หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

วันอังคารที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๐๐ น.

ณ มูลนิธิบ้านอารีย์

 

f75.psd

(อาราธนาธรรม)

พอแล้ว ไม่ต้องแปลแล้ว ฟังแต่เขาแปล แปลคำอาราธนานั้นอีกซะก่อน

 

พ๎รัห๎มา จะ โลกาฯ

 

หมายถึง ท่านเจ้าข้า ขอจงแสดงธรรม ให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ฟัง เข้าอกเข้าใจ ในธรรมะธัมโม หน่อยเถอะ เพราะไม่เข้าใจ ในเรื่องธรรมะธัมโม การทำบาปด้วยกาย ก็เป็น อ้า เอากายกรรมทำบาป ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม กล่าวมุสาวาท แล้วก็ดื่มกินสุราเมรัย ของเหล่านี้ของผิดศีล ผิดธรรม ว่าเอาตัวจริงๆ มันออกมาเลยล่ะ ถ้าเราเว้นได้ เว้นได้แล้ว ไม่หิว ไม่กระหายในการจะดื่มกินสุราเมรัย ไม่มีแล้ว สบายมากแล้ว เรื่องศีล ๕ เพิ่นคนจะ... จะรับก็ต้องอาราธนาอย่างว่าล่ะ แล้ว... ไม่อาราธนา เราก็ว่าได้ ว่าได้ตามคำที่ว่ากันไว้นั้น เว้นจากการฆ่าสัตว์ นี่ศีลข้อที่ ๑ เว้นจากการลักทรัพย์ ถือเอาสิ่งของของผู้อื่น เป็นการขโมยหรือลักทรัพย์

 

อะทินนาทานา เวระมะณี ฯ

กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

 

เว้นจากการประพฤติ ผิดอสัทธรรม ผิดประเวณี นอกใจ สามีภรรยาของตัวเอง อย่างงั้นชื่อว่าฝ่าฝืน ไม่อยู่ในสนับบังคับ ของศีลธรรมแท้ ถ้าอยู่ในศีลธรรมแท้แล้วไม่ ไม่ยินดีในการที่ประพฤติอย่างนั้น ไม่ยินดีอ่ะ มีฆ่าสัตว์ มีลักทรัพย์ มีประพฤติผิดในกาม มีกล่าวมุสาวาท พูดเท็จคำไม่จริง หลอกลวงอำพรางผู้อื่น อย่างนี้มันกล่าวผิดศีล ผิดธรรมเราก็สำรวมได้อยู่ ไม่ ไม่ให้ล่วงเกินแม้สักข้อเดียว จะสมาทานกับพระก็ได้ จะไม่สมาทานกับพระ เรานึกเว้นในตัวของเรา ของเราคนเดียว เป็นสมาทานวิรัติ เป็นวิรัติอยู่ในใจของเรา เว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการลักทรัพย์ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เว้นจากการกล่าวโป้ปดมดเท็จ หลอกลวง อำพรางผู้อื่นให้หลงเชื่อ ให้เขาฉิบหายวายร้ายไปอย่างงั้น นี่ก็ไม่ผิดกับ กับผิดศีลธรรมเหมือนกัน เรารู้ เราเข้าใจแล้ว ข้อที่ ๑ มันห้ามฆ่าสัตว์ทุกชนิด สัตว์น้อย สัตว์ใหญ่ ในน้ำหรือในบก มีชีวิตดิ้นเป็นได้ เราไม่แหยม เราไม่แตะต้องมันเลย ให้อโหสิมัน ถ้ามันมาไต่อยู่ในบ้านของเรานี่ เป็นแมงงอด(แมงป่องตัวเล็ก) แมงเงา(แมงป่องตัวใหญ่) แมงป่อง แมงแป่ง ไต่อยู่เราไม่เห็น อย่าไปฆ่ามันนะ ถ้าจับได้ก็ให้เขาปลอดภัย แล้วเอาไปปล่อยที่อื่นโน้น ถ้าอยู่ที่นี่เด็กเล็ก ลูกแดง ลูกเล็กเด็กแดงมี มันจะดื้อ มันจะไปตี ไปตี ไปเหยียบมัน หรือทำอะไรมันก็ต่อยเอา ต่อยเอาแล้ว มันก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนน่ะ มันปวด รวมความไปถึง งู ไม่ใช่แมลงเฉยๆ งู ถ้านอกจากนั้นแล้วก็ แมงป่อง อ้า ทุกอย่างล่ะ ที่มีชีวิตเป็นไปได้อ่ะ เราให้อภัยทุกอย่าง เราไม่แกล้งจะพรากชีวิตสัตว์จากชีวิต พลัดพรากจากผัวมัน จากเมียมัน จากลูก จากเต้ามัน ถ้าเราแกล้งทำอย่างงั้น เขาเรียกว่าผิดศีลธรรม ความเมตตาปรานีของเราไปอยู่ไหน ทำไมไม่เลิก ไม่ละ ยังฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอยู่ จับได้เอาไปปล่อยที่อื่นอย่างงั้น เออ ดีมาก

f77.psd

ถ้าทำอย่างงั้ั้นจับได้ แมงงอด(แมงป่องตัวเล็ก) แมงเงา(แมงป่องตัวใหญ่) ตัวอะไรที่เป็นพิษ ต่อยลูกเข้าไป ต่อยเด็กน้อยเข้าไป มันไม่รู้จักอะไร มันปวด เจ็บปวดเข้าในขั้วหัวใจนู้นล่ะ อ้า บางคนมันแพ้พิษสัตว์กัดต่อย ก็อาจจะถึงกับสลบไสลไป ก็ได้ อันนี้เขาเรียกว่า

เวระมะณี

 

v4.psd

เราจะเว้นให้ได้ ไม่มีเจตนาที่จะฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ศีล ๕ ข้อของเรา ตรวจดูของเราเสมอไม่ขาดเลยน่ะ ศีล ๕ ข้อเราไม่ขาดเลย ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ ไม่มีเจตนาที่จะฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แมงมุม แมลงสาบ แมงมุม ตะขาบ แมงป่อง อะไรเหล่านั้น ก็ไม่มีเจตนาที่จะฆ่าเขาหรอกนะ ถ้าจับได้ก็ให้เขาไปที่ปลอดภัยซะ ไปที่ปลอดภัยซะ ทีหน้าทีหลังอย่ามาป้วนเปี้ยนอยู่ที่นี่ เด็กไม่เดียงสา มันจะทุบเอา มันจะตีเอา อ้า เด็กไม่รู้เดียงสา มันฆ่าได้ทุกอย่าง อ้า พวกมด หนู ปู ปลวก อะไรเป็นมีชีวิต เราไม่มีเจตนาที่จะฆ่าเขาเลย นั่นเรียกว่าศีล ๕ ข้อได้สมบูรณ์แล้ว ตัวของเราก็เป็นผู้มีศีล มีธรรม แล้วเป็นครู เป็นอาจารย์สอนลูกหลานอีกต่อไป อ้า เป็นครู เป็นอาจารย์ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากลักทรัพย์ เว้นจากประพฤติผิดในกาม เว้นการ... จากการกล่าวโป้ปดมดเท็จ หลอกลวงเขา ตั๋ว(โกหก)เขา โกหกเขาอะไรเหล่านี้ เราเว้นได้ก็จะชื่อว่าเรามีศีล ศีลของเราไม่ขาด ไม่ด่าง ไม่พร้อย มันเป็นบาปเป็นกรรมเฉยๆ หากทำด้วยเจตนารุนแรง มันก็จะให้ผลแก่เรารุนแรง อ้า เวลากรรมให้ผลมันรุนแรงเหมือนกันนะ เกิดผดผื่นคัน เกิด อ้า ฝีดาษ เออ ฝีอันนั้นแล้วนี่ มันขึ้นตามหน้า ตามตา มันขึ้นไปหมดแล้ว พอง เหมือนดังไฟไหม้เป็นลามไป อ้า อันนี้ก็โทษของการเบียดเบียนสัตว์ ถ้าเราเว้นได้แล้วไม่มี ไม่มีอะไรที่จะมาทำโทษเรา เพราะเราเว้นได้แล้ว

 

เวระมะณี

 

เราจะเว้นแล้ว สมาทานกับพระเจ้าพระสงฆ์แล้ว ทำใจให้สะอาดพอ ทำใจให้ไม่มีโทษ เป็นใจสะอาด ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่กล่าวโป้ปดมดเท็จ แอ้ แล้วก็ดื่มกินเครื่องดองของเมา เป็นสุราเมรัยก็ดี เราเว้นให้ได้ เว้นได้เลย ไม่มีอะไรติดเป็นโทษกับเราได้แล้ว เราเว้นได้แล้ว ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ตัดชีวิต ไม่ดื่มกินสุราเมรัย ไม่ประพฤตินอกลู่นอกทาง มีสามีแล้วก็ดี ไม่ต้องมีใจยินดีในสามีภรรยาของผู้อื่น ไม่มี ไม่มีเจตนาอย่างงั้น เป็นคนบริสุทธิ์ หัวใจบริสุทธิ์แล้ว ใครล่ะจะได้รับปะเนี่ย หัวใจเรานั่นล่ะได้รับ ได้รับของบริสุทธิ์ มาไว้รักษาเนื้อ รักษาตัว เป็นผู้เอาเด็ดขาดกับมัน มันจึงจะข้ามโอฆะสงสารไปได้ ข้ามจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ลักฉกจกฉ้อ อะไรเหล่านี้ ข้ามไปได้เลย ไม่มี

ทุกวันนี้ การเลี้ยงชีพในเมืองหลวงเรา หรือในตลาด บ้านเมืองไหนๆ เขามีตลาด อ้า เอาไว้ขาย เอาหามาไว้ขาย เราก็ไปเลือกเอาแต่ตัวมันที่ตายแล้ว อ้า ไปเลือกตัวนี้ เอาตัวนี้ ตัวมันตายแล้วเนี่ย ตัวที่ยังดิ้นคลุกๆ อยู่ ก็อย่าไปอยากได้ของเขาอย่างนั้นไม่เอา เขามีชีวิตอยู่ เขาดิ้นคลุกๆๆ ดิ้น กลัวตาย ถ้าเราเอาเขามาฆ่า นั่นก็เป็นเวรด้วย เป็นกรรมด้วย อ้า ถ้าทำไปแล้วไม่สบายใจ นั่นเรียกว่ากรรม

 

กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง

 

เพิ่นว่า ถ้าเราจะทำให้ศีลบริสุทธิ์แท้ๆ ก็ทำกายให้บริสุทธิ์ ทำวาจาให้บริสุทธิ์ ทำใจให้บริสุทธิ์จริงๆ ไม่มีเจตนาที่จะเบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่นเลยนะ สบายไหมล่ะปะนี่ นี่จะสบาย

จะบอกหนทางสบายให้ สบายจริงๆ อืม เราไม่ฆ่าสัตว์ เราไม่ลักทรัพย์ เราไม่ประพฤติผิดในกาม เราไม่กล่าวมุสาวาท ไม่โป้ปดมดเท็จ หลอกลวงอำพรางผู้อื่น เราทำได้อย่างงั้นชื่อว่าเราเป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่อง เทวดายกย่อง สรรเสริญ เทวดายกมือสาธุการ นักปราชญ์ บัณฑิตทั้งหลายเห็นแล้ว ก็ชื่นชมยินดีโมทนาสาธุการด้วย อ้า นั่น นี่ไปทำฆ่าสัตว์เล็ก สัตว์น้อย ฆ่าปู ฆ่าหอย ฆ่ากบ ฆ่าอะไรไปอยู่อย่างนั้น ชื่อว่าไม่รับศีล ชื่อไม่ว่าสมาทานศีล รักษาเนื้อ รักษาตัว มันก็ไม่บริสุทธิ์ไม่ได้หรอก ถึงความบริสุทธิ์ไม่ได้ มันจะทำให้เรามืดมน อนธการต่อไป มืดมนจริงๆ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเนี่ยเป็นหนทางมืด มองไม่เห็นบาปเห็นบุญแหละ มีแต่ได้ แต่เอา มีแต่กินอย่างเดียวยังไง ทำอย่างงั้น ก็ชื่อว่าไม่ ไม่ ไม่มองเห็นอกเขาอกเราบ้าง พอจะฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเนี่ย ไม่มองเห็นอกเขาอกเรา เขารักตัวกลัวตาย ขนาดไหน เขาก็รักลูกรักเต้าของเขา ที่เราเลี้ยงหามาเลี้ยงเพาะเยาะๆ หานับวันนับคืน ไปหาของมาเลี้ยงลูกตัวเอง แม้แต่นกหนูปูปีก ที่มันบินไปได้มาได้ มันก็รักลูกมันเหมือนกัน รักและก็หวงแหนด้วย

ไก่แม่ลูกอ่อนอย่างนี้ มันเลี้ยงลูกอยู่ ยะๆๆๆ (จำนวนมาก ยั้วเยี้ย) อยู่ มันไม่ได้หามาป้อนเองหรอก แม่เป็นคนหา เป็นคนคุ้ยเขี่ย คุ้ยเขี่ย ตามขยะ หรือตามหัวมอง(หัวกระเดื่องด้านที่ติดกับสากตำข้าวของครกมอง)หัวอะไรอ่ะ มันมีเศษอาหารหรือเศษข้าวเปลือก ข้าวสุก ข้าวสารมี มันก็เรียกลูกของมันมา ถ้าแม่เรียกแล้ว บ่เผลอล่ะ กุ๊กๆๆๆๆๆๆ กุ๊กๆๆๆๆ ทั้งคุ้ย ทั้งเขี่ย ทั้งคุ้ยทั้งเขี่ย ที่หัวมอง(หัวกระเดื่องด้านที่ติดกับสากตำข้าวของครกมอง) หัวหยัง ขี้แกลบ ขี้อะไรมันๆ อืม

f76.psd

ของเน่าอยู่ที่นั่นมี มันคุ้ยออกแล้ว

ก็เรียกลูกมา ให้มากิน ลูกก็แตกฮือมาเลยล่ะ ถ้าแม่เรียกอย่างงั้นไม่ได้ ไม่ได้รอ รีบมาให้ทัน ถ้าไม่อย่างงั้นเขาจะกินหมด อ้า มันก็รู้จักประมาณของมันเหมือนกัน แน่ะ วิธีเว้นจากบาปทั้งหลาย ให้เรารู้จักว่าเว้น

 

เวระมะณี

 

เราจะเว้นจากการฆ่าสัตว์ทุกชนิด เว้นจากการลักทรัพย์ทุกชนิด เว้นจากเบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่นทุกอย่าง ทุกอย่างเว้นให้ได้ เว้นให้ได้

f51.psd

 

โอ้ย แต่ก่อนหลวงพ่อ หลวงปู่ก็ลุยเหมือนกัน ลุย ลุยเรื่องชีวิตสัตว์ จะเป็นกบ เป็นเขียด จะเป็นปู เป็นหอย จะเป็นกุ้ง เป็นปลา เราลุยทั้งนั้นล่ะสมัยก่อน พอบวชเข้ามาแล้วจึงอาศัยธรรมะ อาศัยศีลธรรม อ้า เขาหามาให้เอง เขาเฮ็ด(ทำ)ทำ ทำสุกมาให้แล้ว เรามีแต่พิจารณา

 

ปฏิสังขา โยฯ

แล้วก็ฉันได้ เออ ไม่ต้องไปฆ่าทุกวัน ถ้าหักแข้ง หักขาเขาอะไรหรอก อ้า เขาตายแล้ว อ้า เอาตัวตายมาทำ จึงค่อยได้กิน กินแต่ของตายแล้ว อ้า เป็นพระเป็นเจ้า ไม่ได้เบียดเบียน อ้า ถ้าพระยังเบียดเบียนสัตว์อยู่ จะว่ายังไงล่ะพวกเรา ทำบุญสุนทาน เออ ถวายอาหารพระเจ้าพระสงฆ์ หาตัวเป็นๆ มาทุบหัว คัว(ชำแหละ)ไส้อะไรให้มันตาย แล้วจึงมาฟัก(สับ) มายำ มาแกง มาคั่ว นี่ก็ชื่อว่ายังเบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่นอยู่ ยังไม่มีศีลมีธรรมในตัว ถ้าเรามีศีล มีธรรมในตัว เราไม่ต้องไปเบียดเบียนเขาอย่างงั้นหรอก ไม่อดอะไรเลย อยู่ในเมืองหลวง ร้านอาหาร ภัตตาคารนับไม่ถ้วน เอาเท่านี้ เราไม่ได้มีเจตนาจะไปลักเขาหรอก แล้วเจตนาไปซื้อเอา ซื้อเอาเขาจะขายเป็นกิโล หรือขายเป็นตน เป็นตัว อ้า ถ้ามันมีชีวิตอยู่เราก็ไม่เอา เราก็จะเอาแต่ส่วนที่ตายแล้วอ้า หรือเขาทำสุกไว้ให้แล้วก็มี ทำสุกไว้ให้แล้ว นี่เอามาต้มยำทำแกงอะไรก็ไม่บาป เพราะว่าเขาทำมาแล้ว นั่น ผู้รักษาศีลก็เท่ากับรักษาชีวิตของตัวเอง เอาขนาดนั้นน่ะ จึงจะพ้นจากบาป ถ้าไม่ทำอย่างงั้น ตกอยู่ใน อืม วัฏจักรเหมือนกัน

 

กรรมวัฏฏะ

 

วัฏจักรที่เบียดเบียนสัตว์อยู่ เราถือศาสนาอย่างไร ท่านจึงสอนอย่างงั้น เราถือศาสนาคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า เราทำอย่างนี้อยู่ มันจะเป็นบุญหรือเปล่า มันจะมีบาปหรือเปล่า ทวนเข้าหาตัวเอง โอ้ การกระทำของเราไม่บริสุทธิ์ เว้ย คิดเอาเอง ไม่บริสุทธิ์ ทำอย่างนี้ไม่บริสุทธิ์ เป็นคนไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ ยังฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอยู่ เบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่นอยู่ อันนี้มันก็ทำให้เทวดาไม่โมทนา เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรม รักษาศีล ปฏิบัติธรรม ก็ปฏิบัติตัวเอง ไม่ใช่ว่าแต่ปากเฉย ปฏิบัติเว้นจากการฆ่าสัตว์ทุกชนิด เว้นจากขโมยขโจรเอาของคนอื่นทุกชนิด ไม่เอา อ้า เราจะหาได้ด้วยปลีแข้งของตัวเอง เนี่ย ไม่เบียดเบียนสัตว์อื่น ให้ตายเพราะการกระทำของเรา อันคนอย่างงั้นน่ะเป็นคนบริสุทธิ์ กายบริสุทธิ์ วาจาที่บริสุทธิ์ ใจที่บริสุทธิ์ อันทั้งนั้นบริสุทธิ์ทุกอย่างแล้ว ตัวเองนั่นแหละเป็นคนบริสุทธิ์ เป็นคนไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่กล่าวโป้ปดมดเท็จ หลอกลวงคนอื่นเขา ไม่มี เจตนาอย่างนั้นไม่มี อย่าให้มันมาใกล้เรา ใครๆ ก็เกลียดชัง ถ้าเห็นเราฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

f80.psd

ลักฉกจกฉ้อกันอยู่ เขาเห็นเข้า เขาก็บุ้ยปากใส่ โอ้ย ทำไมถึงทำอย่างงั้นได้ ทำไมจึงเบียดเบียนเขาได้ขนาดนั้นนะ แอ้ ได้ยินได้ฟังแล้วน่ะ ให้กำหนดจดจำใส่ใจไว้ อ้า อันนี้เรื่องศีลธรรม แล้วศีลธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ เพิ่นหลายไหม เรื่องศีล เรื่องธรรมของพระเจ้าพระสงฆ์มากมาย หัวข้อนับไม่ถ้วน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์

ท่านรักษาได้ครบไหม ถ้ารักษาไม่ครบก็กินของเขาฟรีๆ สิปะเนี่ย อืม เขาฆ่าสัตว์มาให้กิน เขาหุงต้มแกงอะไรมาให้เรากิน เราไม่พิจารณาเลย ฟัดเลย ของสุก ของดิบ เอามากินหมด ลาบเลือดลาบย่าง กินรวมกันหมดล่ะ แน่ะ มันนอกลู่นอกทางแล้ว เพราะฉะนั้น อย่าคิดนอกลู่นอกทาง ผิดศีลผิดธรรมตัวเอง ทำให้เทวดาไม่โมทนาสาธุการ ไม่บริสุทธิ์เป็นสัมมาอาชีวะได้ เลี้ยงชีวิตไม่บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น ทุกคนขอให้เลี้ยงชีวิตด้วยความบริสุทธิ์ ทำมาหาเลี้ยงชีวิต ก็หาแต่ของบริสุทธิ์ อย่าไปเบียดเบียนเขาเป็นอันขาด อ้า ถ้าเราจะรักศีล รักธรรมจริงๆ โอ้ย ให้มีความละอายบ้าง หนาวในใจบ้าง หนาวในใจบ้างที่จะๆ ฆ่าสัตว์ ก็มีสิ่งหวงห้ามอยู่ในหัวใจเรา เงื้อมือขึ้นหรือเอาไม้จะตีมัน ขึ้นอย่างงี้ ระลึกได้ เลิก เลิกเลย ไม่เอาๆ ไล่ไปเฉยๆ ไปทางอื่นไป ถ้าอยู่ที่นี่ ลูกเล็กเด็กแดง เขาไม่รู้จัก เขาจะตีเอา เขาจะฆ่าเอา ไปอยู่ทางอื่นไป ไปป่าอยู่ทางอื่น อ้า ที่ไหนมีป่า มีป่า มีน้ำ ที่มันอยู่ได้ เอาไปปล่อยในที่ปลอดภัยซะ ที่ไหนปลอดภัย ก็เอาที่นั่นล่ะ ที่นี่ปลอดภัย เว้ย ก็เห็นคนในกรุงเทพฯ เรานี่หลายวัดอยู่ ถึงเวลานั้นก็ถือถุงปลา ใส่ถุงปลา ถุง เออ ปลาสดๆ มันดิ้นอยู่ในถุง ยุบยับๆ เลย เอาไปทำไม เลี้ยงเอง เขาเอาไปทำไม เขาเอามันไปปล่อย เอาไปปล่อยลงคลองซะ ลงน้ำซะ

f30.psd

โอ้ น่าโมทนา เว้ย เทวดาเอย โมทนาเอาเด้อ เขาพวกนี้เป็นคนมีเจตนาบริสุทธิ์ ต้องการความบริสุทธิ์ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่น จับได้หรือว่าซื้อได้แล้ว เอาตัวเป็นๆ เนี่ยไปปล่อย ใส่ถุง ใส่ถุงไปเทลงน้ำ ให้มันไป ไปในที่ปลอดภัยซะ นั่นเรียกว่าคนบริสุทธิ์ เอาทางช่วยเหลือเขาด้วย ช่วยเหลือชีวิตสัตว์อื่นด้วย ให้เขาเลี้ยงลูกให้แก่กล้าหน้าบาน เติบโต เจริญขึ้นมาในเพศที่เป็นชีวิต มีชีวิตดิ้นเป็น อ้า ปลอดภัยเขาไปปลอดภัยแล้ว ก็เราก็สบายใจ นึกถึงเวลาไหนก็ชื่นใจ ซึ้งในใจว่าเราได้ปล่อยสัตว์ ว่าเราไม่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เราปล่อยชีวิตสัตว์อื่น ให้เป็นเสรี เสรีประชาธิปไตยจริงๆ นะ อ้า เฮอะๆ เออ ไม่ใช่ประชาธิปไตยเฉพาะมนุษย์

f9.psd

สัตว์อื่นก็ต้องการเสรีประชาธิปไตยเหมือนกันน่ะ เอาลงน้ำนะ เป็นกุ้ง เป็นซิว ปลาซิว กุ้ง ปลาน้อย อืม พวกกบ เขียด ออกลูกมา พาลูกโตก็เพราะความหวงแหน ดูแลของมันเอง ดูแลก็หวง... ห่วงลูก ปลาชะโดมีอะไรไปใกล้มันได้ ปลาชะโด ถ้ามันเลี้ยงลูกอ่อนนะ อย่าไปใกล้มันเลย มันเอาทุกคนเลย มันแหกเอาทุกคนเลย ตึ้งตั้งๆ ขาไม่ไปแหละ แต่มันจะไปอีก ฆ่าลูกเขา เออ มันก็รู้จักป้องกันเหมือนกัน อ้า เอาซะก่อน เว้ย มันว่างั้น คนจะมาใกล้ลูกของเรา หวงลูกของเรา ปลาช่อนก็ดี ปลาชะโดก็ดี ปลาอะไรก็ดี เขาระมัดระวังจริงๆ เลี้ยงลูก เอาชีวิตเข้าแลก ตัวเองจะตายก็ไม่ว่าหรอก แต่ขอให้ลูกปลอดภัย นั่น ผู้ถือศีลธรรมจริงจังจึงจะมองเห็น มองเห็นชีวิตผู้อื่น ชีวิตสัตว์อื่น ไม่ต้องเบียดเบียนเขาหรอก มันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติหัวใจเรา มีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาอยู่ในใจ อ้า ให้อภัยแก่สัตว์อื่นตลอดมา อันนี้เรื่องธรรมะที่เพิ่นสอนไว้ในตำรับตำราเหล่านี้ๆๆ มี มีหมดล่ะตำรา ตำราสวดมนต์ ไหว้พระอะไรๆ ถวายทานอะไรอะไรๆ มีอยู่ในนั้นล่ะ

f19.psd

อ่านให้เข้าใจๆ อันนี้ท่านห้ามไม่ให้ฆ่าสัตว์ ไม่ให้ลักทรัพย์ ไม่ให้ประพฤติผิดในกาม ไม่ให้โป้ปดมดเท็จ กล่าวมุสาวาท อืม ต้มตุ๋นสัตว์อื่น พวกอื่น ต้องทำใจให้สูงกว่า อ้า ธรรมดา สูงกว่าคนธรรมดา ให้ใจสูงมากๆ ถ้าเป็นคนมีใจเจริญ ถ้ามีเมตตา กรุณาผู้อื่นอย่างนั้น อย่างจริงจัง เป็นใจมีเมตตา กรุณาจริงๆ ไม่เบียดเบียนเขาจริงๆ ไม่เบียด ไม่เบียนผู้ใด ถ้า ถ้าไปตลาดก็ไปจ่ายเอาแต่ตัวมัน เขาขายนอน ถ้าดิ้นดุ๊กดิ๊กๆ อยู่ก็ไม่เอา เอาไปปล่อยได้อยู่ เอาไปปล่อยให้มันถึงความปลอดภัยมันซะ อ้ามันจะได้เลี้ยงลูกเลี้ยงเต้าของมัน ได้โตใหญ่ เติบโตมาด้วยความปลอดภัยของมนุษย์ที่ให้เมตตาแก่เขา เราแผ่เมตตา

 

สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ

 

สัพเพ แปลว่า หลาย สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่ เจ็บ ตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น

 

อะเวรา

 

จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

 

อัพ๎ยาปัชฌา โหนตุ

 

เหมือนกัน เว้นจากการเบียดเบียน ไม่มีการพยาบาทอาฆาต จองเวรใดๆ ทั้งนั้น ให้มันบริสุทธิ์จริงๆ เราจึงเอามาเลี้ยงลูกเรา เอามาเลี้ยงครอบครัวเรา ต้องเป็นคนสร้างความบริสุทธิ์ใส่ตัวเอง ชีวิตของเรา เขาก็ห่วงเหมือนกันกับชีวิตเรา อืม เขาก็หวงเหมือนกัน เราไปลงปลา ปลาอะไร ปลาชะโด หรือปลาอะไรมันกินคน ปลาคราฟ หรือปลาอะไร อ้า มันไปวิ่ง ไปใกล้ลูกมัน มันวิ่งมากัดขาเราก็มีน่ะ ตุ๊บตั๊บๆ เอาขาเราเองน่ะ ดีบ่ดี มันกัดเอาหนังขาดไปเลย

อย่างนี้เรียกว่าเป็นผู้มีเมตตา แผ่เมตตาให้แก่สัตว์อื่น อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย จงเป็นสุขเป็นสุขทุกเมื่อเถิด

 

อัพ๎ยาปัชฌา

 

อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อ้า แล้วก็ทำใจให้เป็นอย่างนั้นด้วย ไม่เบียดเบียนด้วย แม้ตั้งแต่มดดำ มดแดง รังต่อ รังผึ้ง รังแตน รังต่ออะไรเหล่านั้น คิดให้กว้างๆ น่ะ ไม่ต้องเบียดเบียนเขา อ้า เพราะเราต้องการมีชีวิตปลอดภัย อยู่ปลอดภัย ทำมาหากินด้วยความบริสุทธิ์ปลอดภัย ทุกอย่างแหละทำใจให้ได้อย่างงี้ งี้ๆ แล้วก็จะเป็นผู้มีศีล มีธรรมอันแท้จริง เทวดาปกป้องคุ้มครองเรา พวกเทวดาทั้งหลายสาธุด้วย ถ้าเรามีใจอย่างงั้นแล้วก็สาธุด้วย โมทนา อำนวย อวยพรให้มีความสุข ความเจริญเด้อ พ่อคุณแม่คุณเอย เออ เราเลี้ยงลูกปลูกโพธิ์มาก็ต้องการความปลอดภัยให้แก่ลูก แก่หลานของเรา ถ้าเรายังเบียดเบียนเขาอยู่ ก็ชื่อว่า ว่าแต่ปาก ว่าแต่ปาก พูดแต่ปาก แต่หัวใจยังหักคอเขาอยู่ เออ

 

อะเวรา อัพ๎ยาปัชฌา อะนีฆา

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ

 

เราไม่เบียดเบียนจริงๆ ไม่ ไม่เบียดเบียนบีฑา(เบียดเบียน) อ้า เข่นฆ่าสัตว์อื่นเอามาเพื่อเลี้ยงลูกของตัวเอง อย่างนี้ไม่ ความเป็นธรรมไม่มีในตัว ความเป็นธรรมมีในตัวแล้วเขาไม่เอาแล้ว ไม่เอาสัตว์ที่มีชีวิตดิ้นเป็นไปเป็น เอาตัวรอดได้ นั่น ให้อภัยแก่เขาอย่างนั้น พวกเรานี้ไม่ได้เทศน์สูงหรอก เทศน์ต่ำๆ อยู่แค่ธรรมาสน์นี่ล่ะ ไม่ได้เทศน์สูงหรอก อันนี้ความเป็นจริงมันเป็นอย่างงั้น

เราเป็นมนุษย์ เราพบพระพุทธศาสนา พบครูบาอาจารย์ ศีลธรรมล้ำลึกมาก อยู่ในตู้พระไตรปิฎก หรือตู้อะไร หนังสือทั้งนั้นล่ะเนี่ย มีตำรับตำรา เว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มีมัน... มี ทำไมจะไม่มีตำรับตำราศีลธรรม. มีไว้ขาย เอาไว้ขาย เอาไว้แจกพี่ แจกน้องก็ได้ ถ้าอะไรเราอ่านแล้วมันจับใจ แล้วก็หามาแจกหมู่ แจกพวกไปเรื่อยๆ เว้นจากการฆ่าสัตว์ให้มันได้ เว้นจากการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ให้มันได้ ให้มันถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เลี้ยงลูกเลี้ยงเต้าก็สำคัญ อยากให้ลูกเจ้าอยู่ตลอดปลอดภัย อย่ามีโรคภัยไข้เจ็บใดๆ มาเบียดเบียนเราเลย ตั้งเจตนาอย่างนั้น อ้า จึงเป็นผู้ต้องการบริสุทธิ์จริงๆ อย่าให้สัตว์อื่นจะต้องมาตายกับการกระทำของเราเลย คำสั่งของเราก็เป็นอย่างงั้น อย่าไปสั่งเอาปลามาให้ เอาเป็ด เอาไก่มาให้ แม้แต่ไข่มันอยู่ในรังก็ไปเอาของมันมาต้ม มาจืน(คั่ว) มาทอด ถ้า เนี่ยฆ่าไก่ ก็มันก็มีชีวิตเหมือนกันนะ มีชีวิตเหมือนกัน มีลูกมาก็เลี้ยงลูกอย่างขะมักเขม้น ไม่ได้ปล่อยลูกไปตามยถากรรมหรอก อ้า คุ้ยเขี่ยหาอาหาร

f83.psd

อยู่บ้านนอกของเราโน้น เราเป็นคนบ้านนอก เออ เห็นไก่อยู่ที่หัวมอง(หัวกระเดื่องด้านที่ติดกับสากตำข้าวของครกมอง) อ้า ที่ครกมอง เขาฝัดข้าว ฝัดที่ไหน มีกากข้าว หล่นไปๆ มันก็เรียกลูกของมัน กุ๊กๆๆๆ มาคุ้ยเขี่ย อ้า ให้ลูกได้แย่งกันกิน คุยเขี่ยไปเรื่อย เรียกไปเรื่อย คุ้ยไปเรื่อย คุ้ยหาตัวหนอน ตัวไส้เดือน กิ้งกือตัวน้อยๆ ที่มันกินได้ มันก็จะคาบได้ มันก็กินเลยดังนี้ เขาก็เหมือนกันกับเรา เลี้ยงลูกล่ะ พวกเราเลี้ยงลูก ต้องการให้ลูก อยู่ดีกินดี หาอาหารที่บริสุทธิ์ให้กิน เออ ทำอย่างนี้ เรียกว่าเมตตา

 

เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท

 

เออ เพิ่นว่าเมตตาสัตว์อื่น ก็เหมือนดังลูกดังหลานเรา ลูกหลานเราไม่ต้องการให้ อ้า ถูกฆ่า ถูกแกง ถูกทรมานต่างๆ อย่างนี้ แผ่เมตตาเขา แต่ว่าเราก็โดนลูกของเรา หลานของเรามี ก็โดนสัตว์อื่นเบียดเบียนเหมือนกัน เออ เรารักลูกรักหลานยังไง ก็ให้แผ่เมตตา ปรารถนาดี ให้มีความสุข ความเจริญทั่วหน้ากัน ทุกคนๆ สัตว์ในน้ำก็ดี สัตว์ในบนบกก็ดี ให้แผ่เมตตา เป็นญาติเป็นมิตรเราทั้งนั้น เทวดาจะรักษาเราเองล่ะปะเนี่ย ถ้าเอาจริงเอาจังแท้ เทวดาจะดูแลรักษาเราเองหรอก ไม่ให้อดให้อยากอะไรหรอก มี มีซื้อ มีขาย หามาเลี้ยงกันได้ ไม่ต้องเบียดเบียนสัตว์ นั่น คนผู้มีศีลธรรมเป็นอย่างงั้น อ้า เพิ่นไม่เอา ทางอื่นไม่เอา ผู้มีศีลมีธรรมแท้ ละเว้นจากบาป

 

เวระมะณี

เวระมะณี

 

เว้นจากการทำบาปทุกชนิด ทำใจให้เป็นอย่างงี้ เราก็จะเจริญ งอกงามในชีวิตของเรา ชีวิตของเราก็จะถึงความบริสุทธิ์ สมบูรณ์ พูนผล เทวดาก็โมทนาสาธุการ ทำมาค้าขายอะไรก็เจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า เจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า ไม่เบียดเบียน สัตว์อื่น ไม่ตาย ไม่ตายหรอก ไม่ฆ่าสัตว์ก็ไม่ตาย ของกินอยู่ในตลาดในกรุงเทพฯ นี่ล่ะ ไม่ว่าเขตไหนๆ ไปดูอยู่ ร้านขายอาหารเขาสิ เต็มโต๊ะ เต็มอะไรอยู่ แมลงวันตอมหึ่งเลย ไล่กันอยู่ ไม่วี่ไม่ไหว อ้า ไม่ ไม่ไหว ไล่ไม่ไหว เออ บางทีก็แมลงวันเหล่านั้นมันตายก่อนก็มี ก่อนจะได้กินอะไร เอาอีแปะ เออ เอาๆๆๆ พัดอีแปะตบแป๊ะ แป๊ะไป ตายไปๆๆ คราวนี้ตายกี่ตัว เราก็หาแต่อย่างอื่นมาค้ามาขาย แต่ว่าสัตว์บางอย่างไม่เห็นชีวิตเขาเลย

ดังนั้น แผ่เมตตา แผ่เมตตาให้เป็นอย่างนั้น เมตตาจริงๆ ไม่ว่าสัตว์เลี้ยง หรือว่าสัตว์เดรัจฉานอย่างอื่น เป็นหมู เห็ด เป็ดไก่ หรืออะไรที่มีชีวิตดิ้นเป็น ให้เลิกซะ เลิกซะ ให้มันได้ ไม่เอาล่ะ อย่างนี้ไม่เอาล่ะ จะเอาแต่ของบริสุทธิ์มาเลี้ยงลูก ให้ลูกเจริญรุ่งเรือง ให้ลูกมีศีล มีธรรมด้วย อ้า ให้บวชเรียนเขียนอ่านก็ยังดี เป็นพระที่ดี เป็นเณรที่ดี ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแล้ว ดีแล้ว

ดังที่แสดงมาเป็น ปกิณณกนัย เพื่อต้องการให้ญาติโยมทั้งหลาย เข้าอกเข้าใจข้อวัตรปฏิบัติ อบรมสั่งสอนกันทางศีลทางธรรมจริงๆ ขอให้มีความสุขความเจริญทุกคนๆ เด้อ

 

 

 

อาราธนาธรรม

 

พ๎รัห๎มา จะ โลกาธิปะตี, สะหัมปะติ,

กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ,

สันตีธะ สัตตาปปะระชักขะชาติกา,

เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง.

 

ท้าวสหัมบดีพรหม ผู้เป็นอธิบดีแห่งโลก

ได้ประคองอัญชลี ทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า

สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อยมีอยู่ในโลก

ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรมอนุเคราะห์ด้วยเถิด

 

พุทธชัยมงคลคาถา (บทคัดบางส่วน)

นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง

พญาช้างชื่อ นาฬาคิรี ตกมัน

 

ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง

ดุร้ายยิ่งนัก ประดุจไฟป่า จักราวุธ และสายฟ้า

 

เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท

พระจอมมุนีทรงเอาชนะได้ด้วยวิธีรดด้วยน้ำ คือ เมตตา

 

ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ

ด้วยเดชแห่งชัยชนะนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน

 

สิกขาบท ๕

 

ปาณาติปาตา เวระมะณี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

เว้นจากการฆ่า เบียดเบียนสัตว์อื่น

 

อะทินนาทานา เวระมะณี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

เว้นจากการถือเอาของที่เขามิได้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย

 

กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

เว้นจากการประพฤติผิดในกาม ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น

 

มุสาวาทา เวระมะณี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

เว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ

 

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี

สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

เว้นจากของเมา คือ สุราอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

 

พ๎รัห๎มวิหารผรณา

บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์

 

สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ

สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ถึงความสุข

 

สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ

สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร

 

สัพเพ สัตตา อัพ๎ยาปัชฌา โหนตุ

สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนกัน

 

สัพเพ สัตตา อะนีฆา โหนตุ

สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีทุกข์กายทุกข์ใจ

 

สัพเพ สัตตา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ

สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงรักษาตนให้อยู่เป็นสุขเถิด

 

ตังขะณิกะปัจจะเวกขะณะวิธี

เครื่องพิจารณาปัจจัย ๔ ขณะใช้สอยบริโภค

(ข้อว่าด้วยบิณฑบาต)

 

ปะฏิสังขา โยนิโส ปิณฑะปาตัง ปะฏิเสวามิ,

เราย่อมพิจารณาโดยแยบคาย แล้วฉันบิณฑบาต

 

เนวะ ท๎วายะ

ไม่ให้เป็นไปเพื่อความเพลิดเพลิน สนุกสนาน

 

นะ มะทายะ

ไม่ให้เป็นไปเพื่อความเมามัน เกิดกำลังพลังทางกาย

 

นะ มัณฑะนายะ

ไม่ให้เป็นไปเพื่อประดับ

 

นะ วิภูสะนายะ,

ไม่ให้เป็นไปเพื่อตกแต่ง

 

ยาวะเทวะ อิมัสสะ กายัสสะ ฐิติยา

แต่ให้เป็นไปเพียง เพื่อความตั้งอยู่ได้แห่งกายนี้

 

ยาปะนายะ

เพื่อความเป็นไปได้ของอัตภาพ

 

วิหิงสุปะระติยา

เพื่อความสิ้นไปแห่งความลำบากทางกาย

 

พ๎รัห๎มะจะริยานุคคะหายะ,

เพื่ออนุเคราะห์แก่การประพฤติพรหมจรรย์

 

อิติ ปุรานัญจะ เวทะนัง ปะฏิหังขามิ

ด้วยการทำอย่างนี้,

เราย่อมระงับเสียได้ซึ่งทุกขเวทนาเก่า คือ ความหิว

 

นะวัญจะ เวทะนัง นะ อุปปาเทสสามิ,

และไม่ทำทุกขเวทนาใหม่ให้เกิดขึ้น

 

ยาต๎รา จะ เม ภะวิสสะติ

อะนะวัชชะตา จะ

ผาสุวิหาโร จาติ

ความเป็นไปโดยสะดวกแห่งอัตภาพนี้ด้วย

ความเป็นผู้หาโทษมิได้ด้วย และ

ความเป็นอยู่อย่างผาสุกด้วย จักมีแก่เรา ดังนี้

 

กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง

การงาน ๑ วิชา ๑ ธรรม ๑ ศีล ๑ ชีวิตอันอุดม ๑

 

อนธการ [อน-ทะ-การ] ความมืดมัว ความโง่เขลา

 

บีฑา [บี-ทา] เบียดเบียน บีบคั้น รบกวน เจ็บปวด

(ฆ่าตีบีฑ์โบย)

 

วัฏฏะ [วัด-ตะ] วน เวียน หมุนวน

 

 

วัฏฏะ ๓ หรือ ไตรวัฏฏ์

๑. กิเลสวัฏฏ์

(วงจรกิเลส ประกอบด้วย อวิชชา ตัณหา และอุปาทาน)

๒. กรรมวัฏฏ์

(วงจรกรรม ประกอบด้วย สังขาร และกรรมภพ)

๓. วิปากวัฏฏ์

(วงจรวิบาก ประกอบด้วย วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ

ผัสสะ เวทนา ซึ่งแสดงออกในรูปปรากฏที่เรียกว่า

อุปปัตติภพ ชาติ ชรา มรณะ เป็นต้น)

 

๓ อย่างนี้ ประกอบเข้าเป็นวงจรใหญ่แห่งปัจจยาการ

เรียกว่า ภวจักร หรือ สังสารจักร ตามหลักปฏิจจสมุปบาท

 

๔๖