หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง
วันเสาร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.๐๐ น.
ณ ที่พักสงฆ์ หมู่บ้านลานทอง
อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
เนี่ย เพิ่นอาราธนาเทศน์แล้วหรือปะเนี่ย เทศน์ก็เทศน์แหละ มันจะไปยังไงล่ะ เว้ยเนาะ(นะ)
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ อัตโถ
สาธายัสมันเตหิ สักกัจจัง ธัมโม โสตัพโพติ
อนุสนธิพระสุทธิธรรมเทศนา มีบุพพาประ สืบเนื่องมาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ค้นเห็น เป็นผู้รู้แจ้งแทงตลอดในศีล ในธรรม เพิ่นเห็นว่าถ้าไม่มีศีลก็เหมือนดัง อ้า สัตว์อื่น เขาไม่มีศีล ไม่มีเจตนาที่จะรักษา อ้า อุโบสถศีล หรือว่ารักษาศีล ๕ ศีล ๘ เหล่านี้ไม่ ไม่มีสัตว์อื่น มีแต่มนุษย์นี่ล่ะ ตั้งใจเป็นพิเศษ ว่าจะเว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการลักทรัพย์ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เว้นจากกล่าวมุสาวาท เว้นจากการดื่มกินสุราเมรัยเครื่องดองของเมาทุกชนิด
เราจะเว้น ไม่เอาแล้ว ไม่กิน ไปคบค้าสมาคมกับใครก็ไม่เอาทั้งนั้นแหละ ถ้าสมาคมชั้นสูงๆ เป็นเจ้าเป็นนาย สมาคมกันแล้วก็เอาเหล้ามาแบ่งกัน มาแบ่งกันกิน อย่างนั้นเรียกว่าย่ำยีคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า เรามีเจตนาจะงด จะเว้น จะละจริงจังแล้ว ใครอย่ามาบังคับเราให้ดื่ม ให้กินสุราเมรัย ยาเสพติดให้โทษทุกชนิด เราก็เว้นให้ได้ ถ้าเราเว้นได้แล้ว ไม่ต้องไปว่าอีก ร่ำไรหรอก เป็นศีลเป็นธรรมขึ้นในหัวใจของเรา ศีลธรรมมันคือความละอาย ละอายต่อการกระทำบาป เป็นผู้จำศีลจำธรรมแล้ว เมาเหล้าแอ่นหน้าแอ่นหลังไป ล้มฟุบล้มฟาดไป พอหลับพอนอนที่ไหนก็นอนได้ เออ มันก็ดีอย่างหนึ่งล่ะ นอนตามป่า ป่าไม้ ป่าหญ้า ป่าอะไรๆ ก็หลับเลย เรื่องยุงจะกัด ริ้นจะขบจะกัดยังไงก็ไม่ห่วงแล้ว มันง่วงเต็มที่แล้ว ก็เลยหลับซะเลยอย่างเนี่ย อย่างนั้นเรียกว่าไม่มีเจตนาในการจะสังวรระวังรักษาศีล รักษาศีลก็กับๆ รักษาใจ ก็อันเดียวกันนั่นแหละ ตัวเดียวกันแหละ รักษาใจไม่ให้มันคิดนอกลู่นอกทางไป อ่ะ หาเรื่องวุ่นวายอีกเป็นยังไง
(ขยับหมอน) เอามาเทิ้ง(หมอนสามเหลี่ยม)เด้ อ้า เอา มันจะหลับอยู่นี้แหละ มันจะได้นอนดีๆ นั่งดีๆ แล้ว
ต้องมีเจตนา มีเจตนางดเว้นจากบาป บาปธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่กล่าวโป้ปดมดเท็จ หลอกลวงอำพรางผู้อื่น ไม่ดื่มกินสุราเมรัย มีเจตนาแน่วแน่อย่างนั้นเรียกว่า
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เป็นการงดเว้นอย่างเด็ดขาด ความพร้อมด้วยเจตนาในใจ งดเว้นได้แล้วก็เป็นศีลเป็นธรรมขึ้นมาในโลก ไม่หลอกลวง ไม่ได้ตกอยู่ในการหลอกลวงผู้อื่น ถ้ายังฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอยู่ ลักฉกจกฉ้อ อะไรต่ออะไรเหล่านั้นอยู่ ยังประพฤตินอกลู่นอกทาง ชื่อว่ารับแต่ปาก ไม่มีเจตนาที่จะงดเว้นและละจริงจัง ต้องมีใจแน่วแน่ ให้มันเลิกละจากอบายภูมิทั้งหลาย
อบายมุข
อบายภูมิเกิดขึ้นที่นี่ เกิดขึ้นที่การไม่สังวรระวัง อืม ตัวเอง แม้ตั้งแต่เล่นการพนันก็ยังผิดกฎหมายอีก เป็นอบายมุข เป็นหนทางแห่งความฉิบหาย ปากแห่งความฉิบหายมันเกิดขึ้นในตัวของเรา ไม่รู้ตัว เผลอไผลไปเล่นการพนันกับเขา ก็ผิดศีลผิดธรรมเหมือนกัน เป็นการล่วงละเมิดต่อคำสั่งคำสอนของพระบรมศาสดา เป็นการโกหก โป้ปดมดเท็จกันต่อไปได้อย่างสบาย ถ้าเราสังวรระวังได้แล้วก็มีความละอายในใจ ถ้าจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด มีความละอายอยู่ในใจ ไม่สามารถที่จะล่วงเกินได้ ถ้าล่วงเกินไปแล้วนิดหน่อยก็เสียใจ และทำให้สมาธิไม่ตั้งมั่น เป็นสมาธิ
ศีล สมาธิ ปัญญา
มันจะเกิดขึ้นก็เพราะความตั้งใจงดเว้นละ ในอบายมุขทั้งหลายทั้งปวง ก็เป็นคนอยู่สบาย ไม่ได้เสียหายไปในทางอื่นเลย มีศีลอยู่ตลอดเวลา มีคุณธรรมเต็มเปี่ยมอยู่ในหัวใจ ไม่ได้ละเลยทางศีลธรรม ไม่ได้ล่วงเกิน เออ ให้มันเป็นบาปเกิดขึ้นแก่ใจตัวเอง เพิ่นว่าอบายมุข ว่างั้นน่ะ
อบายมุข
ปากแห่งความฉิบหาย แอ้ ถ้าไป เออ ทำอย่างงั้น เป็นปากแห่งความฉิบหาย เป็นสิ่งที่ทำให้ความฉิบหายไหลเข้าหาตัวเอง หลายอย่าง
ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในทางกาม
กล่าวมุสาวาท ดื่มกินสุราเมรัย
หมดแล้ว ถ้าไปทำทุกข้อๆ เนี่ย หมดศีล หมดธรรมในใจแล้ว เป็นคนไม่มีหิริ เป็นคนไม่มียางอายต่อบาปแล้ว จะทำยังไงก็ทำไปตามชอบใจ มันเป็นบาป อืม
บาป
แปลว่าเศร้าหมอง เรื่องเศร้าหมองเกิดขึ้นทางใจเรา ทำให้เราเป็นคนหลง หลงทาง ไม่อยู่กับศีลกับธรรม ถ้าเราตั้งใจสมาทานศีลธรรมจริงๆ ก็อย่าให้มันขาดตกบกพร่อง อย่ามันด่างมันพร้อยได้ ให้แจ๋วแหววอยู่อย่างงั้น นั่งสมาธิภาวนา มันก็เห็น เห็นบาปเห็นบุญขึ้นชัดแจ้ง ไม่ต้องอธิบายอีกหรอก โอ้ เราเลิกละได้แล้ว เราสบายเว้ย เออ สบาย เลิกจากอบายมุขทั้งหลายทั้งปวงได้แล้ว เราสบายใจเรา เรื่องเงินเรื่องทองมันไหลมาเทมา ก็เพราะเรามีศีลมีธรรมนั่นเอง
สีเลนะ สุคะติง ยันติ
เพิ่นบอกว่า ความสุขจะไหลเข้ามาหัวใจเรา ก็เพราะ
ศีล ภาวนา
ด้วย ทำใจให้สงบระงับจากบาปทั้งหลายทั้งปวงด้วย ก็เลยเป็นของดีขึ้นมา อ๋อ มันดีจริงๆ เว้ย ความศีลไม่ขาด ไม่ได้ล่วงเกินศีลด้วยเจตนา เป็นคนสังวรระวัง รักษากายวาจาใจไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง ไปหาอบายมุขที่มันเป็นบาป ทำให้เศร้าหมองขุ่นมัว อบายมุข
มันเป็นเครื่องปิด ปิดกั้น ปิดกั้นบาปทั้งหลายไม่ให้ไหลเข้ามาหาหัวใจเรา หัวใจเราก็แจ๋วแหววขึ้นมา นั่งสมาธิก็เห็นข้ออรรถข้อธรรมขึ้น เห็นบาปเป็นบาป เห็นบุญเป็นบุญขึ้นในใจ โอ้โฮ อย่างนี้นี่เอง ท่านเรียกว่า
สีเลนะ สุคะติง ยันติ
สีเลนะ โภคะสัมปะทา
ขึ้น ที่ไหลมาแห่งศีลแห่งธรรม ไหลมาแห่งโภคะสมบัติทั้งหลาย ไหลเข้ามาหาตัวเรา มันมีหมู่ดึงดูด ดึงดูดทรัพย์ทั้งหลายทั้งปวงให้เข้ามา รวมอยู่หัวใจที่บริสุทธิ์อันเดียว เป็นคนสบายมาก อืม ถ้าเลิกละจากอบายมุขได้แล้วก็เป็นคนมีความสุข มีความสบายกายวาจาใจ เป็นคนน่าเคารพนับถือ น่าเชื่อฟัง คำพูดคำจา คำใดออกมาเป็นศีลเป็นธรรมกันทั้งนั้น นั้นแหละเรียกว่า
สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ
เพราะเหตุดังนั้น เราจะต้องสังวรรักษาศีลให้บริสุทธิ์ อย่าให้มันด่างมันพร้อยออกไป อ้า พระพุทธเจ้าเพิ่นห้ามไว้แล้ว มันเป็นอบายมุข เป็นปากแห่งความฉิบหาย อืม ถ้ายัง ไปๆ นึก ไปๆ ไปอยากอยู่ อยากทำอย่างงั้น อยากเล่นอย่างนี้ อยากดื่มกินสุราเมรัย อยากเล่นการพนันต่างๆ เหล่านี้ ก็เอาความอยากไปใช้ทางอื่น เอาความอยากของเราคืนมา ไม่ให้ ไม่ให้ล่วงเกินธรรมวินัย คำสั่งคำสอนที่พระบรมศาสดาโปรดไว้แล้ว ให้ซื่อสัตย์ต่อพระพุทธเจ้า ซื่อสัตย์ต่อครูบาอาจารย์ ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าพระสงฆ์อย่างจริงจังและก็จริงใจ ภูตผีปีศาจอาฮัก หลักคุณ ปู่ตาย่าบ้าน ผีฟ้า ผีแถน ผีแนนตาทอก ตีนจุ้มอลินทุม เหล่านั้นเขาก็เกรงกลัวเรา เกรงอำนาจใจของเรา เป็น เป็นคนมีใจจริง มีความเชื่อมั่นในบาปบุญคุณโทษ เขาเรียกว่า มันเป็นบ่อเกิดแห่งทรัพย์ ทรัพย์ทั้งหลายทั้งปวงมันจะไหลเข้ามา ก็เพราะมีศีลมีธรรมซะก่อน ไหลเข้ามาเอง เป็นเอง ไม่ได้เรียกร้องต้องการอะไรหรอก แต่ว่ามันไหลเข้ามาหาตัวของเรา ตัวผู้มีศีลมีธรรม ไม่เล่นการพนัน ไม่ดื่มกินสุราเมรัยเครื่องดองของเมา อันเป็นหนทาง เออ ตรัสรู้คุณธรรมอื่น ให้ได้เห็นคุณธรรม เห็นความสุขทางใจด้วยใจตัวเอง อย่างนี้ก็เรียกว่านำความสุขมาให้
เพราะฉะนั้น เราต้องสังวรระวัง อย่าให้มันเผอเรอ และออกจากหนทางอันนี้เป็นอันขาด อ้า เพราะฉะนั้น นี่ๆ เบื้องต้นพูดแค่นี้ซะก่อนก็ได้ เบื้องต้นของอุบาสก อุบาสิกา ผู้นับถือพุทธเจ้า นับถือพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเบื้องต้น ของการปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้อง ไม่แวะเวียนไปทางอื่น อยู่ในศีลอยู่ในธรรม อยู่ในกรรมบถ ๑๐ ทั้งหลายทั้งปวง ศีล ๕ ก็ได้ ศีล ๘ ก็ได้ ก็ดีอีก อ้า กล่าวไม่ถึงศีล ๑๐ หรอก เป็นโยมศีล ๕ ศีล ๘ พอแล้ว ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ เป็นเรื่องของพระ เป็นเรื่องของเณร ที่จะต้องสังวรระวังอีกเหมือนกัน ต้องรักษาให้มันเป็นศีลเป็นธรรม แน่วแน่อยู่ในกรรมฐานบทหนึ่งบทใดก็ได้ อืม
กัมมัฏฐานัง ปะวักขามิ ฯ
เพิ่นบอกไว้ กรรมฐาน ฐานที่ตั้งของบุญทั้งหลาย คือ ศีล ๕ ศีล ๘ ศีลอุโบสถเหล่านี้ เรารักษาได้ก็ชื่อว่าเป็นอุบาสกสมบรูณ์แบบ ไม่ได้นอกลู่นอกทางไปทางอื่นน่ะ อยู่กับศีลนะ อยู่บ้านเราก็รักษาศีลอยู่บ้านเรา ไม่ต้องเข้าวัดเข้าวาก็ได้ ไปเข้าวัดเข้าวาก็ยิ่งโป้ปดมดเท็จเก่ง เออ ยังหลอกลวงอำพรางผู้อื่นได้ดีอยู่ อย่างนี้ชื่อว่ายินดีในการกระทำบาป ทำให้ใจเศร้าหมองขุ่นมัวได้
(หลวงปู่ฉันน้ำชา)
พอเข้าใจนะ คุณยายหูดีหรือเปล่า หูดีอยู่เปล่า น่ะ หูดีตาดี นั่นเป็นสมบัติของศีล
สมบัติของศีล มีหูดี ตาดี ไม่หูหนวก ไม่ตาบอด มองอะไรก็ออก รู้ว่าเป็นบาปแน่นอน สิ่งนี้เป็นบาปแน่นอน เราไม่พึงกระทำเป็นอันขาด เออ เว้นให้ได้ เออ เหล่านี้ก็ยังมีอีกมากมาย เรื่องธรรมะธัมโม รักษาเบื้องต้นแค่นี้ให้มันบริสุทธิ์ สะอาดหมดจด ไม่เศร้า ไม่หมอง ไม่ขุ่น ไม่มัว นึกอะไรก็สว่างไสวออกมาได้ เป็นศีลเป็นธรรมไปหมดทุกอย่าง ไม่มีบาปมาปนเปื้อน ทำบุญสิ่งใดลงไป ก็เรียกว่าไม่มีศัตรูที่มาเป็นข้าศึกแก่บุญของเรา เพราะเราไม่ได้ลุอำนาจแก่บาปทั้งหลายทั้งปวงนั่น ไม่ได้กินเหล้า ไม่ได้เมาสุรา ไม่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อยู่อย่างพระ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ตัดชีวิตใดๆ ให้ตายด้วยเจตนาของตน อืม ไม่โมโหให้เขา แมลงหวี่ แมลงวันมาตอมหูตอมตา ก็ทนไม่ไหว ตบมันซะ อ้า ยุงมากวน
(หลวงปู่ทำเสียงตบ) ก็ตบมันซะ ขยี้มันให้ตายซะเลย อย่ามากวน อ่ะ แล้วเราจะมีศีลมีธรรมตรงไหนไหม ศีลธรรม แปลว่าข้องดเว้นทั้งหลายทั้งปวง ไม่ฆ่าสัตว์ไม่ตัดชีวิต ไม่ลักฉกจกฉ้อเอาของผู้อื่น เป็นคนบริสุทธิ์ เลี้ยงชีวิตและครอบครัว ก็เลี้ยงด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาทำบุญ ไม่ได้เบียดเบียนสัตว์อื่น มาต้มยำทำแกง อ้า ให้มันเป็นบาปใส่ตนเฉยๆ อ้า ถ้าระลึกได้อย่างนี้เสมอๆ ก็ชื่อว่า ศีลช่วยธรรมช่วย ให้เราถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่องได้ อืม
บวชก็เคยบวช เรียนก็เคยเรียน ฟังเทศน์ก็เคยฟัง แต่ยังล่วงละเมิดอยู่อย่างนี้ มันก็เหนื่อยใจผู้เทศน์ เหนื่อยใจผู้แสดง นำออกมาแสดงให้ฟัง อ้า มันเหนื่อยใจ ข้ารู้อยู่แล้วล่ะ เออ เจ้าข้ารู้อยู่แล้วล่ะขอรับ เออ ไม่ ไม่มีเจตนาที่จะล่วงเกินไปอย่างนั้นไม่มีเลย สาธุ เทวดาทั้งหลายโมทนาสาธุการ ไม่ได้ว่าเล่นๆ นะ เทวดามองเห็น ทำอะไรผิดศีลผิดธรรม เทวดารู้อยู่ โอ้
ใจยังไม่ถึงธรรมะธัมโม เว้ย
ใจยังไม่ถึงศีลถึงธรรม เว้ย
ยังมีเจตนาฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอยู่ ทำให้เดือดร้อน อืม ในอนาคตของชีวิต มันจะไปตรงไหนละ ตกอบายภูมิล่ะปะเนี่ย อบายภูมิ แปลว่าเครื่องฉิบหาย เครื่องฉิบหายที่จะนำเข้ามาหาตัวเอง ถ้าเราระลึกได้อยู่ตลอดเวลา เป็นผู้มีสติ เป็นผู้มีสตัง เป็นผู้ที่มีกำลังจิตกำลังใจ สามารถยินดีในการรักษาศีลได้ ถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่องได้ นั่นเป็นคนดี ถ้ายังขาดตกบกพร่องอยู่เรื่อยๆ โกหกผู้ให้ศีล มันก็ไม่ไหวเว้ย อ้า เหนื่อย มาเดี๋ยวก็มา
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ
ติสะระเณนะ สะหะ
ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
อ้า ข้าพเจ้าขอตั้งใจสมาทานศีล ขอพระคุณเจ้าจงให้ศีลของข้าพเจ้าให้สะอาดหมดจดกว่านี้ จะได้นั่งสมาธิภาวนา ใจรวมเป็นหนึ่งลงได้ ใจรวมเป็นหนึ่งแล้ว มันไม่มีอะไรมารบกวนเราหรอก ใจรวมเป็นหนึ่งได้ไม่มีอะไรมารบกวน ทำให้ใจแตก ทำให้ใจฟุ้งซ่าน รำคาญจิต เพราะฉะนั้น ขอให้ทุกคนสังวรระวังศีลของตัวเองที่สมาทานไปแล้วนั้น อย่างเอาชีวิตแลก อืม ตายเป็นตาย ตายเป็นตายเราจะไม่ล่วงเกินอีกต่อไป อยู่อย่างงั้นแหละ นั่นเป็นศีลแท้ เทวดา เทวบุตรเทวดาสาธุการ อ้า นิยมชมชอบ ดลบันดาลให้เราเป็นคนรวยขึ้นมา
รวยศีลรวยธรรมก่อน
มีศีลมีธรรมประจำใจตัวเองก่อน เออ แล้วก็ศีลธรรมทั้งหลายก็ไหลเข้ามาหาตัวเรา เป็นที่พึ่งของผู้อื่นด้วย ถ้าเรามีศีลมีธรรมบริสุทธิ์ผุดผ่องแล้ว มี ภูตผีปีศาจอาฮัก หลักคุณ ปู่ตาย่าบ้าน ผีฟ้า ผีแถน ผีแนนตาทอก ตีนจุ้ม อลินทุมเหล่านั้นจะมาใกล้กราย มาข้องกาย ร่างกายของเราไม่มีอีกแล้ว ไม่มีอีกหรอก มีแต่ศีลเท่านี้เป็นของบริสุทธิ์ผุดผ่อง เราอยู่ในศีลในธรรม
ดังที่แสดงมาเป็น ปกิณณกนัย เพื่อต้องการท่านผู้มีปัญญาทั้งหลาย ได้นำเอาศีลธรรมไปประจำชีวิตของตัวให้เคร่งครัด ปฏิบัติถูกต้อง แล้วก็เป็นศีลเป็นธรรมขึ้นมา แล้วก็มีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ
(สาธุ สาธุ สาธุ)
นี่ๆ พูดตรงๆ กันไป ไม่ได้พูดอ้อมแอ้ม พูดตรงๆ เลย ถ้าชกมวยก็ถูกหมัดตรง ปัง เข้าไปใส่ปาก ใส่ที่ไหน ตรงๆ
อาราธนาศีล
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย
ขอศีล ๕ พร้อมทั้งไตรสรณคมณ์ เพื่อจะรักษา
ต่างๆ กัน หรือแยกรักษาแต่ละข้อ
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
การงาน ๑ วิชา ๑ ธรรม ๑ ศีล ๑ ชีวิตอันอุดม ๑
กัมมัฏฐานสังคหวิภาค
พระอภิธัมมัตถสังคหะ ปริจเฉทที่ ๙
สะมะถะวิปัสสะนานัง ภาวะนานะมิโต ปะรัง
กัมมัฏฐานัง ปะวักขามิ ทุวิธัมปิ ยะถากกะมัง ฯ
เบื้องหน้าแต่ ปัจจยนิเทสนี้ จักแสดงกัมมัฏฐาน แม้ทั้ง ๒
อย่างแห่งภาวนา คือ สมถะและวิปัสสนา ต่อไปตามลำดับ
มีความหมายว่า เมื่อพระอนุรุทธาจารย์ได้แสดง
ปัจจยสังคหวิภาคอันเป็นปริจเฉทที่ ๘ จบไปแล้ว
ต่อไปข้างหน้านี้ จักได้แสดง ภาวนา ๒ ประการ คือ
สมถกัมมัฏฐาน และ วิปัสสนากัมมัฏฐาน ตามลำดับ
สิกขาบท ๕
ปาณาติปาตา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการฆ่า เบียดเบียนสัตว์อื่น
อะทินนาทานา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการถือเอาของที่เขามิได้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย
กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการประพฤติผิดในกาม ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น
มุสาวาทา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากของเมา คือ สุราอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
อานิสงส์ของการรักษาศีล
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สิกขาบท ๕ เหล่านี้
สีเลนะ สุคะติง ยันติ
ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ถึงสุคติ
สีเลนะ โภคะสัมปะทา
ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ได้มาซึ่งโภคทรัพย์
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ
ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ได้ไปถึงนิพพาน
ตัส๎มา สีลัง วิโสธะเย
เพราะฉะนั้น ศีล จึงเป็นสิ่งที่วิเศษ
อบายมุข
ช่องทางของความเสื่อมย่อยยับ
อบายมุข ๔
๑. เป็นนักเลงผู้หญิง นักเที่ยวผู้หญิง
๒. เป็นนักเลงสุรา นักดื่ม
๓. เป็นนักการพนัน
๔. คบคนชั่ว
อบายมุข ๖
๑. ติดสุราและของมึนเมา
๒. ชอบเที่ยวกลางคืน
๓. ชอบเที่ยวดูการละเล่น
๔. ติดการพนัน
๕. คบคนชั่ว
๖. เกียจคร้านการงาน
๕๐