงอีกปะเนี่ย กินใบชาลงไป

ปรากฏว่าบุญบันดาล บุญบันดาล พอกินใบชาลงไปแก้วหนึ่ง ทีหลังนี้ เรอ เอาวะ เอื้อม(เรอ) อาาาาาาา ออกมา ยัง โอ้ ไล่พิษงูออกมาแล้ว อ้า แล้วก็ลืมตาเม่า(ลืมตาโพลง)ขึ้นมา เอ้ ใครหนอ มาช่วยเหลือเราแล้ว ทำให้เราหายจากพิษปวด ปวดพิษงูนี่ได้อย่างชะงัดนะนี่ ใครหนอ มองไปมองมา เห็นอาตี๋คนหนึ่ง นั่งเฝ้าดูแลรักษาอยู่ เป่าให้ฟัง นี่เคี่ยวยาปะบ้างอะไรบ้าง คงจะเป็นคนคนนี้แหละว้า เออ มาช่วยเรา เออ เข้าท่าเว้ย ถ้าไปบ้าน ไปถึงบิดาแล้ว พระบิดาแล้ว จะขอ ขอตัวเขาเองเนี่ยมาเป็นมหาดเล็ก พาเราไปไหนๆ ก็จะสะดวกสบาย เป็นหนุ่มหมอยาด้วย รักษาพิษงูได้สบาย เออ คิดได้อย่างนี้แล้วได้อยู่ ต้มน้ำสุกแล้วก็ให้กินน้ำ พอกินน้ำชาลงไปเท่านั้นแหละ น้ำชาร้อนๆ กรอกปากเข้าไป อึกๆๆๆ เข้าไปเต็ม คงหิวล่ะ หิวน้ำมานานแล้ว ควรด้วยฤทธิ์ใบชานั่น ก็ไล่พิษทั้งหลายเด้ เรอ เอื้อม(เรอ) เอื้อม(เรอ) เออออออออ มาสุดเสียง แล้วก็ไล่ลม ผายลม ตดออกไป ปื้ดดดดดดด ออกไป ลืมตาเม่า(ลืมตาโพลง)ขึ้นมา อ๋อ คนไหนมาช่วยเราหนอ อะไรคงจะอาตี๋คนนี้ล่ะมั้งมาช่วยเรา เออ เป็นยังไง หายแล้วหรือ หายแล้วหรือ หายตั้งใบชาถ้วยทีแรกแล้ว หายแล้ว ไม่เจ็บไม่ปวดแล้ว พิษเท่าไหร่มันหายไปหมด ก็เลยดี อ้า

เขาก็เลยปล่อยให้คุยกันอยู่ในเกวียน ถึงเวลากินข้าวกลางวัน แล้ว หนีไปกินข้าวกันอยู่ทางนู้น ทางนี้คุยกันอยู่ ทางนั้นรู้เรื่องรู้ราวกันดี เออ นึกในใจว่าอาตี๋คนนี้เป็นผู้มีบุญคุณต่อเรา ขนาดเราจะตายอยู่แล้ว แต่เขาก็ใส่ยาโอสถให้เรา อ้า ทำให้ผายลม ปื้ดดดดดดด ได้ เอื้อม(เรอ) เออออออออ ออกมา พิษงูหมดแล้ว เลือดที่ออกจากไรฟันทั้งหลายก็หายแล้วไปแล้ว นั่งคุยกันอยู่ อยู่ในเกวียนนั่นแหละ เขาให้คุยกันอยู่ในเกวียนนั่นแหละ อ้า พวกนั้นกินข้าวกลางวันเสร็จแล้ว ก็อพยพเกวียนเอาวัวมาเทียมเกวียนเข้า อ้า แล้วก็เดินทางต่อจากนั้นเข้าตลาด เออ ไปถึงตลาดแล้ว โอ้ ท่านผู้มีพระคุณเอ้ย ทำยังไง จึงจะได้รู้จัก เออ ผู้มีพระคุณดี มีพระคุณ เราจะตายอยู่แล้ว แต่ว่าผู้มีพระคุณมาพยาบาลเราเนี่ย หายขาดเลย อ้า เอาล่ะนะ ก็พูดเกี้ยวพาราสี
กันนิดหน่อย อ้า ถูกจริตนิสัยกัน ถ้าหากว่าถึงบ้านแล้วจะเชิญพระบิดา อ้า รับเอาเธอไป เออ ไปทำ ทำงานทำการอย่างอื่น ไม่ให้ขายใบชาอย่างงี้

อ๋อ เข้าใจว่าเขาไม่รู้ไต๋ของเรา ว่าเราเป็นผู้หญิงปลอมเป็นผู้ชาย ไม่ ไม่ ไม่ปิดบังไว้ แต่ว่าเสียงน้อย เสียงเปลี่ยนไม่ได้ เสียงน้อย อ้า คุยกันไปคุยกันมาก็ถูกชะตากัน มันดีนะ อ่ะอืม ใบชานี่มีบุญคุณมากทีเดียว เออ แก้อสรพิษได้ฉกาจฉกรรจ์ให้หายครั้งนี้เลย ถ้าเราเดินทางเข้าในตลาด พวกเจ้านายที่ติดตามไป พากันไหลเข้าไปในตลาด เพื่อกินข้าวกินปลากัน จะทำยังไงล่ะ แอ้ อู๋เหล็งกุมารล่ะ เอ้าเอาเถอะ อย่าทิ้งเอางูที่ตัดคอมันขาดไปแล้ว เอาม้วนๆ ใส่กันไว้ นี่เอาเป็น เป็นสักขีพยาน พระเจ้าหวางตื้อ เห็นแล้วก็จะดีใจว่างูตาย แล้วพระกุมารก็หาย หายจากพิษไข้นั่นแล้ว

เอาล่ะปะเนี่ย ก็เดินทางเข้าเมืองแล้ว หมู่พวกก็ขยายกันไป ไปนั่งตามม้าหินม้าเหิน ตามร่มไม้ต้นเฟื่องฟ้าราตรีมีอยู่แถวนั้น สำหรับให้แขกนั่ง นั่งเหงาอยู่นั่นแหละ ข้างโน้นก็เตรียมตัวไว้ พระเจ้าหวางตื้อเตรียมตัวไว้ กุมารอู๋เหล็งก็เข้าไปหาพ่อหาบิดา คุย ได้ยินข่าวว่างูกัดอาการสาหัสสากรรจ์ แล้วเลยทำไมถึงหายมาได้อย่างนี้ มีเรื่องที่จะเล่าขอร้องพระบิดา มีกุมารคนหนึ่ง เป็นหนุ่มอยู่ อ้า แต่ว่าหน้าตาเหมือนผู้หญิง แกมีหนวดจุ๋มจิ๋มนิดหน่อยน่ะ เป็นผู้มารักษาพยาบาล ข้าพเจ้าถึงได้มา อ๋อ แล้วเขาอยู่ไหน จำได้ไหมเจ้าหน้าที่ขุนพล นายพลนายพันทั้งหลาย จำหน้าเขาได้ไหมคนที่ขายใบชา จำได้ ใครจำได้ก็ออกไป ไปๆ ไปตามมา ไปตามมาเอามาหมดทั้งใบชาเลยนะ เอามาหมด แม่เฒ่าหยู้หลั้งเคยเอามาขายให้เราใบชาพันธุ์นี้ เออ พอ นายๆ กุมารก็แต่งตัว อ้า มกุฎ แต่งตัวมกุฎราชกุมารจนเต็มยศ ใส่ยศ ใส่ยศถาบรรดาศักดิ์มีเท่าไหร่ แต่งตัวอย่างดี ให้พวกทหารทั้งหลาย ออกมาเชิญ มาแล้วเพิ่นก็เห็นนั่งอยู่ม้าหิน อ้า ในเมืองเขามีม้าหินให้นั่ง นั่งเฝ้าแถวตะกร้าใบชาอยู่นั่นเอง ไปโค้งคำนับ

โอ้ย เจ้านายแต่งตัวขนาดนี้ มาคำนับข้าพเจ้าเนี่ย ทำยังไง ตกใจร้องวี๊ดสุดเสียง เอ้าทำไม มาเคารพข้าพเจ้าเปล่า ข้าพเจ้าเป็นคนที่ ผู้ติดตามกุมารผู้เคราะห์ร้ายนั้น อ้า ไปทูลพระราชา พระราชาอยากจะเห็นเจ้าของใบชาบ้าง อ้า เลยให้ข้าพเจ้ามาเชิญไปหาพระเจ้าหวางตื้อ บ้านนายหวาง บ้านนายหวางก็คือนี่ล่ะ นี่ล่ะ กำแพงใหญ่ๆ นี่ล่ะ โอ้ ตายแล้ว เพิ่นเข้าในวังในรั้ว ไปยังไงล่ะ แล้วเพิ่นพูดยังไงกับพระราชา พูดไม่เป็น โอ้ย เอาข้าพเจ้าคืนไป เอาข้าพเจ้าคืนไปเดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้าไม่ค่อยกล้าไปหรอก หาพระเจ้าแผ่นดินอะไรหรอก เออ

เฮ้ยไม่ได้ เป็นคำสั่งเด็ดขาดของพระเจ้าหวางตื้อ เป็นผู้สั่งการจัดเกี้ยวจัดอะไรไว้ ตั้ง ตั้งโต๊ะตั้งเตียงไว้เต็มที่แล้ว ไว้ต้อนรับเจ้าของใบชา ถ้าไม่ไปก็ไม่ได้อีกแหละต้องไป ไปๆ ส่วนใบชาก็มีนายทหารให้ใส่บ่าหนึ่ง ๒ บ่าเดินเข้าไป ออกหน้าเข้าไป ถ้าไม่ไปก็ไม่ได้อีกแหละ ต้องไป ให้ไป ใบชายังมี นายทหารขึ้นสะพายให้ ใส่บ่าหนึ่ง ใส่บ่าหนึ่ง ๒ บ่า อ้า เดินเข้าไปออกหน้าเข้าไป พอออกจากกำแพงใหญ่ๆ แล้วไปถึงรั้วเหล็กกล้าอีก รั้วเหล็กกล้ามีทหารเฝ้าประตูอยู่เหมือนกัน พอไปถึงเปิดประตูออก เจ้านายทำความเคารพ นายหัวหน้าผู้ ผู้เป็น เป็นนายพันนายพลอะไร มาทำความเคารพ ร้องวี๊ดขึ้นอีกแล้ว เอาข้าพเจ้าคืนไปแค่นี้ อันข้าพเจ้าไม่กล้าไป ไม่ไปไม่ได้ อันนี้เป็นคำสั่งของพระเจ้าหวางตื้อ เป็นผู้ที่สั่งให้พวกข้าพเจ้ามานำตัวเข้าไปเฝ้า ไม่ต้องกลัวใดๆ ทั้งนั้น บางทีอาจจะได้ดิบได้ดี เพราะพระเจ้าหวางตื้อทรงโปรด อืม ค่อยนิ่งไปค่อยเดินไปๆ

ทำท่าแย่งตะกร้ากันกับ เออ ลูกหาบทั้งหลายแย่งกัน จะไม่เข้าไปในรั้วในค่ายหนึ่งเป็นอันขาด อืม ฝ่ายกุมาร อู๋เหล็งกุมาร ก็เดินแกมวิ่งมาขวับ เติบๆๆ มา เผอิญแหงนดูหน้า อ๋อ ชายเคราะห์ร้ายคนนั้นนั่นเอง อ้า ที่เราเยียวยารักษามาในตลอดทาง ชายคนนั้นนั่นเอง เพิ่นแทนเป็นลูกชายของพระเจ้าหวางตื้อ คนตอแหล นะว่างั้นนะ ว่างั้นว่าคนตอแหล เออ เธอก็ตอแหลฉันเหมือนกันแหละ อืม เธอก็ตอแหลฉันเหมือนกัน ไปเฝ้าพระบิดาซะก่อน ได้รับรางวัลซะก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน ก็อุตส่าห์ก้มหน้าก้มตา อ้า เดินเข้าไปหา

พระราชานั่งเก้าอี้ใหญ่โต รโหฐาน ทำหนวดหยุบหยับๆ อย่างงี้อยู่ พระเจ้าหวางตื้อก็มองดูหน้า ตั้งแต่หัวจรดปลายตีน มองจากตีนถึงหัว เอ้ มันเป็นใครไม่ได้ว่ะ คนนี้มันไม่ใช่ ผู้หญิงเน้อ คนนี้มันไม่ใช่ผู้ชายเน้อ แน่ะ มีลูก ลูกสาวของมิ่งกงฝ่าคนหนึ่งเป็นผู้หญิงอยู่ เกิดรุ่นราวคราวเดียวกับลูกเราอ่ะ นั่งดูไปดูมา ก็เลยแน่ใจว่าเธอคงเป็นลูก ลูกสาวของมิ่งกงฝ่าแน่นอน เออ ได้ถามหาจะเอากลับคืนมา เออ ทำงานทำการ แต่ก็ถามหาแทบ พลิกแผ่นดิน ไม่เห็นสักที่เลย ไม่เห็นสักคนเลย หาแต่พอแรง แต่ได้ทราบข่าวทีหลังว่าตายแล้วมิ่งกงฝ่าตายแล้วทั้งเมีย ฝังไว้ที่ไร่ใบชานั่นเอง เออ มันเป็นอย่างงี้นี่เอง เอามาสอบสวนกัน

ก็กราบ กราบพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าหวางตื้อ เออ เธอชื่ออะไรน่ะ เธอชื่ออะไร เออ ชื่อหลั่นคะ เอ้า เธอเป็นผู้ชายทำไมชื่อ เธอชื่อหลั่นอย่างงั้นล่ะ เธอมีหนวดมีเคราอย่างนี้ มันน่าจะเป็นชื่อผู้ชาย นี่ชิ้วหลั่นน่ะเป็นชื่อผู้หญิง เอ้า ขอถามเธอเสียก่อนปัญหา ปัญหาที่สงสัยเนี่ย เธอเป็นผู้หญิงหรือเธอเป็นผู้ชาย บอกฉันตามตรงนะ โอ้ ไม่รู้จะได้ตอบยังไงไม่มิด โกหกชาวบ้านชาวเมืองเขามาว่าเป็นเป็นผู้ชาย เป็นหญิงหรือเป็นชายบอกฉันตามตรงนะ ฉันรู้นะ เออ แม่ของเธอฉันเป็นคนหาให้พ่อเจ้า ให้พ่อเจ้าได้แต่งงาน นี่ได้ลูกชาย ๒ คน อ่ะ คนหนึ่งมันชื่อจุ๊กฝ่า คนหนึ่งมันชื่อฉิ่นฝ่า แล้วมีลูกสาวคนหนึ่งชื่อชิ้วหลั่น เนี่ย ๓ คนนี้ เป็นลูกของขุนนางของข้านะ

เธอจะว่ายังไงเธอเป็นหญิงหรือเธอเป็นชาย เออ บอกตามตรงนะ เออ อึกอักๆๆ อยู่ ฟังเสียงพูดก็เป็นเสียงผู้หญิงน่ะ บอกตามตรง อย่าอำข้าเลย ปกปิดข้าไม่อยู่หรอก ข้ารู้ ดูหน้าตามันเหมือนแม่มันล่ะ จริง เหมือนแม่จริง ก็พ่อนี่ได้หาให้เขาแต่งงานแต่งการกัน แอ้ แม่เขาชื่อนั้นชื่อนี้ พ่อของเขาชื่อว่า อ้า มิ่งกงฝ่า มิ่งกงฝ่านั้นเขาเป็นขุนนางของข้านะ แผนกตุลาการ เออ

เราเป็นคนขี้กริ้วแต่ก่อน สมัยก่อนกริ้วคนไหน ด่าคนไหนแหลกลาญ อยู่กับเราไม่ได้ อ่ะใช่ไหม พ่อของเจ้าชื่อมิ่งกงฝ่าใช่ไหม แม่เจ้าอ่ะ นี้ นี้เป็นคนหา ไปหาผู้หญิงให้ แม่เจ้า ในขณะที่เขาทำราชการอยู่ด้วย เป็นหญิงหรือเป็นชายล่ะ บอกตรงๆ นะ เป็นหญิงเพคะ อ่ะแน่ะ เป็นหญิงเพคะ เออ

ดีมากเธอไม่ปิดบังฉัน เธอปิดบังคนอื่นได้ แต่ฉันรู้ ดูเค้าหน้าตามันเหมือนแม่มันเหลือเกิน เออ ไม่มีผิด เหมือนกันกับแม่เจ้าสมัยเป็นสาวเป็นหนุ่มล่ะ อ๋อ นี้เองเป็นคนไปสู่ขอเขา ให้มิ่งกงฝ่าขุนนางของข้า เออ ถ้าอย่างงั้นเราจะ ลูกของเรานี่ไปพักบ้านรับรอง เรือนรับรองของหลวงนะ อ้า มีคนรักษาเฝ้า อย่าให้ลำบากลำบนเลย ที่หลับที่นอนจัดให้ดีๆ การอยู่การกินอย่าให้อดอยากลำบากใดๆ ทั้งนั้น โอ้ย ตายแล้วเรามาเห็นพระเจ้าแผ่นดินชื่อ เออ พระเจ้าหวางตื้อนี่นี้เอง ก็ทนเอาอยู่อย่างงั้นแหละ ให้ไปก็ไป ไปที่บ้านรับรอง

เขาก็รับรองให้ความสะดวกสบายเพราะเป็นแขกของ ของหลวง แขกของพระเจ้าแผ่นดินเอง อ้า แล้วก็กำลังประชุมกันอยู่นั่น ก็เลยถาม อ้า ขุนนางทั้งหลาย ท่านทั้งหลาย เจ้าของใบชาน่ะ เขาเป็นผู้หญิง บัดนี้พระเจ้าแผ่นดินสืบทราบแล้ว พระเจ้าแผ่นดินจะไปสู่ขอผู้หญิงคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้หลวง ที่เขาช่วยเหลือกันได้นะอ่ะ ท่านทั้งหลายจะว่าอย่างไร

เป็นการสมควรอย่างยิ่งพระเจ้าข้า ที่ตอบแทนเขาด้วยการเอาเขามาเป็นลูกสะใภ้หลวงอ่ะ อ้า ดีจริงๆ เป็นอันว่าตกลงนะ เออ กราบพระเจ้าหวางตื้อ พระเจ้าหวางตื้อก็น้ำตาพัง(ไหลพราก)ลง

ความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของสังขารหนอลูกเอ้ย อ้า นึกว่าอยู่ดีกินดี เราตามหามิ่งกงฝ่า แทบจะพลิกแผ่นดินก็ไม่เจอ อ้า หาที่ไหนก็ไม่เจอ ถ้าเจอเขาแล้ว ก็แต่ละคน เมียก็ตาย สามีก็ตาย อ้า ทำศพไว้ที่นั่นด้วย สักวันหนึ่งเราจะได้ไปขอขมาโทษ อ้า มิ่งกงฝ่าให้ได้ จัดการพิธีแต่งงานกันซะก่อน อ่ะ จัดแต่งงานจะขอเจ้าให้กับอู๋เหล็งกุมาร ที่งูกัดเขาปางตายนั่นเอง อืม ก็เลยนิ่ง ก็ปัดโธ่ เออ จะว่ามีบุญก็มี จะว่ามีบาปก็มี ตายล่ะเรา ทำยังไง เอ้า ก็ทำตามประเพณีธรรมเนียมของในรั้วในวังเขา ให้รู้ใช้คำพูดคำจาให้ถูกต้อง เออ ถ้าพูดกับท่านพระเจ้าแผ่นดินก็ว่าเพคะๆ เออ เอาอย่าว่า เจ้าค่ะๆ เฉยๆ เพคะ เออ อย่างงั้นอย่างงี้นะ เพคะ อย่างอื่นรู้จักขนบธรรมเนียมทันที เพราะพ่อเคยสอนไว้ อันในรั้วในวังเขาใช้ภาษากันอย่างงี้ๆ แน่ะ อ้า ตกลงงั้น สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปจัดบ้าน สถานที่รับขันหมากหลวง เราจะไปเอง จัดขันหมากหลวง ไปเอง ให้จัดบ้านสถานที่แห่งนั้น เป็นที่ต้อนรับขันหมากหลวง เราจะไปขอ จะเอาชิ้วหลั่น เออ ซึ่งเป็นลูกขุนนางของข้า เอามาแต่งงานกับลูกชายของข้า ผู้ที่งูกัดเขาไม่ตายนั่นเอง เออ ก็เลยได้ตามความประสงค์ทุกอย่าง

พอทางโน้นทำงานเสร็จแล้วก็กลับมาทูลว่า เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ เพคะ เสร็จแล้วที่พักพาอาศัยที่ต้อนรับ รับขันหมากหลวง ก็มีแม่เฒ่าหยู้หลั้งก็แข็งแรงอยู่ เออ นั่นแหละจะไปขอกับแม่เฒ่าหยู้หลั้ง ไปก็ขบวนช้าง ขบวนม้าไปกันใหญ่หลายล่ะ ไปถึงหมู่บ้านลิ้วฉี่ หมู่บ้านลิ้วฉี่ก็ตกใจมาก ว่าขบวนทัพหลวงหรืออะไรมาถึงบ้านเรา ทำยังไงพวกเราเนี่ย ให้มาเฝ้า ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัวพระราชอำนาจใดๆ ของใครทั้งนั้น เรามาเอง เออ

เราจะมาสู่ขอชิ้วหลั่น ลูกสาวคนสุดท้องของมิ่งกงฝ่าเป็นลูกสะใภ้หลวง แอ้ ไปแล้วขึ้นไปกราบศพเพิ่นแน่ะ ขึ้นไปพู้น(โน้น)แน่ะ ไปศพทั้ง ๒ นี่ของ ของเมียอยู่ทางซ้าย ของผัวอยู่ทางขวา อ่ะทำฮวงจุ้ยน้อยๆ ให้หรอก ไม่ได้ทำมากเอาเครื่องสังเวย เครื่องไหว้ศพนั้นมากมายเอาไปกองไว้ แอ้ กองไว้บังสุกุลให้ทุกอย่าง แล้วขอขมาโทษไปเนี่ย พระเจ้าหวางตื้อ ขอขมาโทษ ข้าพเจ้าขอขมาโทษ ท่านขุนนางของข้าผู้ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีความผิดแต่ว่าเพราะความดุร้ายของข้า จากสมัยก่อนเป็นพระราชาดุร้ายมาก ไล่พ่อไล่แม่เจ้าหนีจากบ้านจากเมือง ตกราชตกการนั่นเอง อืม อันนี้ไปขอขมาโทษศพ

เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อยู่เหมือนกัน บรรดาควันธูปควันเทียนทั้งหลาย กลุ่มขึ้น เป็นกลุ่มเป็นก้อนอยู่ เป็นก้อนอยู่ไม่ได้หายไปไหน เป็นก้อนอยู่นั่นล่ะ อ้า พระเจ้าหวางตื้อกล่าวคำขอขมาโทษ ข้าพเจ้าไม่รู้จริง แต่ว่าถูกเขามาใส่ร้ายป้ายสี จึงได้ขับไล่เจ้าหนีจากบ้านจากเมือง เราตามหาแทบพลิกแผ่นดินก็ไม่เห็นแม้แต่เงา พอได้ยินข่าวว่าตายแล้ว ตายทั้งผัวทั้งเมีย เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงมาขอขมา ณ ที่นี้ เออ จงอโหสิให้ข้าพเจ้าด้วย กรรมอันใดที่ข้าพเจ้าได้ประมาทล่วงเกินท่านขุนนาง ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ที่เป็นบาป ขอท่านขุนนางที่ดีของข้า จงอโหสิโทษให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด เออ แล้วก็สาธุ ไปทอดบังสุกุลให้พร้อม

เหมือนดังเราทำเช็งเม้งกันนี่แหละ ทำเช็งเม้งกันอยู่ล่ะ อ้า เอากองกันไว้บังสุกุล ทอดบังสุกุลให้เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลากลับ ก็กลับลงมาจากโน้น มาลาแม่เฒ่าหยู้หลั้ง เออ เอาแม่เฒ่าหยู้หลั้ง ไปด้วย เออ ไปอยู่ใกล้ชิดติดต่อกัน มันจึงจะสบายใจ เอาเป็นคนใช้ประจำเลยน่ะ ก็เลยเป็นลูกสะใภ้หลวงตั้งแต่วันนั้นมา อ้า เป็น เขาเกิดว่าขุนนางชั้นไหน ชั้นคุณนายหรือคุณหลวง พระเจ้าหวางตื้อได้แต่งตั้งลูกชายเป็นผู้สืบราชสกุลสืบมา อ้า ได้แต่งการแต่งงานกับชิ้วหลั่น ผู้เอาใบชาไปขาย แล้วเอาใบชาแก้พิษงูให้ลูกชายฟื้นคืนมาดังนี้

 

เอ้ เวลา เออ

 

 

กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง

 

ความซื่อสัตย์สุจริตมีอยู่ในผู้ใด ความสุขเหล่านั้นมีในผู้นั้น ถ้าความทุ.. ทุจริตเกิดขึ้นแก่ผู้ใด ความพินาศฉิบหายย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้นั้น เพราะฉะนั้นเราท่านทั้งหลายเป็นไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินของพระราชาองค์ใด ก็จงเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่การงานของตัว อย่ากินเล็กกินน้อย อ้า เรื่องไม่มีก็หามาใส่ เรื่องไม่ใหญ่ก็หามาแถม อย่างนี้ไม่ดี หามาเพิ่มเติม ให้มีโทษหนักๆ อันนั้นมันเป็นจารีตประเพณีของคนพาล คนพาลเขาจะต้องทำอย่างงั้น

เพราะฉะนั้น ที่แสดงมาเป็น ปกิณณกนัย เพื่อต้องการให้พุทธบริษัททั้งหลาย นำไปใคร่ครวญพินิจพิจารณาด้วยปัญญาด้วยปรีชาญาณอันชาญฉลาดด้วยเถิด อ้า สิ่งใดที่ถูกที่ต้อง จงทำสิ่งนั้น สิ่งใดที่ผิดศีล ผิดธรรม ผิดกฎหมายบ้านเมือง ก็อย่าไปริทำเลย มันจะทำให้เราเป็นโทษหนักต่อไป

ดังที่แสดงมาเป็น ปกิณณกนัย เพื่อต้องการให้ท่านทั้งหลาย ได้นำไปใคร่ครวญพินิจพิจารณาด้วยธรรมอันบริสุทธิ์นี้เหมือนตนทำเองทุกอย่างๆ เทอญ

 

(เสียงบรรยายภาษาอังกฤษ)

 

มังคะละสูตร (มงคล ๓๘)

ปูชา จะ ปูชะนียานัง

การบูชาบุคคลที่ควรบูชา ๑

 

มาตาปิตุอุปัฏฐานัง

การบำรุงมารดาและบิดา ๑

 

ปุตตะทารัสสะ สังคะโห

การสงเคราะห์บุตร ๑ ภรรยา ๑

 

อะนากุลา จะ กัมมันตา

การงานเรียบร้อยไม่คั่งค้าง ๑

 

เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ

นี้เป็นอุดมมงคล

 

 

กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง

การงาน ๑ วิชา ๑ ธรรม ๑ ศีล ๑ ชีวิตอันอุดม ๑

 

 

เอเคอร์ (acre) หน่วยวัดของพื้นที่ดิน

๑ เอเคอร์ ประมาณ ๔,๐๕๐ ตารางเมตร ประมาณ ๒.๕ ไร่

 

ราชวงศ์โจวตะวันตก (หรือซีโจว)

ช่วง ๕๘๐ ถึง ๒๒๘ ปีก่อนพุทธศักราช

อ๋อง(กษัตริย์) ปกครองอาณาเขตกว้างใหญ่

ส่ง สามนตราช(เจ้าประเทศราช) ปกครองแคว้น เมืองไกลๆ

เช่น กง(เจ้าพระยา) โหว(พระยา) ป๋อ(พระ) จื่อ(หลวง)

ต้องส่งบรรณาการต่อ อ๋อง (ยุครุ่งเรืองด้านการปกครอง)

 

ราชวงศ์โจวตะวันออก (หรือตงโจว) ยุคชุนชิว

ช่วง ๒๒๘ ปีก่อนพุทธศักราช ไปอีกนาน ๓๐๐ ปี

โจวอ๋อง ไม่มีอำนาจบังคับสามนตราช(เริ่มตั้งตัวเป็นอ๋อง)

จึงเกิดสงครามใน นอก ระหว่างแคว้นที่มีกว่า ๑๐๐ แคว้น

เพื่ออำนาจปกครอง โจวอ๋องถูกลดบทบาทลงเรื่อยๆ

 

ราชวงศ์โจวตะวันออก (หรือตงโจว) ยุคจ้านกว๋อ

กินเวลาประมาณ ๒๕๐ ปีต่อจากยุคชุนชิว

เหลือ ๗ แคว้นใหญ่ (ฉิน ฉู่ ฉี เอียน จ้าว หาน เว่ย)

ทุกเจ้าแคว้นตั้งตัวเป็นอ๋อง ไม่เคารพ โจวอ๋อง

ฉินอ๋องเจิ้ง แคว้นฉิน รวมแผ่นดินสำเร็จตั้งราชวงศ์ฉิน

สถาปนาเป็น ฉินสือหวงตี้ (จิ๋นซีฮ่องเต้) จักรพรรดิจีน

 

ราชวงศ์ฉิน อยู่ได้เพียง ๑๕ ปี ก็มีราชวงศ์ฮั่น ขึ้นแทน

 

พงศาวดารเรื่อง ไซฮั่น

(ชำระใหม่ในสมัยรัชกาลที่ ๑)

สมัย ฮั่นโกโจฮ่องเต้ จักรพรรดิจีนแห่งราชวงศ์ฮั่น

ปรากฏชื่อแม่ทัพคนสำคัญผู้เอาชนะ ฌ้อป้าอ๋อง

ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น

เจ๋อ๋องฮั่นสิน ปกครองเมืองเจ๋

หรือจีนศึกษาในยุคปัจจุบัน จะเรียกท่านว่า

ฉีอ๋องหานซิ่น ผู้ปกครองเมืองฉี

 

ในราชวงศ์โจวตะวันตก

เจ้าแคว้นฉี บรรดาศักดิ์เป็น กง หรือ เจ้าพระยา เรียกว่า ฉีกง

ในราชวงศ์โจวตะวันออก ยุคจ้านกว๋อ

เจ้าแคว้นฉี สถาปนาตนเป็น อ๋อง หรือ กษัตริย์ เรียกว่า ฉีอ๋อง

 

บางครั้งคำว่า อ๋อง ก็เรียกว่า หวาง

แปลว่า กษัตริย์ เหมือนกัน

ทั้งระยะทาง เวลาในการเดินทางระหว่างเมือง

ดังนั้น พระเจ้าหวางตื้อ แห่งเมืองเจ๋ จึงน่าจะเป็น

กษัตริย์แคว้นฉี หรือ ฉีอ๋อง ในยุคจ้านกว๋อ แห่งราชวงศ์โจว

 

เมืองเจ๋ (เป็นดินแดนทิศตะวันออก)

เมืองเย่ (เป็นดินแดนทิศใต้)