หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

วันอาทิตย์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๐๐ น.

ณ ห้องประชุมชั้น ๒๒

อาคารศูนย์การแพทย์วิชัยยุทธ

โรงพยาบาลวิชัยยุทธ

ส่งท้ายปีเก่า

f50.psd

(อาราธนาธรรม)

หูยายยังดีอยู่เหรอๆ โอ้ ว่ากับหมู่ได้อยู่ ยาย เออ

แสดงธรรม นิมนต์มาแสดงธรรม มาเทศน์ก็ว่าได้ มาเทศน์ มาแสดงธรรม แสดงความเป็นไปของมนุษย์ทั้งหลาย ถ้าไม่มีคุณธรรมในใจ แล้วมันก็เละตุ้มเป๊ะกันหมดทุกคนแหละ ทุกหมู่แหละ กำลังเละตุ้มเป๊ะบ้านเรา เพราะว่าขบวนเขาเดินประท้วงอะไรๆ กัน เราไม่เกี่ยวข้องหรอก เพียงแต่เห็นอยู่ในทีวี เดินประท้วงเอา อยากจะได้อะไรก็ประท้วงเอา อันนี้ว่าลูกหลานจัญไรอีกแล้วปะเนี่ยน่ะ ลูกหลานจัญไรเพิ่นว่า ทำให้ถนนหนทางเปื้อนเปรอะเลอะเทอะ มันไม่เป็นหลุมเป็นร่อง ก็วางระเบิดให้เป็นหลุมเป็นร่องไป ทางรถฟืนรถไฟ ถ้าเขาทำได้เขาว่าจะไปปาระเบิด ใส่ทางรถไฟอีกเหมือนกัน นี่เรียกว่าลูกหลานจัญไร ไม่ฟังคำพ่อคำแม่ พ่อแม่บิดามารดาครูบาอาจารย์ นับไม่ถ้วนแล้วที่มาเทศน์มาแสดงให้ฟัง ก็ยังฝ่าฝืนอยู่ ฝ่าฝืนประพฤติมิชอบ ทำให้เสียหายสิ่งของ สิ่งของที่มีค่ามีราคา ทำมาเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น เนี่ยก็มาทำลายทรัพยากรแผ่นดิน ทำให้เสียหาย พวกเราไปมาสะดวกสบาย ถ้าเกิดหนทางมันเสียหายขึ้นมา ใครล่ะลำบากปะเนี่ย ลูกหลานคนไทยนี่แหละลำบาก จะไปมาหาสู่กันก็ลำบาก ปิดถนน รถไฟ สถานีรถไฟรถฟืน ปิดถนนหนทางเหล่านี้ก็ทำให้ไม่สะดวก ในการไปการมา ถึงแม้ไม่มีผู้กลั่นแกล้งอะไรก็ดี ปกติธรรมดามันก็ติดอยู่แล้ว ไม่ต้องมีผู้กลั่นแกล้ง กระทำมิดีมิร้ายเหรอ แต่ปกติไปมาธรรมดา มันก็ติดอยู่ประจำแหละทุกสาย หลวงปู่ลงไปเมืองชลบุรี ติดไปอยู่อย่างงั้นแหละ ติดเป็นระยะๆ พอว่างได้ก็วิ่งได้ รถมันว่างแล้วก็วิ่งได้ ไม่มีใครกลั่นแกล้งอะไรหรอก แต่ว่ามันมีอุปสรรคบางอย่าง ถ้ามีเหตุขัดข้องเกิดขึ้นระหว่างทางก็ติดไปหมดล่ะปะเนี่ย เขาสำรวจซะก่อน เกิดเพราะเหตุอะไรซะก่อน ถ้ามีผู้กลั่นแกล้งวางถนนรถไฟ ถนนรถยนต์อันทำให้มันชำรุดทรุดโทรม ก็ทำให้เสียเวลาเหมือนกัน เพราะฉะนั้น เราเป็นผู้นับถือศาสนาพุทธมีพระพุทธเจ้าเป็นผู้กราบ เป็นที่กราบไหว้บูชาสักการะ ท่านสั่งสอนไว้หมดแล้ว ศีล ๕ ก็บอกไว้ตั้งหลายข้อ เออ

 

ปาณาฯ อะทินนาฯ กาเมฯ มุสาฯ สุราฯ

 

บอกให้เว้นกันหมดแล้วบาปทั้งหลายทั้งปวง อย่าก่อกรรมทำเข็ญ อ้า เทศน์วันนี้ไม่รู้จะเอาอะไรมาเทศน์แหละเอา ตั้งใจฟัง

 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง

อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ อัตโถ

สาธายัสมันเตหิ สักกัจจัง ธัมโม โสตัพโพติ

 

ศีล กัมมัง หมายถึงการงาน กัมมัง ๑ วิชชา ๑ สีลัง ๑ เหล่านี้เป็นเรื่องควรสังวรระวัง อย่าให้มันล่วงเลยไป ให้มันอยู่กับเนื้อกับตัวเรา กัมมัง หมายถึงการงาน เป็นกัมมัง วิชชา ความรู้ที่เล่าเรียนศึกษามา นั่นเป็นวิชา ธัมโม ธรรมะอีก

f4.psd

 

กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง

 

ปะเนี่ย ถ้าอยู่ในขอบข่ายของศีลธรรมแล้ว เราก็เรียกว่าปฏิบัติตามคำสั่งคำสอนของครูบาอาจารย์ นับตั้งแต่พระพุทธเจ้าพู้น(โน้น)น่ะมา เพิ่นสอนไว้ สอนพวกมนุษย์ ถ้าอยู่กันไม่มีศีล ไม่มีธรรม อยู่กันมั่วซั่วไปหมดอย่างเนี่ย ไม่มีการสังวรรักษาระมัดระวังเลยอย่างเนี่ย เรียกว่าปล่อยตามสภาพของจิตที่มันปรุงมันแต่งออกมา มันคิดยังไงได้ คิดได้ยังไงได้ เราทำได้ เอาเสรีประชาธิปไตยขึ้นมา เราอยากทำอย่างไรใครจะทำไมยังงั้นแหละ เป็นคนหัวดื้อหัวรั้นขึ้นมา ทำความเดือดร้อนให้แก่สังคมมนุษย์ สังคมมนุษย์จะเกิดขัดข้องขึ้น เพราะการกระทำของมนุษย์เอง ทำให้เกิดขัดข้อง

f37.psd

ถนนหนทางเสียหาย รถฟืนรถไฟก็ติดขัดไปหมด แม้แต่รถยนต์ก็ติดขัด รถจะไฟฟ้าไฟเฟ้อขนาดไหนก็ติดขัด ถ้าหากเราประพฤติตนเป็นภัยสังคมขึ้นมา เป็น ไม่มีศีล ไม่มีธรรม ทำไปตามอำนาจกิเลสของตัว อ้า แต่สิ่งนั้นก็มีความเสียหายพอสมควรน่ะ ถ้าไม่สังวรระวัง ไม่มีหิริ ไม่มีความละอายต่อการกระทำ ผิดกำหนดกฎหมายบ้านเมือง เรียกว่าเป็นคนไม่มียางอาย อยากจะทำก็ทำไปเลย อยากจะประท้วงก็ประท้วงไปเลยทำนองเนี่ย

f16.psd

ทำให้ผู้ปกครองหัวเสียไป ผู้ปกครองแผ่นดิน เพิ่นน่ะท่านก็หัวเสียเหมือนกัน ไม่หลบหลีกหนีความวุ่นวาย ไปอยู่พู้น(โน้น)แน่ะ ที่ไหนสถานที่ ไกลกังวลที่ไหนอยู่ไหน เพิ่นไปพักอยู่โน้น หนีจากความวุ่นวายบ้าง อยู่ในบ้านในเมืองมีความวุ่นวายอยู่ หนีไปพักให้เบาสมองสักหน่อย แต่แล้วพวกเจ้าของถิ่นเหล่านั้น ก็ทำให้ท่านปวดหัวเหมือนกัน เจ้าของถิ่นที่ไปพักที่สถานไกลกังวลนู้น ก็ทำให้ยุ่งวุ่นวายได้เหมือนกัน แน่ะ ถ้ามีจิตใจยินดีในการประพฤติปฏิบัติธรรมะแล้ว ไปอยู่ที่ไหนก็เดือดร้อน ทำให้ผู้ปกครองและผู้บังคับบัญชาเราปวดหัวเหมือนกัน ได้เข้าโรงพยาบาลตั้งหลายรายนะเนี่ยนะ เข้าโรงพยาบาลเพราะปวดหัว ปวดสมอง เออ มันตึบขึ้นมา สมองเสียไปเลย ประสาทที่ทำงานของสมอง ไม่โล่งอกโล่งใจ ถ้าพวกเราเป็นคนว่ายากสอนยาก ดื้อรั้น ดันทุรัง ทำความผิดกฎหมายบ้านเมือง ทำความเสียหายให้ๆ แก่ทรัพยากรของชาติหยุดชะงักเหล่านี้ ก็เรียกว่าประพฤติตนไม่ดี ไม่อยู่ในขอบข่ายของศีลธรรมของมนุษย์ ทำยังไงผู้หลักผู้ใหญ่เพิ่นจะเบาใจ ผู้ปกครองควรจะเบาใจ ให้เราคิดอยู่เสมอว่า เราทำอย่างงั้นๆ ผู้ปกครองเราคงปวดหัว หนักใจ มันกระทบกระเทือนไปถึง อ้า สุขภาพร่างกายสุขภาพจิตด้วย สุขภาพร่างกายเราด้วย ในร่างกายของเรานี้มันอยากน็อก มันกันน็อกนะ สมองมันน็อกเอง ความคิดนอกลู่นอกทาง ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่เกิดน็อกขึ้นมาอย่างนี้ก็มี เข้าโรงพยาบาล แก้ไขกันวุ่นวาย เขาไปแก้ว่า สมองมันเป็นอย่างงี้ มันเกิดน็อกอะไรกันขึ้นเนาะ(นะ) นั่นแหละความเสียใจ หนักหนาสาโหด ก็ทำให้สมองทำงานไม่สะดวก เกิดน็อกขึ้นมาอย่างงี้ เรียกว่าไม่พอใจ ในการกระทำของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินบางส่วน ทำให้เสียใจ เกิดน็อกขึ้นมาโดยกะทันหันก็มี นี่แหละพวกเรา เป็นชาวพุทธถึงพระพุทธเจ้า ถึงพระธรรม ถึงพระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะที่พึ่ง ที่นับถือ ที่ระลึก เอาอันนั้นมาเป็นที่พึ่งทางใจ เพิ่นว่า

 

สีเลนะ สุคะติง ยันติ

 

ก็จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีความสุขได้ ก็ต้องเป็นผู้สังวรระวังในการรักษาเนื้อ รักษาตัว รักษาศีล พูดภาษาง่ายๆ เอาว่า รักษาศีล เป็นผู้ทำความสงบใส่ตัวเอง ถ้ามีโอกาสก็นั่งสมาธิภาวนาไปด้วย แม้แต่ฟังคำบรรยายธรรม หรือเทศน์อยู่เราก็อยู่ในสมาธิฟัง ก็จะได้รับความสงบอยู่ในสมาธิฟัง ไม่ต้องส่งส่ายไปตามสัญญาอารมณ์ทางอื่น ใครจะพูดอะไรก็ตาม แต่ขณะนี้เรามาทำความสงบ มาขัดเกลาจิตใจของตัวเอง ให้สงบระงับ ไม่ฟุ้ง ไม่ซ่าน ส่ายแส่รำคาญ ทำให้ใจไม่สงบ อย่างนี้จะไปภาวนาตอนไหนวะเนี่ย นี่เรามารวมๆ กันแล้ว เลยมาภาวนาซะ ภาวนาทำใจให้สงบซะก่อน สัก ๑๐ นาทีหรือ ๒๐ นาทีก็แล้วแต่จะกำหนดกัน ให้มันนิ่งอยู่กับเนื้อกับตัว อย่าส่งส่ายไปออกนอกลู่นอกทาง ถ้าไปปรุงไปแต่งอย่างนั้นอย่างนี้ขึ้นมา สังขารของตัวเองน่ะ ฮ่ะๆ พาให้ใจมันยุ่ง พาให้ใจมันวุ่นวายด้วยสังขารตัวเองนั่นแหละ คิดปรุงคิดแต่งขึ้นมาเอง ก็ทำให้มันสมองเอนเอียงไปทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สมองมันเอียงไปน่ะ ไม่อยู่ในขอบข่ายของศีลธรรมเลย นั่น เป็นๆ การทำลายตัวเอง ไม่รู้จัก เราปรุง เราแต่ง เรานึก เราคิดเรื่องต่างๆ ขึ้นมาให้สมองเอง เอนเอียงไป อย่างนี้เรียกว่าทำลายความสงบของตัวเอง ส่งมันไปทำไมๆ ให้มันอยู่กับเนื้อกับตัว วันนี้วันบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมก็ว่าได้ เรามาฟังเทศน์ ฟังธรรม

f40.psd

เรามาขัดเกลาจิตใจของตนเอง ให้มันเว้นจากสิ่งสกปรกโสโครกทั้งหลาย อ้า เรียกว่าสนิม เคยให้เขาพิมพ์ใส่หนังสือบ้าง ใส่เสื้อสำหรับนุ่งบ้าง พิมพ์ข้อความไว้ในนั้น ให้ได้มีสติบ้าง เพิ่นว่าง่ายๆ พิมพ์ไว้ให้ง่ายๆ สนิมเกิดจากใจ แต่มันกินใจเราให้กร่อนได้ สนิมเกิดจากเหล็ก แต่สามารถกินเหล็กให้หมดคุณภาพไปก็ได้ อ้า สนิมหมายถึงกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความรัก ความชัง ความยินร้าย ความยินดี ความดีใจ เสียใจ ร้องไห้ หัวเราะ เหล่านี้ก็เป็นเหตุให้กระทบกระเทือนถึงจิตใจเราเหมือนกัน ถ้าเรานั่งสมาธิภาวนา ไม่ให้มารบกวนเรา สนิมทั้งหลายก็ดี เพิ่นเปรียบได้ดังว่า

f70.psd

สนิมกินเหล็ก กิเลสกินใจ

 

ว่างั้น เฮอะ แต่ว่ามันๆ หมดเป็นนะ สนิมเมื่อถูก สนิมเกาะกินไปหลายๆ ครั้งหลายๆ คราว ก็ทำให้เนื้อเหล็ก เนื้อเหล็กมันจะกล้าขนาดไหนก็ตาม ก็สามารถให้กร่อนลงได้ ให้หมดได้ จึงให้ลูกศิษย์พิมพ์ใส่ตัว ใส่ตน ใส่ตัวไว้จำไว้ ติดที่หน้าอกหรือติดที่สันหลัง สนิมกินเหล็กแต่ว่ากิเลสกินใจ นี่ๆๆ ความประสงค์สนิมมันกินเหล็ก จริงๆ กินจนหมด เหล็กตกลงไปในท่อน้ำ ท่อบาดาลหรือท่ออะไร ที่ว่ามันเจาะลงไป แล้วทำให้เหล็กมันตกลงไปในหลุมบาดาลนั้น ก็เกิดสนิมขึ้นมาในบ่อนั่นแหละ เพราะว่าสนิมมันตกไปจับกับเหล็ก ท่อนหนึ่งหรือว่า ๒ ท่อน ตกลงไปในรูบาดาลนั่นน่ะ ก็ทำให้เกิดน้ำเสียขึ้นมา เป็นน้ำแดง สมัยหนึ่งเรามาพักที่โรงพยาบาลน่ะ เกิดน้ำแดงขึ้นมา เอ้ มันทำไมแดงขึ้นมาอย่างงี้ มันเป็นอันตรายเน้อ ขี้สนิมเกิดจากเหล็ก แต่สามารถ กินเข้าไปแล้วมันก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพเรา

f71.psd

คุณหมอคนหนึ่งพูดแก้ตัวว่า โอ้ย มันเป็นยา สนิมมันเป็นยา โอ้ มันจะเป็นยาอะไร มันเป็นบ่อเกิดแห่งมะเร็ง เป็นมะเร็งได้ เป็นมะเร็ง มะเร็งในกระเพาะ ในลำไส้ ในอะไรได้ซะ กินเข้าไปมากๆ สนิมมันเกิดขึ้นมาแล้วมันก็ อ้า เป็นอันตรายแก่สุขภาพร่างกายเรานี้ปะเนี่ย ยังไงๆ ก็หาวิธีเอาออกซะก่อนเน้อเนี่ย หาวิธีเอาเหล็กที่มันนอนอยู่ในหลุมบาดาลน่ะ มันหลุดลงไปท่อนหนึ่งหรือ ๒ ท่อน เอาขึ้นมาได้แล้วปะเนี่ย มันก็เลยเป็นน้ำค่อยดีขึ้นๆ ใสขึ้นๆ ไม่แดงอย่างเก่าแล้ว กินอย่างสบาย ใช้อย่างสบาย ใช้ซักเสื้อซักผ้าก็ดี ใช้ทำความสะอาดห้องพัก ที่พักพาอาศัยก็ดี ให้มันเป็นของสะอาดไปหมด ไม่เกิดสนิมอย่างเก่า นั่น ถ้าเอาออกมาได้แล้วก็แก้ไขได้นั่นแหละ อาหารยังเอาออกให้ได้ มีปัญญา มันอยู่ที่ไหน ค้นหา มันๆ อยู่ที่ไหน เอาด้ายไปคล้องๆ หลายๆ รอบ คล้องได้แล้วให้ หลายๆ รอบ คล้อง ดึง คล้อง แล้วก็ดึงให้มันแน่นๆ ดีๆ แล้วค่อยดึงขึ้นมา ลากขึ้นมาๆ ตามท่อมันล่ะ เอาออกได้จริงๆ ปะเนี่ย เอาออกได้จริงๆ แน่ะ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จต้องอยู่ที่นั่น อ้า

 

วิริเยนะ ทุกขะมัจเจติ

 

เพิ่นก็บอกไว้แล้ว เราจะหนีความทุกข์ได้เพราะความเพียรพยายาม พยายามในสิ่งใดสิ่งนั้นก็สำเร็จ อ้า หมด ในหลุมบาดาล โรงงานนู้นล่ะ โรง โรงพยาบาลหลังนั้นล่ะ มันเกิดแดงขึ้นมา ทุกห้องน้ำ ดูดขึ้นมาใส่ห้องน้ำ ก็แดงไปหมด ทุกห้องๆ โอ้ย มันๆ เผยแพร่ๆ เชื้อมะเร็งแล้วเนี่ย อ่ะ

f78.psd

พวกนั้นทำโรงพยาบาลแล้วมันเผยแพร่เชื้อมะเร็ง ให้เผยออก แพร่ออกไป เกิดเป็นโรคมะเร็งขึ้นมา ปัจจุบันทันด่วน อ้า พอเอาเหล็กขึ้นมาได้แล้ว มันก็ค่อยใสขึ้นๆๆ ดูดไปหลายปีหลายเดือน ก็หมดไปๆ หมดความแดงแล้ว แล้วก็หมดสนิม ไม่มีสนิมแล้ว สบายแล้ว เออ เราอาบน้ำเราก็สบาย แม้ไม่มีน้ำกินอื่น เอาน้ำทำมาจากบาดาลนั้นก็ยังกินได้อยู่ ล้างถ้วยล้างจานอย่างสบายนะ ซักเสื้อซักผ้าก็สะอาดไปหมดทุกอย่าง ทำความสะอาดบ้าน ถูบ้านถูช่อง ถ้าเอาที่น้ำขี้สนิมอย่างนั้นขึ้นมาถู มาไถ มันเป็นยังไง ไม่เข้าท่าแล้ว เออ เมื่อเอาขึ้นมาได้แล้ว ก็สงบไปเลย มันหายไปไหนล่ะ มันหายไปไหน สนิมมันแดงๆ แต่ก่อนมันแดงๆ กินก็ไม่ได้ อาบก็ไม่ดี จึงได้พูดว่า สนิมมันกินเหล็กเนี่ย สนิมมันกินเหล็ก มีโลหะอะไรลง ตกลงไปในน้ำ ก็เกิดแดงขึ้นมา แม้แต่ตะปูตกลงไปในบ่อน้ำ มันหลายดอกหลายเล่มเข้า ตะปูเฉยๆ ก็กลายเป็นพิษเป็นภัยขึ้นมา แดงขึ้นมา เอาออกจะให้หมดอย่าให้มันมี ให้มันมีแต่ดินหรือน้ำเท่านั้น แก้ไขตรงนี้ได้ เราก็จะสบายนะเนี่ย เราถามหา หายต๋อมไปเพิ่นอยู่ไหนล่ะ เอาขึ้นมา เฮอะๆ เออ ทำให้เสียหายร้ายแรง เอ้ นี่ๆ พูดเรื่องสนิม มันตกอยู่ในน้ำ ก็เกิดเป็นน้ำเป็นสนิมขึ้นมา แดงขึ้นมา แต่ว่ากิเลสกินใจปะเนี่ย ก็กลับมันคืนมา ว่า สนิมมันกินเหล็ก แต่ว่ากิเลสมันกินใจ ใจของเราทุกคนนะมี มีหัวใจเหมือนกันทุกคน มีสุขภาพเสมอเหมือนกันหมด มีธาตุ ๔ ดินน้ำไฟลมอยู่ในนี้เสร็จ ถ้าปล่อยให้สนิมเกิดขึ้นมา สุขภาพร่างกายเราก็ชำรุดเหมือนกัน เสียหายเหมือนกัน เพราะฉะนั้น อย่าให้มันมีในบ่อน้ำบาดาลของเรา ให้มันใสสะอาดอยู่อย่างงั้น ถ้ามันเกิดตกลงไปอีก มันก็จะเกิดขี้สนิมอีก ก็ยังว่า สนิมมันกินเหล็ก กิเลสมันกินใจปะเนี่ย น่ะ ความโลภ ความโกรธ ความหลง มันเป็นกิเลสอ่ะเนี่ย มันกินอะไรล่ะ มันกินใจคนปะเนี่ย กินใจเพราะความโกรธมันเกิดขึ้น ความโลภ ความโกรธ ความหลง มันเกิดขึ้นที่ใจ จะสามารถกินใจให้หมดคุณภาพไปได้ เสียคุณภาพไปได้ เสียความรู้สึกไปได้ อ้า ทำให้กร่อนไปตามๆ กัน เพราะฉะนั้น ก็ให้ระมัดระวัง ทุกคนที่มาปฏิบัติธรรมในศูนย์โรงพยาบาล อ้า วิชัยยุทธก็ดี โรงพยาบาลไหนก็ดี ถ้าสิ่งเหล่านั้นไปตกลงในบ่อบาดาลของเรา แล้วมันก็จะเกิดโทษขึ้นมา อ้า อาจจะเป็นมะเร็งก็ได้ มะเร็งในลำไส้ มะเร็งในอวัยวะทุกส่วน ทางเดินปัสสาวะมันก็ไปเป็นอันตรายอุดตันเหมือนกันนะ อ้า เราก็ได้กินอยู่บ้างหรืออะไรบ้างอยู่ เราได้ผ่าตัดนิ่วที่โรงพยาบาลเนี่ย ผ่าตัดนิ่วออกมาได้ โอ้ ตั้งหลายตัว นิ่ว มันเกิดนิ่วอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ในถุงน้ำดีก็ว่าได้ ตัดออกมาได้ ๗ ตัว ๘ ตัว มันไม่ได้หมด หายไปตัวหนึ่ง ในร่างกายของเรา เขาได้ผ่าตัดออกแล้วนิ่วได้ ๗ ตัว เท่าๆ เม็ดพุทราเนี่ย เท่าๆ เนี่ย แต่ๆ มันเป็นหนามๆ มันเป็นหนาม เกิดเป็นหนาม เป็นขาเป็นแข้งขึ้นมา อันนี้นอกลู่นอกทางไปแล้ว อันนี้ก็พอให้ท่านทั้งหลายฟังเอา ของที่ทำให้จิตใจเรากร่อน ชำรุด อันข้อเปรียบนี้ เหมือนสนิมมันกินเหล็ก ถ้าเหล็กไปแช่น้ำเข้านานๆ มันก็กลายเป็นน้ำแดงขึ้นมา กิเลสมันกินใจ ปะเนี่ย สนิมกินเหล็กไปจริง แต่กิเลสมันกินใจน่ะ ความโลภมันกินใจของเราให้กร่อนไป ความโกรธมันกินใจของเราให้ผิดปกติไป ความหลง ความรัก ความชัง ความอิจฉา ริษยา พยาบาท อาฆาต จองเวร จองกรรม ตัวนี้ล่ะไปก่อ ก่อให้เกิดเป็นสนิมขึ้นมา พวกกิเลสเหล่านี้แหละ อ้า สนิทมันกินเหล็กหรอก แต่ว่ากิเลสมันกินใจ ถ้าเราทำตามอำนาจกิเลสกันทุกคนๆ ดูสิ อ้า มันโกรธมาก็ด่ากันแหลกลาญไปหมด ว่ากันแหลกลาญไปหมด เสียๆ หายๆ แน่ะ ในชุมนุมก็มีเป็นบางคนหรือเปล่า ในชุมนุมนี้จะเป็นบางคนหรือเปล่า ถ้าเอาความโกรธมาใช้กัน สาดเสียเทเสีย ใส่กัน อ้า มันผิดใจกันน้อยหรอก แต่ว่าตามันถลึงใส่กัน ผิดใจน้อยๆ หรอก แต่ว่าตามันมองกันด้วยไม่มีเมตตาเลยล่ะ มองกัน ด้วยหมั่นไส้หรืออะไร หึ หมั่นไส้ขึ้นมา ว่า เออ อยู่ด้วยกันดีๆ เคารพนับถือกันดีๆ ถ้าหากเอาความโกรธ ความโลภ ความหลงมาใช้งานมัน เอาความโกรธ ความโลภ ความหลง มาใช้งานมันเรื่อยๆ เอาความโกรธมาใช้เป็นประจำ ก็จะเป็นคนดุร้ายขึ้นมาในสังคมล่ะปะเนี่ย มันจะมากินใจเรา กิเลสเหล่านั้นความโลภก็ดี ความโกรธก็ดี ความหลงก็ดี แม้แต่ความรัก ถ้าไปผิดใจกันขึ้นมาก็อันตรายเหมือนกัน สามีภรรยาอยู่ด้วยกันดีๆ น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ แต่ว่าไปทำผิดใจกันนิดๆ หน่อยๆ หรอก ตาเขียว ใส่กัน ไม่มีตาหวานแล้วปะเนี่ย ตาหวานไม่มี ตาเขียวใส่กันถมึนทึง พูดออกมาทางวาจา ก็ฟังไม่ผิด หากสนิมเหล่านั้นมันเกิดขึ้นที่ใจแล้ว ความโลภ ความโกรธ ความหลง มันเกิดขึ้นในใจเราแล้ว แม้แต่วาจาออกมาเท่านั้นก็แสบแก้วหูเพิ่นน่ะ แสบเข้าไปในแก้วหูเพิ่น ไม่เย็นเลย ไม่เย็น ความรักกันอย่างจะกินอะไรแทนกันก็ได้ ตายแทนกันก็ยังได้ แต่ว่าความโกรธ ความหลง ความอาฆาตมาดร้าย มันเกิดขึ้นมา เป็นเรื่องแสลงไปหมด แสลงหู การกระทำก็แสลงตา เห็นการเดินการเหิน เดินแรงๆ ตึงๆๆ ใส่กันเข้า มันก็แสลงหูเหมือนกัน แสลงตา แสลงใจ ทำให้เกิดเกลียดเดียดฉันท์ขึ้นมา ไม่พอใจกันขึ้นมา ถึงกับทะเลาะวิวาทบาดถลุงกันก็มี อ้า

f81.psd

พอมันเกิดแล้ว กิเลสน่ะมันเกิด มันไม่ใช่ใจเรา ความโลภไม่ใช่ใจเรา ความโกรธไม่ใช่ใจเรา ความหลงไม่ใช่ใจเรา ใจเราดีที่สุดแล้ว พยายามดีที่สุดแล้ว จึงอยู่ด้วยความสุข สงบสุข ความสงบสุขเกิดขึ้นที่ใจแล้ว มีเมตตากรุณาต่อกัน มุทิตาต่อกัน อ้า มีแต่ความดีอ้อยต้อย(ทั่วไปหมด) บ่มีความร้ายมาปนเลย มีแต่ความดี เพียงแต่จะเงื้อมือขึ้นเท่านั้น ก็ไม่ไปเป็นที่พอใจอ่ะเงื้อมือขึ้น ถ้ามีค้อนอย่างงี้อยู่ในมือก็อันตราย เฮอะๆ เหมือนกัน เออ จับได้ไม้ ไม้เท้าหรือไม้อะไรที่เป็นศาสตราอาวุธได้ แม้สากตำพริก ตำส้มตำ ตำพริก ตำน้ำพริก ตำข้าวคั่วหรือตำอะไรอยู่ ใช้งานมันอยู่ ถ้าหากว่าเกิดความไม่พอใจขึ้นมา ก็อาจจะใช้มันเป็นอาวุธก็ได้ สากตำ ตำพริก เหมาะมือพอดี ตีหัวกัน หัวร้างข้างแตกไปก็มี ระวังอย่าให้มันเกิด ถ้ามันเกิดอย่างงั้น มันเป็นของแสลง แสลงใจ แสลงหู แสลงตา กิริยาท่าทางเคยอ่อนน้อมถ่อมตนมา มันจะเกิดทิฏฐิมานะขึ้นมา เพราะรุนแรงของความโลภ เพราะรุนแรงของความโกรธ เพราะรุนแรงของความชัง เกิดเกลียดเดียดฉันท์ขึ้นมา คว้าได้อะไร ก็เอามาเป็นอาวุธหมดแหละ อ้า อันนี้ดูเอาอยู่ในทีวีหรอก ทีวีเขาแสดง กล่าวอะไรต่ออะไรออกมา เออ เขาทำไมจึงทะเลาะกันเขาเป็นอะไร เอากันซะแล้ววุ่นวายแล้ว พอได้ ไม้...เท้าหรือสากตีพริก สากตำพริก ตำป่น(น้ำพริก)อยู่ทุกวัน ก็เอาเป็นอาวุธขึ้นมาได้ ตีหัวกันหัวร้างข้างแตก เข้าโรงเข้าศาลกันก็เยอะแยะ เพราะฉะนั้น ไม่เทศน์มากหรอกวันนี้ เทศน์เรื่องสนิมกินเหล็ก กิเลสกินใจ ความโลภ ความโกรธ ความหลง มันกินใจ เปลี่ยนเป็นคนละคน เย็นเหมือนน้ำ แต่ก่อนเย็นเหมือนน้ำ มองนัยน์ตาก็เย็นฉ่ำไปในหัวใจ พูดออกมาก็เย็นหู ไม่กระแทกแดกดันเหมือนแต่ก่อนแล้ว ถ้าความผิดใจกันน่ะ มันกระแทกกระทั้นเข้าไปในหู อ้า

f79.psd

กระทบกระเทือนเข้าไปถึงสมอง จนปวดหัว ถ้ากุมหัวไปด่าลูกศิษย์ทะเลาะกันแล้ว หลวงปู่ผู้เป็นผู้ปกครองหมู่อยู่ ก็อาจจะเกิดความร้อนใจขึ้นมา เออ เอาไม่อยู่ๆ เอา ไม่ฟังแล้ว ฮือๆ ได้แต่ฮือซื่อๆ ไม่มีอำนาจอะไรเลย อย่าทะเลาะกัน อย่ากระทบกระเทือนกัน อยู่ด้วยกัน กินอาหารอร่อยๆ ก็อร่อยอยู่ ถ้าหากว่าเกิดทะเลาะกันแล้ว อาหารมันจะอร่อยขนาดไหน เททิ้งซะเลย ไม่ๆ อร่อย กินอาหารอร่อยๆ มันก็ไม่อร่อย กินน้ำอร่อยๆ มันก็ไม่อร่อย เททิ้ง สาดทิ้งซะ น้ำพริกสาดใส่ตาก็ลองดู อันตราย เพราะฉะนั้น เรื่องกิเลสกินใจ สนิมกินเหล็ก กิเลสกินใจ ราคะ โทสะ โมหะ ก็กินใจ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ก็กินใจ ทำลายความสุข ของคนลงได้ ไม่ให้มีความสุขอีกต่อไปก็ยังไงได้ แตกกันแยกกันไปคนละทิศละทาง ไม่เสียดาย แล้วก็ไม่คิดถึงด้วย หนีไปแล้วก็แล้ว ไม่คิดถึงเลย เฮอะ นั่นเห็นไหม มันทำลายความสุขของคนได้ กิเลสเนี่ย ความโลภก็ดี ความโกรธก็ดี ความหลงก็ดี ความรักก็ค่อยยังชั่วหน่อย ความชัง ความอิจฉา ริษยา พยาบาท อาฆาต เหล่านี้เป็นของกินใจ ทำให้ใจกร่อนไป หูก็ไม่ได้ฟังเสียงดีเลย ถ้ามันเกิดขึ้นที่ใจแล้ว เพราะฉะนั้น ขอให้ระมัดระวัง ตั้งใจ

อ้า มีรายงานบอกมาว่า วันนี้ตอนจบ อยากให้หลวงปู่นำพาภาวนา ทำใจให้สงบซัก ๑๐ นาทีหรือ ๒๐ นาทีแล้วแต่เถอะ ดังที่แสดงมา ดังที่ได้แสดงมาเพื่อต้องการให้เข้าใจหลัก การประพฤติปฏิบัติ เอาชนะความโลภเอาให้ได้ เอาชนะความโกรธให้ได้ เอาชนะความรัก ความชังเสียได้ อิจฉา ริษยา พยาบาท มันก็มาขบวนเดียวกัน ทำให้แตกกันแยกกัน ก็เพราะความอิจฉา ริษยา พยาบาท อาฆาต จองเวร จองกรรมซึ่งกันและกันนะ ตาเคยหวานๆ หายต๋อมไปเลย เป็นตายักษ์ ตามาร ไปเลย มองกัน ตาเขียวเขียว เฮอะๆ เออ มันเกิดขึ้นมาแล้ว มันมีเรามาปรุงแต่งมัน มันจึงเป็นอย่างงั้น มันมาแต่งจิตแต่งใจให้เราโกรธ มาแต่งความโลภ ความโกรธ ความหลงทั้งหลาย มาเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราให้ไปในทางไม่ดี

เพราะฉะนั้น อย่าเลยนะขอฝาก ขอฝากให้ทุกคนนำไปใคร่ครวญพินิจพิจารณาด้วยปัญญาอันชาญฉลาดของตนๆ ทุกวี่ทุกวัน อย่าปล่อยให้มันมีอำนาจเหนือใจเรา ของเหล่านี้มันมีอำนาจใหญ่มาก สามารถให้สามีภรรยาที่รักๆ กันก็ทะเลาะกันจนตีกัน หัวร้างข้างแตกก็มี ทะเลาะกันจนเลิกร้างกันไปก็มี ไม่คิดถึงเลย อย่างนี้แหละมันทะเลาะ เออ ของดีๆ ก็กลายเป็นของขมขึ้นมา มันแสลงหู แสลงตา อย่าให้มันมีมาอย่างนั้น ให้บังคับมันให้หยุดในสนับบังคับของตัวเอง อย่าให้มันโมโหโกรธา มันจะเกิดปรายนา(พ่ายแพ้ที่สุด)ขึ้นมา อ่ะเฮอะ ใครที่โมโหโกรธา มันไม่ดี

 

โมโหนี่พาตัวตกต่ำ นะหลานเอ้ย

เจ้าอย่าทำอย่างนั้น มันบ่ดีเด้อ

 

โง่ เหมือนดังไม้แห้งๆ สีกัน ๒ ท่อน อ้า

 

เอาไม้แห้งๆ มาสีกัน ๒ ท่อน สีรีบร้อน ไฟนั้นก็เกิดมี

คันไฟลุกขึ้น ตั้งแต่ไม้ใด๋ ไฟลามลุก

ก็ลามกินเหมิดเกลี้ยง เหลียเสี้ยงรุกขาเป็นฝุ่น

เหลือแต่ดุ้นน้อยๆ ไฟนั้นกะลามกิน เหลือแต่ขี้เถ้า

(มีไม้ ๒ ท่อนเอามาถูกันจนเกิดไฟ

เมื่อไฟเกิดขึ้นแล้วไม่ว่า ไม้จะท่อนเล็กหรือท่อนใหญ่

กลายเป็นฝุ่น ก็จะคงเหลือแต่ขี้เถ้าเท่านั้น)

 

ขี้เถ้าเท่านั้นที่ส่งไว้ให้พวกเรา นอกนั้นไฟกินหมดแล้ว เพราะฉะนั้น อย่าให้มันเกิดที่จิตใจเรา อันจะเอาไฟมาเผาบ้านเผาช่องเรา ดังที่แสดงมาเพื่อต้องการให้เข้าใจ อืม ถ้าพูดไปมากก็มากหลาย หลายจริงๆ พระไตรปิฎกนอนเฝ้ากันอยู่ทุกวัน เอามาอ่านทุกวันๆ หนังสือธรรมะธัมโม เอามาอ่านทุกวันๆ หรือเปล่า แจกธรรมะธัมโมให้ ให้ไปฟังหรือไปดูเอาเอง อ้า แจกอยู่ มีผู้ศรัทธาไปพิมพ์ออกมา ให้เอามาแจก อืม เพื่อจะได้รู้วิถีทางของกิเลส มันจะเบาบางได้ยังไง มันจะหมดไปด้วยวิธียังไง ขัดเกลาแบบไหนมันจึงจะหมด ไม่ให้เกิดสนิมขึ้นมาได้ เอาแต่ของใสๆ ขึ้นมาใช้ เอาแต่ของเย็นๆ มาใช้ อ้า เหมือนดังไม้แห้งๆ สีกัน ๒ ดุ้น ๒ ท่อน สีกันไปสีกันมา เกิดควันโขมงขึ้นมา เกิดไฟ

 

สีรีบร้อน ไฟนั้นก็เกิดมี

คันไฟลุกขึ้น ตั้งแต่ไม้ใด๋ ไฟลามลุก

ก็ลามกินเหมิดเกลี้ยง

 

ถ้าอยู่ในบ้านมันก็เผาบ้าน เผาเมือง ร้านค้าร้านเค้อก็เผาไปหมดล่ะ มันเกิดไฟแล้ว อืม ไฟเกิดขึ้นแล้ว มันไปเผาบ้าน เผาเมืองตัวเอง เผาจิต เผาใจเรายังไม่พอ เนี่ย อย่าให้มันเกิดเผาบ้าน เผาเรือนตัวเอง ที่พักพาอาศัยทำได้ยาก เนี่ย ไม้อย่างเนี่ยๆ ไม้ที่ทำกระดานกระเดินอย่างเนี่ย เอามาสีกันขึ้น สีเข้าๆ มันเกิดควันคลุ้งขึ้นมา แล้วไฟก็ลุกพอดี ขี้ฝอยอยู่ใกล้มัน มันลามไปใส่ ถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ในครัวในอะไรก็ดี มันก็ติดกันขึ้นไปเรื่อยๆ

 

ไฟลามลุก ก็ลามกินเหมิดเกลี้ยง หมด

เหลียเสี้ยงรุกขาเป็นฝุ่น ไปหมด

เหลือแต่ดุ้นน้อยๆ ไฟนั้นกะลามกิน กินหมด

 

เป็นหญ้า มันแห้ง ยิ่งไหม้ดีเหลือเกิน บ้านน่ะมันมุงหญ้า มุงแฝก มุงหญ้า ถ้าไฟติดขึ้นน่ะมันเป็นยังไง อันตรายไหม อันตรายที่สุด ไฟไหม้บ้านไหม้ช่อง ไม่มีที่อยู่ที่อาศัย อันนี้มันก็เกิดจากใจเรานะ ที่เกิดฟืนเกิดไฟขึ้นมา มันเกิดจากใจเรา เวลาเกิดโมโหโกรธาก็ปรายนา(พ่ายแพ้ที่สุด)ขึ้นมา เออ ร้อนหู ร้อนตา นัยน์ตามองแล้วก็ไม่เย็น ในหูฟังแล้วก็ไม่เย็นหู มีแต่เกิดร้อนขึ้นๆ สิ่งเหล่านั้นมันเป็นไฟ เพราะฉะนั้น อย่าไปเชื่อฟังมันนะ อ้า ให้เลิก อย่าเอามาใช้ในสังคมมนุษย์ อย่าเอามาใช้ เอาความร้อนมาใช้ มันเกิดเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา อ้า ดังที่แสดงมาพอเป็นคติ ฝากไว้ให้ญาติให้โยมได้คิดพินิจพิจารณาด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาดของตนๆ เถิด อัปปมาทธรรม ไม่มีความประมาท ตั้งอกตั้งใจรักษาไว้ ไม่ให้มันเกิดไฟอย่างนี้เกิดขึ้นมา ต่อแต่นั้นก็จะได้ประสบพบเห็นแต่ความสุขความเจริญทั้งทางคดีโลกและทางคดีธรรมทุกประการ รับประทานวิสัชนามา ก็ยุติโดยเวลา เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

 

(สาธุ สาธุ สาธุ)

 

 

 

สิกขาบท ๕

 

ปาณาติปาตา เวระมะณี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

เว้นจากการฆ่า เบียดเบียนสัตว์อื่น

 

อะทินนาทานา เวระมะณี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

เว้นจากการถือเอาของที่เขามิได้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย

 

กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

เว้นจากการประพฤติผิดในกาม ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น

 

มุสาวาทา เวระมะณี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

เว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ

 

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

เว้นจากของเมา คือ สุราอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

 

กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง

การงาน ๑ วิชา ๑ ธรรม ๑ ศีล ๑ ชีวิตอันอุดม ๑

 

สีเลนะ สุคะติง ยันติ

ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ถึงสุคติ

 

วิริเยนะ ทุกขะมัจเจติ

คนล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร

 

 

ปรายนา [ปะ-รา-ยะ-นา] เบื้องหน้า

(บางแห่งใช้หมายถึง พ่ายแพ้ที่สุด)

 

 

คำผญา

โมโหนี่พาตัวตกต่ำ นะหลานเอ้ย

เจ้าอย่าทำอย่างนั้น มันบ่ดีเด้อ

(ความโกรธนี้เป็นกิเลสตัวหยาบ

เกิดขึ้นกับใครแล้วมืดมน มองไม่เห็นทางออก

ความโกรธนั้นพาให้จิตใจเรามืด

ไม่รู้ประโยชน์ตัวเองและคนอื่น)

 

 

เอาไม้แห้งๆ มาสีกัน ๒ ท่อน

สีรีบร้อน ไฟนั้นก็เกิดมี

คันไฟลุกขึ้น ตั้งแต่ไม้ใด๋ ไฟลามลุก

ก็ลามกินเหมิดเกลี้ยง เหลียเสี้ยงรุกขาเป็นฝุ่น

เหลือแต่ดุ้นน้อยๆ ไฟนั้นกะลามกิน เหลือแต่ขี้เถ้า

(มีไม้ ๒ ท่อนเอามาถูกันจนเกิดไฟ

เมื่อไฟเกิดขึ้นแล้วไม่ว่า ไม้จะท่อนเล็กหรือท่อนใหญ่

กลายเป็นฝุ่น ก็จะคงเหลือแต่ขี้เถ้าเท่านั้น)

 

๔๓