หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
วันอังคารที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๐๐ น.
ณ บ้านโยม เรวดี ๖๖-๖๘
สัมโมทนีย สัมโมทนียคาถา การสร้างพุทธปฏิมากร หรือว่าอาจาริยปฏิมากร ครูบาอาจารย์เป็นรูปเปรียบ รูปแทน องค์จริงของท่าน ได้ไปไว้วัดไว้วาว่าเป็นอนุสรณ์ เป็นที่ระลึกอันนี้ก็มีอานิสงส์ไม่น้อยเหมือนกันนะ เพราะว่า คนทั้งโลก ประเทศไทยประเทศหนึ่ง มาเลเซีย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ออสเตรเลีย เพิ่นมาถึงก่อนอเมริกาเพิ่นนะมา มาไหว้ใหม่ ที่กว้างไกลมากอานิสงส์ไม่ต้องพรรณนาหรอก จะได้บุญขนาดไหน มากราบเป็นร้อยก็ได้บุญทุกครั้ง คันขบวนละ ๑๐๐ ขบวนละ ๒๐๐ ๓๐๐ ก็มี แม่ครัวก็หัวหมุนไป ให้แม่ครัวทำอาหารเลี้ยงแขก สู้ไหวไหม ไหว อืม ไหว มีคนไหวอยู่ โมทนาน้ำใจโว้ย มีน้ำใจอย่างเนี่ย ดี
ตุ้ม(รวม)หมู่ ตุ้ม(รวม)ฝูง ตุ้ม(รวม)หมู่ ตุ้ม(รวม)พวก
ตุ้ม(รวม)คนหูหนวกตาบอดตาจาง เฮอะๆ
ตุ้ม(รวม)ผู้แส้ผู้สาว แม่ลูกเต้าเหล่าอ่อน
หลวงพ่อท่อนนี้ก็ให้ตุ้ม(รวม)กับเขา เด้อ โอ้ เฮอะๆ
พิจารณา สรณะที่พึ่งทางใจ เป็นสรณะที่พึ่งทางใจ จะหนีไปพักแรมที่ไหนๆ ก็ตาม ก็ระลึกนึกถึงท่านอยู่ ท่านอยู่วัด หลวงปู่ไม่ได้อยู่วัด ถ้าได้ท่านอีก อย่างนี้ไปไว้เป็นอนุสาวรีย์ซะก่อน ฝนมาทางไหนๆ ตากฝนนั่นแน่ะๆ ไม่ได้เปลืองน้ำ ไม่ได้เปลืองท่าอะไรหรอก อืม การสร้างพุทธปฏิมากร หรือว่ารูปเหมือนหลวงปู่ ทั้งหลายไว้เป็นอนุสาวรีย์ ได้บุญได้กุศลหมด ผู้ใดมากราบ ได้บุญทั้งนั้นน่ะ มากราบมาไหว้ได้บุญได้กุศลทุกครั้งไป ขบวนใด ขบวนไหน มากราบ มาเป็นร้อยก็ ก็ได้บุญเป็นร้อยเท่า ถ้ามาเป็นพันก็ถึงพันเท่า เพิ่นรับไม่ใช่ธรรมดา สร้างอนุสาวรีย์ไว้ให้เป็นที่ระลึก เออ จะให้งบสร้างสิ
อ่ะ นะโม สัมโม(ทนียคาถา)อะไร อ้อ
ใจบุญใจกุศล การสร้างบุญกับการสร้างบาป มันเป็นคู่กันอยู่นะ เจ้า เออ คน เจ้าภาพจะเป็นคนขี้โมโห ทำไม่ถูกอกถูกใจ บาปขึ้นในใจล่ะ อ่ะฮึ ใครขี้โมโห อ้า
โก... ปะริปันโถ
(โกโธ) ธัมมานัง ปะริปันโถ
โกธัง ฆัตวา สุขัง เสติ
ฆ่าความโกรธได้แล้ว อยู่เป็นสุข นั่งเป็นสุข นอนเป็นสุข ไม่มีความโกรธ ไม่มีความทะเลาะวิวาทบาดถลุงอะไรกันเลย มีแต่ความเย็น เย็น นั่งเย็น นอนเย็น อ้า ตื่นขึ้นมาก็เย็นอกเย็นใจสว่างๆ ถ้าเรามีการภาวนาไปด้วย เอา พุทโธ ประจำใจไว้เสมอ แหมเย็นตลอด น้ำร้อนปลาเป็นน้ำเย็นปลาตาย นี่คำโบราณท่านหรอก แต่มันเป็นธรรมะ น้ำร้อนปลาเป็นน่ะมันกระโดด เห็นของเข้ามาในบ้านในช่องแล้วมันๆ ร้อน ถ้าบ้านเราไม่มีเมตตาปรานีต่อกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เรื่อยๆ มันร้อน เห็นไหมเขาทางโน้นหรอก เป็นบ้านนอกหรอกทำ บ้านนอก สามีภรรยาทะเลาะกันอยู่เรื่อย ผิดใจกันก็ทะเลาะกันอยู่เรื่อย ถึงกับลงไม้ลงมือตบตีกัน อ่ะ เป็นหัวร้างข้างแตก เนี่ย ได้เอาศัสตรา(วุธ)อะไร เอามันเลย เออ
แม้แต่สากตำพริกก็ยังใช้งานได้
เวลาโมโห สากตำพริกขึ้นมาอย่างงี้ เออ..
ต้องยอม ยอมแล้วๆๆๆๆ
ดู ยามเวลาทะเลาะกัน จะดีขนาดไหนก็ต้องเป็นอย่างงั้น ต้องยอมซะดีกว่า
โกธัง ฆัตวา สุขัง เสติ
เพิ่นว่า ฆ่าความโกรธได้แล้ว อยู่เป็นสุข นั่งเป็นสุข นอนเป็นสุข ทำงานทำการเหนื่อยขนาดไหน ก็ยิ้มได้สบาย เพราะว่าไม่มีความโกรธมารบกวน ถ้าหากเอา ความโกรธเป็นหัวหน้า พ่อบ้านก็ดี แม่บ้านก็ดี จะเอาความโกรธ มาเป็นหัวหน้าแล้ว เดือดร้อนไปหมด เถ้าแก่ใหญ่ๆ มีลูกน้องหลายๆ ไปทำผิดอะไรมาต่ออะไร กินเหล้าเมามาย หน้ามืดอะไรอย่างเนี่ย เถ้าแก่ก็หนักใจ อดไม่อยู่ก็ด่ากัน ว่ากันแหลกลาญไป ฆ่าตีบีฑ์โบย
เพิ่นว่า น้ำร้อนปลาเป็นน้ำเย็นปลาตาย น้ำเย็นน่ะพวก บ้านไหนๆ มีแต่ความเย็นๆ มีความเย็นด้วยหัวใจ เอาไว้อาบเย็นอยู่อย่างงั้น ไม่มีเหตุขึ้นมาเลย แล้ว ปลานั้นหมายถึง เงินทอง ข้าวของ สิ่งของ เงินตรา ทรัพย์สมบัติทั้งหลาย มันเหมือนๆ ดังปลา เออ ปลามันนิ่ง ปลามันไม่กระดุกกระดิก ไม่โดดโลดเต้นอะไรที่ไหน อ่ะ อยู่ที่นั่นแหละอยู่ในบ้านนั่นแหละ เย็นสบาย บ้านหลังนี้เย็นสบาย ไม่ได้มีการกินเหล้าเมามาย ทะเลาะเบาะแว้งกันแต่อย่างใด เย็นยังไงล่ะ... อ้า แต่ว่าใช้ให้เป็นประโยชน์ ให้ได้อันเป็นประโยชน์ สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ไม่ต้องใช้มัน ใช้มันไปเล่นการพนัน ใช้มันไปกินเหล้าเมามาย อยากเพิ่นไปทำบาปต่างๆ นานา อยาก อยากใจร้าย ใจหลุด พ่อบ้านใจหลุด เถ้าแก่ใจ ใจร้อน โมโหง่าย ความโมโหก็เป็นไฟ
โทสัคคินา
เพิ่นบอกไว้แค่เนี่ย เป็น
โทสัคคินา โลภัคคินา โมหัคคินา
เป็นไฟทั้งนั้น เนี่ยจะเป็นทางที่ๆ ทำให้เป็นฟืนเป็นไฟ เผาไหม้ตัวเอง ทำให้เกิดฉุนเฉียวขึ้นมา เออ ถ้าฉุนเฉียวโมโหโกรธาไม่มีความยั้งคิดหรอก มันจะใช้อะไรต่ออะไร เครื่องทุ่นแรงมีหมดทุกอย่างเลยนะ
แม้แต่แก้วน้ำก็ยังเป็นเครื่องทุ่นแรงได้
อ่ะฮึ ใช้เวลาปาใส่กัน หึหึ หัวร้างข้างแตกไปเลย นั่น ไม่ดี เพราะฉะนั้น
โกโธนี้ กิเลสาตัวหยาบ
ภาษาลาวน่ะ บ่เนี่ย เพิ่นว่า
โกโธนี้ กิเลสาตัวหยาบ เกิดแก่ไผมืดตื้อ บ่เห็นฮู้ฮ่อมทาง
พ่อได๋ ความโกรธมาเพม้าง จิตใจใสให้กลับมืด
ทั้งประโยชน์ตนและผู้อื่น เลยบ่ฮู้
(ความโกรธนี้เป็นกิเลสตัวหยาบ
เกิดขึ้นกับใครแล้วมืดมน มองไม่เห็นทางออก
ความโกรธนั้นพาให้จิตใจเรามืด
ไม่รู้ประโยชน์ตัวเองและคนอื่น)
ทำลายล้าง ทำลายล้างขาดเสีย ขาดกระเด็นไปเลย สามีภรรยาอยู่ด้วยกันก็ไม่เป็นสุข ทะเลาะกัน เกิดทะเลาะกัน เบาะแว้ง กัน ไม่มีความอด ไม่มีความขบ
ให้คอยอด คอยออมเอาเด้อ จั่งสิได้ต่อนคำ พ่อเด้อ
(ให้มีความอดทน จะได้รับผลสำเร็จ)
โมโหนี่พาตัวตกต่ำ นะหลานเอ้ย
เจ้าอย่าทำอย่างนั้น มันบ่ดี
(ความโกรธนี้เป็นกิเลสตัวหยาบ
เกิดขึ้นกับใครแล้วมืดมน มองไม่เห็นทางออก
ความโกรธนั้นพาให้จิตใจเรามืด)
โมโหโกรธา ปรายนา(พ่ายแพ้ที่สุด) เป็นการพ่ายแพ้ต่อกิเลสของตัวเอง มันไม่อยู่เท่านั้น คำพูดคำจาก็เปลี่ยนขึ้นตอนโมโหขึ้นมา เปลี่ยนไป รักแสนรัก เมตตาแสนเมตตา นั่นมาแล้ว ถ้าหากเอาความโมโหโกรธามาใช้ ไม่สบาย ไม่สบายถ้าโมโหขึ้นมา ตัวเองก็ไม่สบาย ผู้ฟังก็ไม่สบายหู ไม่สบาย พูดแค่นี้ไม่สบายหู ไม่เย็นหู อ้า มันๆ เป็นน้ำร้อน น้ำร้อนปลากระโดด ปลาเป็น ถ้าน้ำเย็นปลาตาย ตายนิ่ง ไม่กระโดดโลดเต้นไปไหนเลย เพราะฉะนั้น บุคคลผู้ที่สร้างหลักสร้างฐานได้ขนาดนี้ ก็นับว่าเป็นผู้มีคุณธรรมภายในใจ คุณธรรมนี่คือความเย็นและเมตตาปรานี
ในหลวงรัชกาลที่ ๖ ท่านได้ว่า อะไรเพิ่นว่าไว้ น้ำร้อนอย่าเอามาใช้ รดต้นไม้มันก็ยังเหี่ยว ยังแห้ง ยังเฉาไปเลย เอาน้ำร้อนเดือดๆ ไปเทรดไม้ประดับที่หน้าบ้าน เทน้ำร้อนใส่มัน มันจะอยู่ไหม เฉาไปเลย เหี่ยวไปเลย เออ หรือตายไปเลยเนี่ยแหละ อ้า เหมือนกัน ทรัพย์สมบัติทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นของข้าวของแก้วเก้านวรัตน์ (สมบัติ)พัสถานก็เหมือนกัน ถ้าเอาความโกรธมาใส่แล้วมันร้อนไป ร้อนกระเป๋า เอามาไว้ในนี้ มันเกิดไม่อยากอยู่ เอาใส่กระเป๋าเงินกระเป๋าของอะไรจะ ก็ไม่อยากอยู่นิ่ง อยากจะออก อยากจะไปขึ้นมา เพราะฉะนั้น
สามีบุตรภรรยา ผัวเมียนี้ผู้ใด๋มั่งใด๋มีเพิ่นเห็นทุกข์จั่งแม่น
(บุตรภรรยาผัวเมียนี้ คนไหนร่ำรวยเห็นทุกข์)
ให้เจ้ายกผัวขึ้นเป็นแก้วแผ่นเฮือนพ่อเด้อ
(ให้เจ้ายกสามีว่าเป็นเป็นที่เคารพบูชา
ภายในบ้านเรือนครอบครัวของตน)
ให้เจ้าเพียรเอาแก้วมหานิลลูกประเสริฐ
(ให้มีความอุสาหะในการสร้างคุณงามความดี)
หากแต่เห็นหน่วยแก้วพิลาเต็มถาดแผ่นพ่อเด้อ
(เดี๋ยวก็จะเห็นผลที่เราได้กระทำ)
(หมายถึง ให้เคารพยกย่องสามีและให้อบรมสั่งสอนดูแล
ลูกให้ดี เมื่อลูกเราดีแล้วก็จะนำความสุขมาให้เรา)
แก้วมันเกยกัน ความเย็นใจนี่แหละ ถ้าใจดีมันก็เป็นแก้ว ถ้าใจร้อนน่ะมันเป็นไฟ เป็นฟืนเป็นไฟ ถ้าเย็นจนเกินไปแล้วก็กลายเป็นน้ำแข็ง อ่ะฮึ อย่าให้มันถึงขนาดนั้นพอใช้ได้ พออุ่นได้พออาบได้ ไม่ให้เป็นน้ำแข็งหรอก เออ หมวดธรรมะที่สั่งสอนประชาชนอยู่ทั่วประเทศ เทศน์ให้เขา เทศน์ เพิ่นเทศน์เรื่องอะไร เทศน์เรื่องความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นไฟ ราคะ โทสะ โทสะ โมหะก็เป็นไฟ เผาไหม้ตัวเอง สามีภรรยาอยู่ด้วยกันหมดกำลังใจ ถ้าใช้ความโมโหโกรธาว่าให้กันบ่อยๆ หมดกําลังใจเลย ทําอะไรเป็นหมดทุกอย่างแต่ไม่ทำ ขี้เกียจไม่ทำ พอมันไม่เข้าหูแล้วมันไม่อร่อย คำพูดที่ไม่อร่อย คอแข็งแกล้งไม่รับ ใจมันยังไม่บานรับ ถ้ามันเย็นแล้วมันบานเหมือนดอกบัว น้ำก็สะอาด เกิดในสระมันฉ่ำ บานรับแสงพระอาทิตย์ สบายเลย ถ้าเป็นน้ำร้อนเหรอ บัวมันเฉาไหมล่ะ เหี่ยว แห้งไปไม่ดี
เพราะฉะนั้น ขอพูดน้อยๆ แค่เนี้ยล่ะ ไม่ต้องพูดมาก อ้า
ความโลภ ความโกรธ ความหลงให้มันเป็นไฟ
อย่าเอามาใช้กันนะลูกเอย
โกธัง ฆัตวา สุขัง เสติ
ฆ่าความโกรธได้ อยู่เป็นสุข
โกโธ ธัมมานัง ปะริปันโถ
ความโกรธเป็นอันตรายต่อธรรมทั้งหลาย
โทสัคคินา
ไฟ คือ โทสะ
โลภัคคินา
ไฟ คือ โลภะ
โมหัคคินา
ไฟ คือ โมหะ
บีฑา [บี-ทา] เบียดเบียน บีบคั้น รบกวน เจ็บปวด
(ฆ่าตีบีฑ์โบย)
ปรายนา [ปะ-รา-ยะ-นา] เบื้องหน้า
(บางแห่งใช้หมายถึง พ่ายแพ้ที่สุด)
ว่าด้วยเหตุเกิดความโกรธ ๑๐ อย่าง (บทคัดย่อบางส่วน)
๑. - ๖. ได้ทำ/กำลังทำ/จักทำ
สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่เรา/คนที่เราชอบ
๗. - ๙. ได้ทำ/กำลังทำ/จักทำ
สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนที่เราไม่ชอบ
๑๐. ความโกรธเกิดขึ้นในฐานะอันไม่สมควร
ควรรู้ความโกรธมากโกรธน้อย (ตามลำดับ)
๑.ทำจิตให้ขุ่นมัว
๒.ทำให้หน้าเง้าหน้างอ หน้าบูดหน้าเบี้ยว
๓.ทำให้คางสั่นปากสั่น ๔.เปล่งผรุสวาจา คำหยาบ
๕.เหลียวดูทิศต่างๆ เพื่อหาท่อนไม้
๖.จับท่อนไม้และศาสตรา ๗.เงื้อท่อนไม้และศาสตรา
๘.ให้ท่อนไม้และศาสตราถูกต้องผู้อื่น
๙.ทำให้เป็นแผลเล็กแผลใหญ่
๑๐.ทำให้กระดูกหัก ๑๑.ทำให้อวัยวะน้อยใหญ่หลุดไป
๑๒.ทำให้ชีวิตผู้อื่นดับ ๑๓.ฆ่าผู้อื่นแล้วจึงฆ่าตน
(จากพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๑
ขุททกนิกาย มหานิทเทส อัฏฐกวัคคิกะ
ข้อ ๓๘๔ บทคัดย่อบางส่วน)
คำผญา
โกโธนี้ กิเลสาตัวหยาบ เกิดแก่ไผมืดตื้อ บ่เห็นฮู้ฮ่อมทาง
พ่อได๋ ความโกรธมาเพม้าง จิตใจใสให้กลับมืด
ทั้งประโยชน์ตนและผู้อื่น เลยบ่ฮู้
(ความโกรธนี้เป็นกิเลสตัวหยาบ
เกิดขึ้นกับใครแล้วมืดมน มองไม่เห็นทางออก
ความโกรธนั้นพาให้จิตใจเรามืด
ไม่รู้ประโยชน์ตัวเองและคนอื่น)
ให้คอยอด คอยออมเอาเด้อ จั่งสิได้ต่อนคำ พ่อเด้อ
(ให้มีความอดทน จะได้รับผลสำเร็จ)
โมโหนี่พาตัวตกต่ำ นะหลานเอ้ย
เจ้าอย่าทำอย่างนั้น มันบ่ดี
(ความโกรธนี้เป็นกิเลสตัวหยาบ
เกิดขึ้นกับใครแล้วมืดมน มองไม่เห็นทางออก
ความโกรธนั้นพาให้จิตใจเรามืด
ไม่รู้ประโยชน์ตัวเองและคนอื่น)
สามีบุตรภรรยา ผัวเมียนี้ผู้ใด๋มั่งใด๋มีเพิ่นเห็นทุกข์จั่งแม่น
ให้เจ้ายกผัวขึ้นเป็นแก้วแผ่นเฮือนพ่อเด้อ
ให้เจ้าเพียรเอาแก้วมหานิลลูกประเสริฐ
หากแต่เห็นหน่วยแก้วพิลาเต็มถาดแผ่นพ่อเด้อ
(หมายถึง ให้เคารพยกย่องสามีและให้อบรมสั่งสอนดูแล
ลูกให้ดี เมื่อลูกเราดีแล้วก็จะนำความสุขมาให้เรา)
๓๓