หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.๓๐ น.

ณ เดอะ สยาม เฮอริเทจ บูติก สวีท

 

อืม

 

สักกัจจัง อาราธะนัง กะโรมิ

 

เออ ตั้งใจฟังหน่อยหนึ่ง ตามที่เสียงมันจะอำนวยให้ อืม

 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ทานัง เทติ สีลัง รักขะติ ภาวะนานัง ภาเวตตะวา

เอกัจโจ สัคคัง คัจฉะติ เอกัจโจ โมกขัง คัจฉะติ นิสสังสะยัง

อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ อัตโถ

สาธายัสมันเตหิ สักกัจจัง ธัมโม โสตัพโพติ

 

(สาธุ สาธุ สาธุ)

 

เออ เอานิดๆ หน่อยๆ พอแล้ว

 

ทานัง เทติ

 

หมายถึง ว่าการทำบุญให้ทาน

 

สีลัง รักขะติ

 

หมายถึง การสังวรรักษาศีลให้บริสุทธิ์ อย่าให้มันขาดตกบกพร่องได้

 

ภาวะนานัง ภาเวตตะวา

 

อันนี้สำคัญ การนั่งสมาธิ ภาวนา ชำระจิตชำระใจของตัวเอง ให้สงบระงับจากอารมณ์ทั้งหลาย อารมณ์รัก อารมณ์ใคร่ อารมณ์อยากได้ อารมณ์ยินดี อา...

 

ราคะ โทสะ โมหะ

ของเหล่านั้น จะเบาบางไปจากจิตใจเราก็ต้องอาศัยการภาวนา

 

ภาวะนานัง ภาเวตตะวา

 

ว่านั้น มีเท่านั้น

 

ทาน ศีล ภาวนา

 

ทั้ง ๓ อย่างนี้ เป็นเครื่องขัด เป็นเครื่องเกลา เป็นเครื่องชำระจิตใจ ให้ถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่องได้ ถ้าไม่มีทาน มีศีล มีภาวนาแล้ว จะเอาอะไรมาขัดเกลา

 

ความโลภ ความโกรธ ความหลง

 

ให้มันเบาๆ ไปจากจิตใจ ไม่มีทาง มีแต่มันจะหนาแน่นขึ้นๆ กิเลสตัณหาของคน ไม่ได้ทำคนให้เป็นคนเจริญแน่ะ ทำให้คนเสื่อม ถ้าเป็นหมดทั้งบ้าน ทั้งเมือง ทั้งประเทศ แล้วจะเป็นยังไง จะวุ่นวายขนาดไหน ถ้าไม่ชำระ ไม่ขัด ไม่เกลา ไม่ทำความสะอาดจิตใจเอาไว้ บ้านเมืองจะเดือดร้อน เพราะความโลภ ความโกรธ ความหลง มันบังคับใจเราให้กระทำผิดศีล ผิดธรรม ผิดกฎหมายบ้านเมืองด้วย ถ้าทำหนักๆ เข้า ผิดถึงกฎหมายบ้านเมือง ได้รับโทษอาญาก็มี ฮะเฮอะ ติดคุก ติดตะรางกันเป็นแถวๆ นั่นก็เพราะอะไร เพราะไม่ขัด ไม่เกลา ไม่ชำระความโลภ ความโกรธ ความหลงของตัว ทำไปตามอำนาจของความโกรธ ความโลภ ความหลง จิตใจมันนึกอย่างใด กิเลสมันพาไป กิเลสนั่นแหละ เป็นเหตุให้ทำกรรม ถ้าไม่มีกิเลส ไม่มีความโลภ ไม่มีความโกรธ ไม่มีความหลง ไม่มีความอิจฉา ไม่มีความริษยา อาฆาต จองเวรซึ่งกันและกันแล้ว ไม่มีอะไร สงบ บ้านเมืองสงบลงด้วยดี ไม่ต้องมีคุก มีตะราง มีเรืองจำ มีอะไร ก็ไม่ต้องมี เพราะว่าไม่มีใครทำผิด ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ไม่มี ทำผิดศีล ผิดธรรมข้อหนึ่งข้อใดก็ดี ไม่มี ไม่มีการปรับไหมใส่โทษกัน ไม่มีการจองจำติดคุก ติดตะรางกันเลย อยู่ด้วยกันอย่างสันติ นี่แหละมันๆ สงบด้วยสันติวิธี คือ ละความโลภ ละความโกรธ ละความหลงได้แล้ว ไม่มีอะไรที่จะมา

 

ยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก

 

ไม่มี มีแต่สันติสุข มีแต่ความเมตตา กรุณา ต่อกันและกัน ไม่มีใครคิดกบฏคดเลี้ยวกัน แต่อย่างหนึ่งอย่างใด ขโมยขโจร ก็ไม่มี ในบ้านเรา เมืองเรา ไม่มีขโมยขโจร นักปล้น นักจี้ไม่มีเลย มีแต่ความสงบสุข นั่นแหละสันติสุขเกิดขึ้นที่นี่ เออ เพราะทำตามคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกอย่าง ไม่ให้มันกำเริบเสิบสานขึ้นมาได้ ความโลภมีอยู่แต่ไม่ได้ลุอำนาจความโลภ ไม่ไปปล้น ไปจี้ ไปลัก ไปขโมยใครเลย ซื้อ หากินตามซื้อ ซื่อสัตย์สุจริต บริสุทธิ์ ยุติธรรม เห็นหน้ากันก็มีแต่เมตตาปรานี อารี(อา)รอบ ไม่มีโกรธเคืองใครเลย ความโกรธก็ไม่มี ความโลภก็ไม่มี ความหลงก็ไม่มี อะไรก็เบาบางไปหลายแล้ว เป็นคนเบาคนบาง อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข นัตถิ...

 

นัตถิ สันติปะรัง สุขัง

 

สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี เพิ่นบอกไว้อย่างงั้น ถ้าให้มีความสงบสุข ไม่มีการจองเวร จองกรรม ซึ่งกันและกัน ไม่คิดกบฏ คิดกบฏคดร้ายต่อกัน ต่อมัน ซื่อสัตย์สุจริต บริสุทธิ์ยุติธรรม หากินแต่ในทางที่ชอบ ไม่ประกอบโจรกรรม ปล้นจี้ ไม่มี ขโมยไม่มี

มีแต่ความซื่อสัตย์บริสุทธิ์ต่อกัน คนทั้งประเทศได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างนี้ จะสงบไหม เหตุที่มันมีคุก มีตะราง มีศาลแพ่ง ศาลอาญา เกิดขึ้นก็เพราะฟ้องร้องกัน อยู่เรื่อยๆ แน่ะ หาเรื่องยุ่งขึ้นมาเฉยๆ ไม่มีการขึ้นโรงขึ้นศาลแต่อย่างใด อยู่ด้วยกันสันติวิธี

 

นัตถิ สันติปะรัง สุขัง

 

สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี เพิ่นว่าอย่างงั้นนะ ความสงบสุข ไม่ได้ก่อการทะเลาะวิวาทบาดถลุงกันในแต่อย่างใด เห็นหน้ากันก็เหมือนพี่เหมือนน้องกันไปหมด ทุกหนทุกแห่ง เป็นสัมพันธไมตรีกันไปหมด ไม่มีความอาฆาตมาดร้ายต่อกันแต่อย่างใด

อย่างสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี เพิ่นว่า

 

นัตถิ สันติปะรัง สุขัง

 

สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบสุขไม่มี จะอยู่เฉย ไม่ได้ชำระกาย วาจา ใจของตัวเอง ให้บริสุทธิ์ผุดผ่องแล้ว ความอิจฉา ริษยา พยาบาท มันก็ยังมีอยู่ในใจนั่นแหละ มี ไม่มีมากก็มีน้อย เออ แต่มันมีมาก จนขึ้นโรงขึ้นศาลกัน วุ่นๆ วายๆ อยู่เดี๋ยวเนี่ย เออ ตำรวจก็จนว่าไม่มีทางจะเดิน มีแต่ตำรวจ ปราบก็ไม่อยู่ ปราบคนร้ายก็ไม่อยู่ ดูการเดินขบวนของเขาสิ เออ เขาก่อการอะไรขึ้นมา เขาจึงเดินขบวนกัน ประท้วงกันอยู่ไม่รู้จักจบ ไม่รู้จักสิ้นสักที ทางจราจรก็ติดขัดไปหมดทุกอย่าง เออ เพราะความไม่สงบนั่นเอง เพราะฉะนั้น เราทั้งหลายเป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนา เป็นผู้มีศีล มีธรรม มีเมตตา กรุณา มุทิตา อยู่ในตัวของเราแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่จะให้เป็นเรื่องเป็นราว ฟ้องร้องกันไม่มี

(ควันธูป)

 

ควัน ควันมันก็เป็นศัตรูเหมือนกันนะ ควันธูป ควัน ธูป การจุดมากๆ แล้วเราจะไม่สบายเลย ถ้าจุดธูปมากๆ เราจะไม่สบายแล้ว

กุมดัง(ปิดจมูก)อยู่อย่างนี้แหละ หายใจเข้าก็หายเอาควันเข้าไป แต่ถ้าสูบบุหรี่กันทุกคนมาในนี้ จะเป็นยังไง โอ้ย พวกที่ไม่มี ไม่ได้สูบบุหรี่ก็กุม(ปิด)จมูกอยู่อย่างนี้แหละ นั่นก็เป็นโทษอีกเหมือนกัน บุหรี่ สุรา เมรัย เครื่องกินแล้วมึนเมา ไม่รู้จักพี่จักน้องเลยถ้าเมามา อ้า ใครพูดผิดหู ก็ฆ่าตีบีฑ์โบยกันไปตามอำนาจกิเลส ของความโกรธ โมโหโกรธา ปรายนา(พ่ายแพ้ที่สุด)

แพ้ สังคมมนุษย์ถ้ากินเหล้ากันหมดทั้งประเทศจะเป็นยังไง ติดฝิ่น เฮโรอีน กัญชา ยาบ้า สุรา เมรัย ทุกคนๆ นี่จะเป็นยังไง เดินไปซัดๆ โซเซ ไม่ชนะ โรงพยาบาล รับไม่ไหว ทั้งรถชนกันบ้างอ่ะ อุบัติเหตุบ้าง ตามสุราเมรัย ฆ่าตีบีฑ์โบยกัน หัวร้างข้างแตกตามโรงพยาบาล ใส่ไปไม่นานหรอกก็เห็น หัวแตก หัวเติก อ้า เพราะอุบัติเหตุบ้าง เพราะโมโหโกรธา ตีหัวกันบ้าง หัวร้างข้างแตก ถ้าปืนยิงกันมันก็ตายไปเลย อย่างงี้ไม่มีปัญหา ตายไปเลยมีแต่ เอาไปฝากเมรุเขาล่ะ เมรุเผาศพที่ไหนมี ถ้ามีคนจำพวกนี้มากๆ เออ อุบัติเหตุก็จะมากขึ้น ไม่ใช่ธรรมดานะ อุบัติเหตุเกิด เพราะการทะเลาะวิวาทบาดถลุงกัน ฆ่าตีบีฑ์โบยกัน อาฆาตมาดร้ายซึ่งกันและกัน ก็ทนไม่ไหว ก็ฆ่าตีบีฑ์โบยกันไปตามระเบียบของกิเลส ความโกรธ ความอาฆาตมาดร้าย มันมีอยู่ในหัวใจย่อมแสดงออกมา เออ เป็นภัยสังคมชนิดหนึ่งเหมือนกัน

เพราะฉะนั้น พวกเราก็รักษาภัยธรรมชาติเหล่านั้น ด้วยการรักษาศีลซะ ไม่กินเหล้า ไม่เมามาย ไม่ทะเลาะวิวาท ไม่บาดถลุงกัน อะไรจะเกิดขึ้นไม่มี ไม่มีเรื่องทะเลาะวิวาทบาดถลุงกัน ไม่มี ขึ้นโรง ขึ้นศาลก็ไม่มี หมู่พวกศาลตัดสิน หรือศาลอะไร เหล่านั้นก็ไม่ต้องวุ่นวาย โรงพักตำรวจก็ว่างไป ไม่มี ไม่มีคดีความใดๆ ที่มาให้ปวดหัว อืม เหตุที่มันยุ่งยากกันอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะฝ่าฝืนศีลธรรมกันเท่านั้นแหละ ฝ่าฝืนศีล ฝ่าฝืนธรรม ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง แล้วก็ทำให้สังคมวุ่นวาย เพราะฉะนั้น รักษาตัว อย่าให้ผิดพลาดทางกฎหมายบ้านเมือง เราก็อยู่กันอย่างสงบสุข เห็นหน้ากันก็เหมือนพี่ เหมือนน้อง เหมือนญาติ อ้า ไม่สามารถจะฆ่าตีบีฑ์โบยกันได้เลย รังแกกันในทางอื่นก็ไม่มี ไม่มีทางรังแกกันไม่มี ไม่เอารัด ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน มีแต่การสงเคราะห์สงหากันไปเรื่อย อย่างนี้ก็

 

นัตถิ สันติปะรัง สุขัง

 

สุข ก็เกิดขึ้นมา สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี ถ้าเรารักษาความสงบของเราได้แล้ว มีความสุข นั่งเป็นสุข นอนเป็นสุข หน้าตาก็ไม่บึด... ไม่บูด ไม่บึ้ง ไม่ตาเขียวใส่กัน ไม่ตาเขียวถลึงถมึงทึงกัน เออ มีแต่ยิ้มแย้มแจ่มใสใส่กันอย่างงี้ ไปที่ไหนมีแต่มิตรทั้งนั้น ไม่มีศัตรูเลยแม้แต่น้อย ก็ได้รับความสงบสุข ตามคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า

ดังที่แสดงมา ก็ยึดไปพิจารณาดูด้วยปัญญาของตนๆ เองเถิด อัปปมาทธรรม ไม่มีความประมาท ตั้งอกตั้งใจอยู่ในขอบข่าย ของศีล ของธรรมจริงๆ แล้ว ต่อแต่นั้นก็จะได้ประสบพบเห็นแต่ความสุขความเจริญทั้งทางคดีโลกและทางคดีธรรมทุกประการ รับประทานวิสัชนามา ก็ยุติด้วยเวลา เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

 

(สาธุ สาธุ สาธุ)

 

เสียงไม่เอาไหนเลย

 

(สาธุ สาธุ สาธุ)

 

เออ เสียงไม่เอาไหนเลย ใช้เสียงแรงๆ มันเจ็บคอ

 

 

 

สักกัจจัง อาราธะนัง กะโรมิ(มะ)

ข้าพเจ้า(ทั้งหลาย)ขออาราธนาด้วยความเคารพ

 

ทานัง เทติ

การให้ทาน

 

สีลัง รักขะติ

การรักษาศีล

 

ภาวะนานัง ภาเวตตะวา

การเจริญภาวนา

 

เอกัจโจ สัคคัง คัจฉะติ

บางพวกย่อมไปสวรรค์

 

เอกัจโจ โมกขัง คัจฉะติ

บางพวกย่อมหลุดพ้น

 

นิสสังสะยัง

อย่างไม่ต้องสงสัย

 

นัตถิ สันติปะรัง สุขัง

สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี

 

๕๘