หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
วันอาทิตย์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.๓๐ น.
ณ ห้องประชุมชั้น ๒๒
อาคารศูนย์การแพทย์วิชัยยุทธ
โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
ความประสงค์ของผู้อาราธนา ก็ต้องการให้พระคุณเจ้า นำธรรมะธัมโม มาแสดงให้ฟัง ถ้ามีธรรมะ มีธัมโมแล้ว ก็เป็นคนปราศจากโทษ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่กล่าวโป้ปดมดเท็จ ไม่โกหกพกลมผู้ใด และไม่กินเหล้าเมามายเซซ้ายเซขวา ถูกรถยนต์ทับตายไปหลายรายที่เมา แอ้ มันมีโทษไหม มีโทษจริงๆ เมาไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่รู้จักรถสวน รถไม่สวน ขับรถก็เป็นอยู่ แต่ว่ามันเมาแล้วก็เลยลืม เขาแซงซ้ายแซงขวามาก็ไม่รู้ เนี่ยตายไปหลายรายแล้วเพราะความเมา ถ้ากินเหล้าเมามายแล้วมันเป็นอย่างงั้น ลืมเนื้อลืมตัว แม้ชีวิตของตัวก็เอาไม่รอด ตายเสียก่อนกลางทาง ถ้าไม่ตายก็คางเหลืองไปแหละ เออ กระดูกมันหัก แขนขาหัก เอวมันหัก แล้วใช้ได้หรือเปล่า ใช้ไม่ได้เลย เดินไม่ได้เลยน่ะ นั่นเรียกว่าล่วงเกินศีลธรรมที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้แล้ว บท...
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี
เราจะเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เราทำกับเขายังไง เวลามันให้ผล ตัวเองก็ถูกรถชนแหลกลาญไป เออ ขาหัก แขนหัก แต่ยังน้อยน่ะ แต่มันเป็นอย่างงั้นน่ะ เสียสุขภาพทางจิตใจด้วย เสียสุขภาพทางร่างกายด้วย อ่ะ ควรเว้น ถ้าเว้นได้แล้วเป็นผู้มีศีล เป็นผู้มีธรรม มีเมตตากรุณาต่อผู้อื่นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่เบียดเบียน ด้วยวิธีต่างๆ ไม่เบียดเบียน และก็เป็นผู้มีศีล และก็มีเมตตาด้วย เมตตาเพื่อนมนุษย์ตาดำๆ ด้วย
ถ้าเป็นลูกเราหลานเรา แล้วจะเป็นยังไง พ่อกับแม่ก็นั่งร้องไห้อยู่เฉยๆ ถูกรถยนต์ทับตายแล้ว แขนหัก ขาหัก สลบอยู่ ยังไม่ฟื้นเลย เอาไปเข้าโรงพยาบาลเพื่อจะให้ฟื้น ฉีดฝั้นฉีดยาอะไรให้ แก้สลบแก้ไสลไป งานอะไรเป็นของดีขึ้นมา ถ้าหากเรามีศีล มีธรรม มีเมตตาปรานีต่อผู้อื่น เนี่ย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอความนอบน้อมของเหล่าท่านทั้งหลาย จงมีแด่พระผู้มี
พระภาค ผู้เป็นอรหันต์ตรัสรู้ชอบเองพระองค์นั้น
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ อัตโถ
สาธายัสมันเตหิ สักกัจจัง ธัมโม โสตัพโพติ
มันนึกอะไรไม่ออก มันนึกออกไปอย่างงั้น มีศีลมีธรรมแล้ว ก็มีเมตตา กรุณาด้วย
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
พระคุณใน สัมปันโน อิติปิ โส ภะคะวา
ที่พระพุทธเจ้าเป็นผู้ค้นพบ เรื่องเมตตาปรานี อารี(อา)รอบกับเพื่อนมนุษย์และสัตว์อื่น มีประสงค์ยังไงท่านจึงจะสอนอย่างงั้น สอนอยากให้มนุษย์เรามีธรรมะ คือเมตตาธรรมค้ำจุนโลก ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ไม่ได้เบียดเบียนกันให้ลำบากยาก กาย วาจา ใจของตัว ให้อล่องฉ่องไปหมดทุกแห่ง สบายมาก เราไปเข้า เข้าหมู่ชาวพุทธทั้งหลาย ไม่มีใครจะคดในข้องอในกระดูก ขโมยขโจรของกันและกัน โลภโมโทสัน เอาสิ่งของของผู้อื่นไปเป็นของตัว อย่างนี้ไม่ใช่ธรรมดานะ อย่างของส่วนรวมใช้ร่วมกันอยู่ ก็ยังโกงกันอยู่อย่างงั้น ของใช้ร่วมกัน ของกู้ยืมมาแล้วไม่ใช้เขา อย่างนี้ก็เรียกว่า
มหาโลภ มหาโลภ
โลภโมโทสัน
ไม่แบ่งไม่ปันหมู่พวกอะไรอย่างงี้ ได้ยินข่าวมามันไปกระทบกระเทือนจิตใจเหลือเกิน ข้าว ข้าวสาร หรือข้าวอะไรเก็บไว้ในโกดังใหญ่โต เป็นหลายหมื่นตัน หลายพัน หลายหมื่นตัน อยู่ในนั้นหลายกระสอบแล้วจะ ความประสงค์แรกๆ ก็ว่าสงเคราะห์ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ไม่ให้อด ไม่ให้อยาก ไม่ให้ลำบากที่ไหน แต่ที่ผู้บริหารสิ ผู้บริหารหักเอาไว้ หักเอาไว้แล้วมาขนเอาไปทางอื่นซะอย่างนี้ มันก็น่าโกรธกันนะ ทำให้ผู้อื่นอดอยากปากแห้ง ไม่มีข้าวจะกรอกหม้อเลย สืบหาให้เจอคนที่อดอยากปากแห้งจริงๆ น้ำท่วมบ้านท่วมเมือง ก็ท่วมไร่ท่วมนา ท่วมข้าว ท่วมปลา ไปหมดเลย เจอปลูกของฝังก็เรียบราบไปหมดเลย ก็เดือดร้อนหรือเปล่าเป็นอย่างงั้น เงินจะซื้อข้าวสารมากินก็ไม่มี ไปยืม กู้หนี้ยืมสินผู้อื่นมา ก็ไม่มีใช้เขาเลยอย่างเนี่ย เดือดร้อนจริงๆ
เพราะฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศผู้เป็นใหญ่เป็นโตมีอำนาจเหนือก็พิจารณาหน่อย พิจารณาให้เห็นความทุกข์ของไพร่ฟ้าประชาชนว่าลำบากจริงๆ มีนาอยู่ แต่ไม่ได้ทำนา เพราะอะไร เพราะมันแล้งจนไม่ ปลูกข้าวไม่ได้ หรือได้ทำนาอยู่ แต่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น คือ น้ำทะลักเข้ามา ล้นจากแม่น้ำลำคลองทะลักเข้าไปในเนื้อนา ที่ดินของเขา น้ำท่วมข้าว เอาไม่ทัน ทำยังไง กำลังจะออกลูก กำลังจะมาน(ตั้งท้อง) เออ เป็นข้าวมีมาน(ตั้งท้อง)มี มีท้องแล้ว ใหญ่แล้ว ใกล้จะได้เก็บเกี่ยวแล้ว แต่ยังไม่พอเก็บเกี่ยวเลย ยังไม่ออกเป็นรวงเลย น้ำมันลึกไปหมด มองไม่เห็นข้าวเลย ทนอยู่ ๒ วัน ๓ วันมันก็เปื่อยสิปะเนี่ย เปื่อยไปหมด เน่าเหม็นหึ่งเลย ข้าวมันมาน(ตั้งท้อง)แล้ว มีมาน(ตั้งท้อง)แล้วมีรวง มีลูกแล้ว แต่ว่าถูกน้ำท่วมแช่นานๆ หลายชั่วโมง มันก็เน่าเฟะไปเลย ตายไปเลย ไม่ได้สักกระแบะเดียว กระแบะเดียวก็ไม่ได้เก็บได้เกี่ยวแล้ว บางทีก็ไปเกี่ยวแย่งกับน้ำ น้ำท่วมคอแล้ว มันพอเกี่ยวได้หรือยัง
เอ้า ใช้ปัญญาเอา เกี่ยวมาพอจะเป็นข้าวเม่าอะไรได้ ก็เอามาคั่ว เอามา นั่นน่ะเอามาตากแดดแล้ว คั่วให้เป็นข้าวเม่าซะ เอาไปแซะ ไปตำ ไปสี ออกมาเป็นข้าวเม่ายังใช้ได้อยู่ เออ ไม่เสียหายถึงกับว่า ไม่ได้ด้วย... จากที่จริง มันน่าทุเรศนัยน์ตาผู้ที่ทุ่มเทแรงงาน ทำงานทำไร่ทำนา รับจ้างผู้อื่นก็ดี มันเสียเน่า อืม มันเสียของไปแล้วทำไง เดือดร้อนจริงๆ ไปยืมเงินยืมทองผู้ใด ก็เขาไม่อยากจะให้ เพราะว่าทางรัฐบาลก็เอาไปหมดแล้ว ไม่ ไม่มีที่จะเลี้ยงดูกันแล้ว อย่างนี้เป็นต้นอีกล่ะ ก็ทำให้ลำบากยากเย็น คิดไม่ออกบอกไม่ถูก ความอดอยากปากแห้งตามเข้ามา ไม่มีเงินที่จะซื้อข้าว ข้าวในเล้าในยุ้งในฉางก็ไม่มี ไม่ได้เก็บไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย อย่างนี้เขาเดือดร้อนจริงๆ ถ้าเก็บไว้สงเคราะห์บุคคลผู้อุบัติเหตุดัง ดังกล่าวไว้แล้ว
ก็ขอร้องให้ดูแลเขาหน่อย ดูแลผู้ที่ตกยากลำบากจริงๆ หน่อย ลำบากจริงๆ แล้วไปกู้หนี้ยืมสิน ก็ไม่มีหลักประกันดีพอที่จะเอาให้ผู้แลก อ้า ยิ่งกู้เข้าไป ยืมเขาไป เป็นหนี้เป็นสินเรื่อยไปอีกพะรุงพะรัง เป็นอย่างงั้นก็ไปกระโดดน้ำตายกันโว้ย
เออ ไม่มีทางออก ช่วยตัวเองก็ช่วยอยู่พอแรงแล้ว บัดนี้ธรรมชาติมาทุ่มเท ทับท่วมเข้าไป ให้เกิดเสียหายร้ายแรง ไม่มีปัญญาที่จะหาเงินมาทดแทนให้ เออ เป็นหนี้รัฐบาลอีกอยู่อย่างงั้นล่ะ ที่จริงมีอยู่แล้วเงินน่ะ ไอ้ข้าวอยู่ในฉางใหญ่ๆ เป็นร้อยกระสอบ พันกระสอบ หมื่นกระสอบเต็มอยู่ แต่ไม่เอาออกมาช่วยเหลือประชาชนน่ะ อย่างนี้มันชื่อว่า พึ่งพาอาศัยกันยามทุกข์ยากลำบากไม่ได้แล้ว เออ เพราะฉะนั้น มันจึงประท้วงกันอยู่เรื่อยๆ
ความเมตตาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่
มันหลั่งให้เองเหมือนฝนอันชื่นใจ
จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน ฉะนั้น
มันไม่มองเห็น ใครจะอด จะอยาก จะปากแห้งแต่อย่างใด ไม่ได้มองเห็น แต่มันมองเห็นกันอยู่ดีๆ ล่ะ ใครจะเห็น จะรู้ รู้มันหายไปไหน ข้าวสารตั้งโกดัง ตั้งล้านตัน หมื่นตัน แสนตัน ล้านตัน แล้วมันหายไปยังไง ทำไมไม่ถึงมือคนที่ลำบากบ้าง อันนี้ก็พิจารณาช่วยกัน ให้รู้จักมีเมตตากรุณาต่อกันเด้อ ชื่อว่าเป็นชาวพุทธ ถ้าไม่ใจจืดใจดำ อำมหิตร้าย เป็นชาวพุทธที่มีเมตตาอนุเคราะห์พี่น้องผู้ลำบากยากจนจริงๆ
แต่ว่าผู้ที่เป็นหนี้เป็นสิน เพราะไปเล่นหวยเล่นเบอร์มากเกินไป อยากได้เงินหลายๆ แต่ว่าก็จำเป็น อยากได้แต่มันไม่ถูก ซื้อเท่าไหร่ก็ไม่ถูก หมดไปๆ เออ ซื้อล็อตเตอรี่บ้าง ซื้อหวยบ้าง ซื้ออะไรบ้าง ที่มันจะพอจะได้เหล่านี้เป็นต้น คาดคะเนผิดไป ก็ทำให้ความลำบากมาถึงตัว ไม่มีที่จะจับจะจ่าย ยิ่งเพิ่มยิ่งไปกู้ยืมเขามาอีก ยิ่งเพิ่มหนี้เพิ่มสินไปอีก มากมายพะรุงพะรังไปเลย อันนี้น่าเห็นใจน่ะ น่าเห็นใจ น่าสงสาร เออ สงสารอยู่ แต่ตัวของเราเอง ก็ยังช่วยตัวเองไม่ได้หรอก บวชเข้ามาแล้วไม่มีหนทางที่จะหาวิธีช่วย อยากจะช่วยอยู่แต่มันไม่มีวิธีที่จะช่วย เพราะตัวเองก็ยังเป็นหนี้เป็นสินเรื่อยไปอยู่ อ้า เป็นหนี้เป็นสินเพราะการก่อ การสร้าง การซ่อมแซมเสนาสนะ ที่มันชำรุดทรุดโทรมไป เป็นหน้าที่ของเจ้าอาวาสที่จะต้องดูแลให้ทั่วให้ถึง ให้หมู่ให้คณะได้พึ่งพาอาศัยได้ อันนี้ก็เป็นทุกข์อยู่อย่างหนึ่งเหมือนกัน ก็กับญาติกับโยมนี่แหละ ทน ทนเด้อ ทน ทนเอา เออ สู้ สู้ อย่าท้อถอย อืม เอาเสียงนก มันร้องให้ฟัง ไปในป่า นกตัวน้อยๆ น่ะมันร้อง
อย่าท้อถอย อย่าท้อถอย
เออ อ้า เอากับมัน อย่าท้อถอย อย่าไปท้อถอย จนหนีไม่พ้นแล้วก็ไปฆ่าตัวตายทำนองนี้ ไปโดดน้ำตาย อย่างนี้มันไม่ถูกต้องหรอก อย่าท้อถอย เอาความขยันหมั่นเพียรเข้าสู้กับมัน ให้รอดตาย เอาตัวรอดได้
อันนี้ไม่รู้จักพอ แล้วก็กู้ยืม ไม่ ไม่นับ หมดเท่าไหร่ๆ เอามาเท่าไหร่ ไปกู้ยืมเขามา เพื่อจะมาใช้จ่ายในการสร้างครอบครัว หรือสร้างบ้านสร้างช่องของตัวเอง ก็เดือดร้อนอีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้น
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
เราจะต้องเป็นคนขยันหมั่นเพียรที่สุด ขยัน ไม่ใช่ขยันกู้ ขยันยืม ไปยืมคนโน้นคนนี้นานเข้า เอาไม่ใช้เขา หนี้เก่าก็ยังไม่ได้ใช้ ยังมายืมอีกอยู่อย่างนี้ ก็ทำให้เขาเบื่อเหมือนกัน พะรุงพะรังไปหมด เออ ติดหนี้ติดสินพะรุงพะรังแล้วจะทำยังไง พี่น้องช่วยเหลือหน่อย รัฐบาลก็คิดจะช่วยเหลือ แต่ไม่เห็นเอาออกมาจ่ายสักที อยู่ในคลังๆ เป็นกระสอบ เป็นแสนๆ กระสอบ กระสอบข้าวสารน่ะ ถ้ามันเอาออกมาแจกให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินที่ตกทุกข์ได้ยาก มันหายไปยังไง มันหมดไปแล้ว ไม่มีล่ะ แอ้ อย่างนี้เป็นตัวอย่าง เออ ถ้าช่วยกันต้ม ช่วยกันตุ๋นชาวบ้านชาวเมือง ไพร่ฟ้าประชาชนให้มากๆ ประชาชนก็จะลุกฮือขึ้นมาประท้วงซะก่อน ไพร่ฟ้าประชาชนมีหัวใจ โกรธเกลียดเดียดฉันท์ขึ้นมา เรียกว่าไม่จริงต่อกัน เอาใจไม่มีเมตตากรุณากันเลยอย่างนี้ อันนั้นก็ถึงความพินาศ ถึงหายนะเหมือนกัน เป็นหายนะความฉิบหาย วายร้ายเหมือนกัน
ขอให้ทุกฝ่าย ทุกหน่วยน้อมใจเข้าหากัน ระลึกถึงความยากลำบากของผู้ทุกข์ยากจริงๆ เออ ตั้งใจช่วยมันจะเป็นบุญเป็นกุศลแก่ผู้เป็นเจ้าหน้าที่เอง ไอ้ที่ตามสอดแนมดู ให้รู้ ให้ทั่ว ให้แน่นอนซะก่อนแล้วจึงเริ่มต้น ความไม่มีหนี้ก็เป็นสุขอันหนึ่ง ถ้ามีหนี้แล้วเป็นทุกข์อันหนึ่ง เป็นหนี้เป็นสินเขาแล้วเป็นทุกข์ ค้างอันนั้นค้างอันนี้เขา ยืมเขามาแล้วไม่มีที่จะต้องใช้ เอาคืนมาจ่ายเขาอีกได้ ยืมเขาเรื่อยไป ยืมเรื่อยไป เอาไปเอามาหนี หนีจากบ้านช่องตัวเอง บ้านเลขที่ หนีไปที่อื่นน่ะ ไปหาอาศัยเมืองอื่นเขา เนี่ย อ้า โดด เขาเรียกว่าโดดหนี้ เออ หนี้สิน
เพราะฉะนั้น ขอฝากท่านทั้งหลายช่วยคิดกันหน่อย ช่วยคิดกันหน่อยทำยังไง จะนำมาแก้ไขความทุกข์ยากลำบากของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินให้ทั่วให้ถึงได้ เออ หลายหมื่นตัน หลายแสนตัน ล้านตัน เพิ่นบอกมันละลายข้าวสาร อ้า ที่กักตุนไว้อยู่ในยุ้งในฉาง มันมากมายก่ายเกิน พะเนินเทินทึก อึกทึกนึกนอง ทำให้ลำบากยากจน อันนี้พวกเราก็กระเหม็ดกระแหม่เอา อะไรไม่ควรซื้อก็อย่าไปดื้อ ดื้อรั้นซื้อ ให้เป็นมื้อเป็นคราว ทั้งคาวหวาน อ้า อย่ายืมเบี้ยน่ะ ก็ยืมไปเรื่อย หนักหน้าไปเรื่อย อ้า เอาตัวไม่รอด มันหน้ามันหลาย หนี้สินมากมายก่ายเกิน พะเนินเทินทึกเข้ามาแล้วทำไง หนี หนีหนี้ หนีไปอยู่ที่ไหน ไปอยู่ปักษ์ใต้ หรือไปอยู่ที่ไหน เออ หนีจากบ้าน ทิ้งบ้านทิ้งเมืองหนีไป ลูกเต้าเหล่ากอ ลูกหลานน่ะ ใครจะเลี้ยงจะดูให้ เหล่านี้ก็เป็นความทุกข์ที่แสนสาหัสสากรรจ์อยู่ เออ ขอให้เอาใจช่วยกันให้มากๆ เราจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ความสุขที่ไม่มีหนี้ เออ เพิ่นก็บอกว่า เป็นความสุขอันหนึ่ง ไม่มีหนี้ ไม่มีสิน ไม่เป็นหนี้เป็นสินใคร เป็นหนี้ค้างเขาอยู่หลายปีแล้ว ก็นำมาใช้เขาให้พอซะ ให้หมดซะ ให้หมดหนี้หมดสินซะ ถ้าหมดหนี้หมดสินแล้ว เราก็สบาย อืม มันเป็นทุกข์เพราะเป็นหนี้เป็นสิน หนี้สินผู้อื่นน่ะ เออ ญาติโยมทั้งหลายก็รู้อยู่ รู้ว่ามันเป็นทุกข์ เป็นหนี้มันเป็นทุกข์ ทุกข์เพราะความเป็นหนี้เป็นสิน หนักอกหนักใจ อ้า ช่วยตัวเองไม่ได้ ช่วยครอบครัวไม่ได้ ก็ถึงความพินาศน่ะ สันตะโร
อ้าว ตั้งใจประพฤติปฏิบัติศีลธรรมให้เข้มงวด ให้เคร่งครัดเข้า อย่าให้ขาด อย่าให้ด่าง อย่าให้พร้อยน่ะ อย่างที่เราสมาทานมาแล้วนั้น สมาทานมาแล้วว่า
ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์
ไม่ประพฤติผิดในกาม
ไม่กล่าวโอ้อวดมดเท็จ
หลอกลวงผู้อื่นมาเลี้ยงชีวิตและครอบครัว ไม่มี ไม่ให้ค้าง ไม่ให้คา ไม่ให้หนักอกต่อไป ถ้าหนักอกมากๆ แล้วหาทางออกไม่มี ก็เลยทิ้งครอบทิ้งครัว ระเทระทาย แยกกันไปคนละทิศละทาง อ้า อันนี้ความทุกข์สาหัสสากรรจ์เหลือเกิน เออ อย่าสร้างหนี้สร้างสินให้มันมากพะรุงพะรังจนใช้ไม่ไหว อย่าเลย เอาแต่พอเว่า(พูด)กันได้ พอกู้หนี้ยืมสินผู้อื่นมา อย่าค้าง ทุกข์ สุข เพราะความไม่มีหนี้ เพิ่นก็ว่า ไม่มีหนี้มีสินที่ไหน มีความสุขกาย สบายใจ ไม่มีใครมาทวง เจ้าหนี้มาทวงค่านั่นค่านี่ มันก็ยิ่งทุกข์เข้าไปอีกแหละ อืม ถ้าไปยืมไว้มากๆ ทุกข์เข้ามาทับถมหัวใจของเราเอง เพราะฉะนั้น ก็อย่าเพิ่มความทุกข์ให้มากขึ้น เดี๋ยวจะไม่มีทางออก
(หลวงปู่กลั้วน้ำในคอ)
หวัดลงคอ พูดอะไรก็ไม่ออก ไอ้นี่ก็เป็นทุกข์อีกอย่างหนึ่ง
ทุกขังอยากกินเหล้า กินไปแล้วมันเมาอีก เออ หาทางออกบ่ได้ โกรธให้คนโน้น โกรธให้คนนี้ เตะไม้เตะขอนไป
ทุกขัง อยากกินเหล้า
อนิจจัง ก็ได้กินแล้วมันก็เมาอีก
อนัตตา ห้ามบ่ได้ เซซ้ายเซขวา ห้ามบ่ได้
เมื่อเขามาทวงบ่อยๆ แล้ว โกรธให้เขาเข้า เกิดฆ่ากันตายก็มี
ทุกขัง อยากกินเหล้า
อนิจจัง มันเมาอีก
อนัตตา ห้ามบ่ได้
เตะไม้หน้าแข้งเขียว เออ เตะไม้เตะขอนไปทั่วแห่ง ทุกข์ยาก โมโหโกรธาปรายนา เป็นการเคียดแค้นชิงชังกันขึ้นมา เป็นศัตรู สร้างขึ้นมา สร้างหนี้สร้างสินแล้วมันก็เป็นศัตรู เขาสร้างศัตรูใส่ตัวเอง เจ้าหนี้เขาก็ไม่อโหสิให้ อันนี้ก็เป็นทุกข์อันหนึ่ง
เพราะฉะนั้น อย่าสร้างความทุกข์ใส่ตัวเอง ปลดหนี้ปลดสินของตัวเองให้มันหมดซะ มันจึงไม่เป็นทุกข์ อย่าไปค้างมันหลายปี ค้างหลายปีแล้วดอกผลมันขึ้นมาตามต้นอย่างงั้นแหละ หมื่นละเท่าไหร่ แสนละเท่าไหร่ ล้านละเท่าไหร่ ดอกผลมันตามหลังมาอีก ทำให้เราเป็นทุกข์มากอีก นั่น
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
เออ ที่ยกขึ้นมาเบื้องต้นนั้น การกระทำเป็นกรรม
กัมมัง วิชชา ธัมโม สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
เพิ่นว่าวิชา ความรู้ไม่มี ไม่มีปัญญาที่หามาใช้เขาได้ แล้วมาหนักหน้าเรื่อยไป เพราะฉะนั้น ก็ให้เว้นบ้าง เคยกินเหล้าเมามายก็เลิกซะ เคยเล่นการพนันก็เลิกซะ อย่าไปเกี่ยวข้องกับมัน มันทำให้เกิดทุกข์
ทุกขัง อยากกินเหล้า
อนิจจัง เมาหวิว
อนัตตา เป็นคนบ้า
เตะไม้หน้าแข้งเขียว โกรธให้เขาพู้น(โน้น)เนาะ(นะ) แต่ว่าตัวเองไปเตะรั้ว เตะราว เตะต้นเสาต้นเสวไป หน้าแข้งบวม หน้าแข้งของตัวนี่เแหละ ขาหักขาห่าน(กะเผลก)ไปแหละ ถ้าอย่างแรงเกินไป อย่าไปเสพมันอีกต่อไป ถ้าเสพมันอีกก็จะเป็นหนี้ต่อไปอีก อ้า โมโหเขาแล้วล่ะมัน เขาถามบ่อยๆ เอาหนี้มาถามบ่อยๆ เกิดโมโหกัน
ด่าพ่อ ด่าแม่ ด่าเฒ่าแก่ สังฆะพระสงฆ์
บางคนหลงตีกันติดคุก เป็นคนทุกข์กินแล้วมั่งมี
อวดตัวดีด้วยเดชน้ำเหล้า เสาแช่น้ำกินแล้วนอนเมา
ฝูงคนเฮา(เรา)ก็กินแล้วเกิดโทษ ของบ่เป็นประโยชน์แท้
ไผ(ใคร)ตั้งแต่งมา ฮึ สุรานี้เป็นไผ(ใคร)มาตั้งแต่ง
แม่นผู้ใด๋(ผู้ใด)จัดแจง อยู่เหล้าขี้ยา อ่ะเนาะ(นะ)
บ้างก็กินเป็นยา บ้างก็กินเป็นบ้า โมโหโทโส
ด่าพ่อ ด่าแม่ ด่าเฒ่า ด่าแก่ ด่าสังฆะ พระสงฆ์ นั่นแหละ
เขาอาละวาด ฮอดวัด ฮอดวา
เออ เพราะไม่มีสติสตัง คุ้มครองป้องกันตัวในทางที่ดีที่ถูก เพราะฉะนั้น ขอบิณฑบาตเถอะ เรื่องอย่างนั้นอย่าให้มันเกิดขึ้นแก่สังคมไทยเราเลย ให้มันเยือกเย็นเป็นสุข อยู่เย็นเป็นสุข มีแต่ความสนุก มีแต่ความสนาน ไม่เป็นคนพาล
กินเหล้าเมามาย หาทะเลาะวิวาทผู้อื่น อย่างนี้หาว่ามันเป็นสุขเหรอ มันเป็นกองทุกข์ ถ้าเขาจับได้ไล่ทันล่ะก็ ติดคุกติดตะรางไปอย่างงั้น อันนี้ห้ามไว้ตั้งแต่มีศาสนามา ห้าม ห้าม ไม่ ไอ้อ้อน มันหลำ(กินแล้วกินอีก)ผู้เดียวหรอก เพราะมันว่า เป็นบ้าเพราะกินเหล้าล่ะ
โมโหโทโส โมโหเกิดขึ้นแล้ว มองเหตุบ่เห็นหยัง
มีแต่ใจพาโล เคียดคุณคำฮ้าย ใครมาเว่าผิดหูแน
ก็เอ้า จะฆ่า จะแกง จะตีเขา ไปทั่วต่างๆ นานา
อาละวาดสังคม ทำให้สังคมล้มละลาย ล้มเหลว ไม่อยู่เย็นเป็นสุขเลย เพิ่นก็บอกแล้วธรรมะธัมโม ช่วยให้ตัวเองมีความสุข มีความสบาย เพราะไม่ได้ทำผิดกับกฎหมายบ้านเมือง สบายใจไปไหนมาไหน มีหมู่มีพวก รู้จักมักคุ้นกันเป็นจำนวนมาก อาศัย พึ่งพาอาศัยกันได้ อันนี้ก็ดูแลสงเคราะห์สงหากันไป เท่าที่จะช่วยกันได้ ถ้าหมดหนี้หมดสินแล้ว ความไม่มีหนี้มีสินมีความสุขมาก สบายใจมาก ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกันแล้ว อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขแท้ ยิ่งเป็นผู้เข้าวัดเข้าวา จำศีลภาวนาเข้าอีก เกิดความสบายขึ้นมา ดี สบายอก สบายใจ ไม่มีใครมาทวงถามอะไรต่ออะไรกับเรา เกิดความสบายใจเพราะเรารักษาอยู่ ไม่ให้เป็นคนขี้เหล้า ขี้ยา ขี้ซ่า ขี้ฝิ่น กัญชา ยาเสพติดให้โทษเหล่านั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำให้วุ่นวาย ทำให้เป็นทุกข์ สร้างทุกข์ใส่ตัวเอง ทำไมไม่รู้จักว่ามันเป็นกองทุกข์ เล่นหวยเล่นเบอร์เหล่านี้ ก็เสียเงิน เออ ครั้งละเท่าไหร่ๆ อ้า
ฝ่ายลูกศิษย์ลูกหาเราก็ยังติดเว้ย มี...เวลา เอาจก(ล้วง)มาจากกระเป๋าตัวเองมาตรวจ เวลาหวยมันออกแล้ว หวยออกแล้ว โอ้ย ผิดตัวเดียว ผิด ๒ ตัว แน่ะ แล้วก็ทีหน้าทีหลังไม่เข็ดอีก เล่นอีกอยู่อย่างเก่า ต้องการรวย ต้องการถูกหวยรวยเบอร์ จะได้ใช้หนี้ใช้สิน ต้องการไปอย่างงั้น ที่จริงไม่ใช่ มันเพิ่ม เพิ่มหนี้เพิ่มสินเข้าไปอีก อ้า ไม่ใช่จะหมดแค่นั้นหรอก เห็นลูกศิษย์ไปด้วย จกใบหวยออกมาเปิด มาเปิดใส่โทรศัพท์ ที่เขาอ่านรายการหวยออกตัวไหนๆ แย่แล้ว หาว่าดี หาว่าสนุกสนานเหรอ กองทุกข์มันจะเข้ามาถึงตัวเอง ในเมื่อเราไม่มีสติพอ อย่าไปเล่นกับมัน ถ้าเล่นกับมันแล้วมันเป็นโทษ อ่ะ เป็นโทษทำให้ตัวเองหมดหนทางต่อสู้เข้าไป ไม่มีอะไร คิดไม่ออกบอกไม่ถูก ก็มีแต่ความทุกข์มาใส่เนื้อใส่ตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ เพิ่นก็ห้าม ทางวัดทางวาเพิ่นก็ห้าม ไม่ให้เล่นหวยเล่นเบอร์ ไม่ให้เล่นโบก(การพนันชนิดหนึ่ง) เล่นไพ่ มันเป็น
อบายมุข
อบายมุข เป็นหนทางนำมาซึ่งกองทุกข์ ปากแห่งความฉิบหายมันแผ่ออกมา อบายมุข ถ้าไปติดอบายมุขเข้าแล้ว เป็นปากแห่งความฉิบหาย อ้า เปิดประตูให้มันไหลออก เออ ความฉิบหายไหลออก เทออกอยู่อย่างงั้นน่ะ อย่าไปยินดีกับมันเลย เออ อย่าไปยินดีกับการเล่นหวยเล่นเบอร์เลย
ให้ยินดีในศีลในธรรม
นำศีลนำธรรมเข้าให้มากๆ ให้มีศีล ให้มีภาวนา ทำสมาธิให้ใจตั้งมั่น ใจสงบแล้วมันเยือกเย็นจริงๆ สบาย นั่งสบาย คลำหาทุกข์ก็ไม่มี
ไม่มีทุกข์ มันสุขหนอ สุขหนอ
นั่งเข้า ปล่อยวางมีความสุข เพราะไม่มีหนี้มีสิน ไม่มีใครถามหนี้ ไม่มีใครมาทวงถามเอาหนี้จากเราได้เลย เพราะเราไม่ได้สร้างไว้ ไม่ได้สร้างทุกข์ใส่ตัวเองไว้ ก็ตัวเองก็สบาย นั่งสบาย นอนสบาย สามีภรรยากัน ถ้าหากแวะออกไปจากหนทางศีลธรรมแล้ว มันก็เข้าไปพู้น(โน้น)ล่ะ เข้าไปเล่นการพนัน เล่นไพ่ เล่นโบก(การพนันชนิดหนึ่ง) เล่นไพ่ เล่นหวย อ้า ต้องการรวย แต่ว่าเกิดผิดกัน ระนึงพึงพืด สามีภรรยาทะเลาะกัน ตีกันหัวร้างข้างแตก เงินเอาไว้ให้ ไปไหนหมด เออ ซัดไล่กันไป อ้า แล้วมันเกิดทุกข์หรือเกิดสุข ถ้าเป็นอย่างงั้น มันเกิดทุกข์หรือเกิดสุข มันเป็นทุกข์น่ะ ทำให้เราทุกข์ อ้า คิดไม่ออกบอกไม่ถูก หาทางออกไม่ได้ สามีภรรยาก็ทะเลาะกันซะแล้ว เงินกูฝากไว้หลายๆ มันเอาไปไหนหมดเหอะ เออ อ่ะ ซักทีไล่เรียงกัน เอาไปเล่นหวยหมดแล้วเงิน เออ แน่ะ มันน่าโมโหหรือเปล่า น่าโมโหโกรธา น่าโกรธเกลียดเดียดฉันท์ซึ่งกันและกัน ไม่ดีเลย อันนี้ขอบิณฑบาต อย่าเลยนะ ถ้าเคยชินกับเรื่องการพนัน หรือเล่นหวยเล่นเบอร์ ขอบิณฑบาตเถอะอย่าเลย อ้า ทำบุญสุนทานไป ทำมาหากินในทางที่ชอบไป ของบริสุทธิ์ยุติธรรมจะเกิดมีต่อเรา ได้มาก็เป็นของเราไม่ได้เป็นของใครเลย ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเลยเกิดขึ้นในครอบครัวของเรา ไม่มี
ถ้าได้ไปเล่นหวย เล่นเบอร์ เล่นโบก(การพนันชนิดหนึ่ง) เล่นไพ่ เสียเงินไปเปล่าๆ ฟรีๆ แล้วมันก็น่าโมโหน่ะผู้เป็นเมีย ผัวเอาไปซื้อเหล้า ไปซื้อ ซื้อหวยซื้อเบอร์ กินเหล้าเมามาย อ้อแอ้อยู่ตามถนนหนทาง เออ เซซ้ายเซขวาไป เอาไปเอามานี่ก็ โอ้ย บ่มีเงินจะทำศพแหละ พอรถเขามาเหยียบ รถเขามาตำ(ชน)เอา เพราะเป็นคนเมา เซซ้ายเซขวาไป เขาก็หลบไม่ทัน คนขับรถทั้งหลายเขาก็ชนเอาซะ อ้า หัวร้างข้างแตก แขนหักขาหักไป จะเอาอะไรมาเยียวยารักษาปะเนี่ย เงินทองก็ไม่มี อันนี้ทำทุกข์ให้เจ้าของเอง เพิ่นจึงว่าอบายมุข ปากแห่งความฉิบหาย อบายมุข ปากแห่งความฉิบหาย ตัวเองสร้างขึ้นมาเอง แล้วจะไปโทษใครล่ะปะเนี่ย อืม ...บุตร ...ภรรยากัน เล่นเอาจริงๆ จัง ก็เป็นบาปเป็นกรรม เอาแหละเรื่องอันนี้ เรื่องชาวบ้านเขา เรื่องชาวบ้านชาวเมือง ช่วยกันอดออมไว้บ้าง อย่าไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ใช้จ่ายสร้างหนี้สร้างสินใส่ตัวเอง เป็นบาปด้วย เป็นอบายมุขด้วย ปากแห่งความฉิบหาย อ้า อย่าเลย อย่าไปเล่นกับมันเลย เพราะมันเป็นปากแห่งความฉิบหาย เออ
อบายมุข
มุขะ ตัวนั้นมันเป็นปาก
ตัวนั้นมันเป็นปาก ปากแห่งความฉิบหาย เล่นหวย เล่นเบอร์ เล่นบัตร เล่นการพนันทุกชนิด ปากแห่งความฉิบหายทั้งนั้นล่ะ เพราะฉะนั้น อย่าให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นมาในครอบครัวของเรา เออ ภรรยาก็เอาใจช่วยสามี สามีก็เอาใจช่วยภรรยา เรื่องไหนที่มันจะฉิบหายวายร้ายแล้วก็เลิกซะ เลิกจากการกระทำบำเพ็ญอย่างงั้นซะ ให้ไปอยู่สบาย ไม่มีหนี้มีสินที่ไหน มีความสุข สุขเพราะไม่มีหนี้มีสิน หากินสุจริตบริสุทธิ์ยุติธรรมดีกว่า เอาสิ่งที่เป็นธรรมเป็นวินัย มาปกป้องคุ้มครองตัวเอง อย่าชักชวนแนะนำลูกหลานให้ยินดีในทางนั้นเลย
เอ๊ะ เทศน์ไปเทศน์มา มันทำไมมา อ้า ตื้นตันเหลือเกินคิดไม่ออก มันคิดออกอย่างงี้ก็พูดไปอย่างงี้ ขอโทษด้วยนะ ถ้าผู้ใดไม่ชอบ ศีลธรรมเป็นของดี เป็นของวิเศษ เป็นของประเสริฐ ทำให้ตัวนอนตาหลับ ไม่มีหนี้มีสินกับใครๆ อาจจะมีหนี้มีสินอยู่กับพ่อกับแม่ก็ได้ เพราะเอาเงินพ่อเงินแม่ไปถลุงทางอื่นกัน นี้เป็นหนี้เป็นสินอีกเหมือนกัน ถ้าพูดไปอย่างนี้มันทุกข์น่ะ พูดไปอย่างงี้มันกระทบกระเทือนจิตใจของญาติโยม พูดเรื่องใหม่ดีกว่าขอให้ทุกคนสังวรระวัง อย่าให้มันเกิดมีในครอบครัวของเรา ครอบครัวของคนอื่นก็ของเขา
เรื่องของเขาไม่ใช่เรื่องของเรา
อย่าไปยุ่งน่ะ
อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับใครๆ เขา เราไม่สร้าง มันก็ไม่มี หนี้สินไม่มี อ้า อันนี้เป็นตัว ตัวที่พูดอยู่นี้ ก็เป็นหนี้เป็นสินเขาอยู่นะ เฮอะๆ จ้างให้เขา เออ สร้างเจดีย์ให้ แล้วราคาเป็นล้านกว่าๆ เกือบ ๒ ล้านนู้นล่ะ เออ เป็นหนี้ไว้ก่อนๆ มาเทศน์ทีไหร่ๆ ก็ได้ ได้ไปฝากไว้ ออมไว้ ได้เงินจากกัณฑ์เทศน์บ้าง อืม ได้เท่าไหร่ก็ไป ลูกศิษย์ไปฝากไว้ๆ ฝากไปเข้าบัญชีไว้ เขาไม่ต้มไม่ตุ๋นเราหรอก อ้า ฝากไว้นั่นแหละ เก็บไว้ให้พอกับค่าหนี้ค่าสินเขา เออ หนี้สินที่ก่อสร้างขึ้นมามันใหญ่มันโต ถ้าพูดถึงความสูงของมันเนี่ยขนาดโรงพยาบาลหลังนี้หรือเปล่า จากพื้น แล้วก็พื้นที่ ๒ จึงไปตั้งเจดีย์ไว้พื้นที่ ๒ ขึ้นไป แล้วมันสูงแล้ว เออ
อ้าว ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ตายซะก่อน เราก็จะพยายามหาไว้ให้ ไปใช้ค่าแรงงานเขา ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าอะไรต่ออะไรเยอะแยะไป ถ้าไปคิดมันก็หนักใจตึงขึ้นมา ไม่คิดซะเลยดีกว่า หาได้จึงค่อยให้ไป ไปเทศน์ที่อะไรไป สวดมนต์ให้เขาที่จังหวัดอะไรน่ะ แอ้ ลืมแล้วจังหวัดที่ไป อะไร ทางคนนั้นเขามีศรัทธาแรงกล้าอยู่ เขาเอาเงินมาเข้าบัญชีให้เป็นแสน เป็นแสนหรือว่าเป็นล้านหือ เอาเงินมาเข้าบัญชีไว้ให้ เออ เบาไปหน่อยหนึ่งเว้ยปะเนี่ย เบาแล้ว นางแดง นางแดงอยู่ จังหวัด อะไรล่ะหือ ลืมแล้ว เขามีเงินมีทอง พอได้ใช้ได้สอย เขาเอาเงินมาให้หลวงปู่ไปสร้างเจดีย์ ให้ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทหรือเท่าไหร่ โอ้ ดีใจเว้ย ตัวดีใจหลาย เออ เบาแล้วๆ เบาขึ้นมาแล้ว
เพราะฉะนั้น อันนี้พูด พูดเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งให้ฟังหน่อย ไม่ใช่ธรรมะธัมโม พวกเรานั่นต้องพยายามหลบหลีกเอา อะไรมันเป็นบาปเป็นกรรม ก็ค่อยเลิกค่อยละไป อย่าไปเมามันจนลืมตัว
คนลืมตัวก็เหมือนดังวัวลืมตีนน่ะ
วัวลืมตีนน่ะลืมตัวเองมี ๔ ขา เห็นมนุษย์มนากินเหล้ากินยาแล้วก็เซิ้งรำขับเพลงกัน ตัวเองอย่าลืมว่าตัวมี ๔ ขา เห็นเขาเต้นก็เต้นดังเขา โดดดังเขา เอาไปเอามา ก็ล้มทับกันตายไป วัวลืมตีนน่ะ เออ เนี่ยเป็นคนลืมตัวก็เหมือนวัวลืมตีน เห็นเขาสนุกสนานก็อยากสนุกสนานกับเขา ไปเต้นไปรำกับเขา อ้า มันลืมตีนแล้ว ขาไม่...เลย อันนั้นมันล้มทับกันลงไปก็ตาย เออ คนลืมตัวเหมือนวัวลืมตีนน่ะ
เอาล่ะพรรณนามาให้รู้จัก นี่บ้านของเมืองเรา เขาเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน ก็หวังพึ่งพิงแรงของลูกของหลานต่อไป คุ้ยเขี่ยหาสำหรับตั้งหลัก ตั้งหลักตั้งฐานให้มันได้เงินมาเป็นกอบเป็นกำ ให้มาเป็นทุนเป็นรอน ให้ลูกให้หลานได้ศึกษาเล่าเรียน เออ หาวิชาความรู้ใส่ตัว อดตาหลับขับตานอน เพราะเรามีลูก เพราะเรามีหลาน มีหลานเยอะแยะ หลานตัวมันน้อยๆ แหละ ลูกของลูกนี่ก็เป็นหลาน แล้วก็หลานก็มีครอบครัวอีก ก็เอาเหลนมาให้ดูอีก ถ้ามันหนักเข้าไป หนักเข้าไปอ่ะ เรื่องหนี้สินทั้งหลายมันเป็น
ดินพอกหางหมู
เมื่อไม่เช็ด ไม่ล้างมันก็ดินพอกเข้าๆ ก็เป็นก้อนบักใหญ่ขึ้นมา ดินพอกหางหมูมันดินเหนียว ไปนอนที่ไหนมันก็พอกเข้าๆๆ นอนขี้โคลนเมื่อไหร่พอกเข้า ต่อไปต่อมาเวลาขึ้นมา มันแห้งเข้า เวลาเดินไปมันก็ตีส่วง(เอว)ตัวเอง กุ๊งกิ๊งๆ ไปแหละ หางหมูมันหนัก มันเป็นปุ่มอยู่ปลาย มันเดินไป มันก็ตีส่วง(เอว)ข้างนี้ เดินมาทางนี้มันก็ตีส่วง(เอว)ข้างนี้ ปุ๊กปิ๊กๆๆ ไปแหละ อ่ะ ดินพอกหางหมู ดินพอกหางหมูมันเป็นโทษขนาดไหน หึหึ เออ มันตีส่วง(เอว)ตัวเอง ตุมตัมๆ ไป เออ ถ้าวิ่งแรงๆ ก็ตีแรงเข้า ถ้าค่อยเดินไป ค่อยยังชั่วหน่อย มันตีเอาเหมือนกันนะ
เพราะฉะนั้น อย่าให้ ดินมันพอกเป็นหางหมู พอกขี้โคลนเข้า น้ำหนัก ขี้โคลนมันแห้งคาหางอยู่ มันก็ตีส่วง(เอว)ตัวเอง ตุมตัมๆ ไป อ้า ถ้าวิ่ง ยิ่งวิ่งยิ่งไล่ไป ตีไป ตุมตัมๆ ไปอย่างงั้นแหละ เนี่ย นี่พูดน้อยๆ ไม่ได้พูดมาก เรื่อง
ทานัง เทติ
การทำบุญให้ทาน ให้รู้จักประมาณพอดีตัวเอง อย่าไปทุ่มเทมากมายจนเกินไป มันจะหมดจากปากลูก ปากหลานเรา ปากลูก ปากเมียเรา ให้ทาน
ให้ทานรักษาศีลเด้อ
ศีลนั้นยังเป็นข้อห้ามที่ไม่ให้ฉิบหาย จากค่าเหล้า ค่าสุรา ค่าฝิ่น ค่ากัญชา ค่าของต้องห้ามทั้งหลาย มันก็พอกเข้าๆ คราวนี้หมดไปเท่านั้น คราวหน้าเอาอีกใหม่อยู่อย่างงั้นน่ะ ไม่หลาบ เป็นดินพอกหางหมู เออ ตีส่วง(เอว)ตัวเอง ตุมตัมๆ ไป เวลาวิ่งไปเดินไป อันนี้ไม่เข้าท่า อ้า จะพูดไปไหนก็มีแต่เรื่องของคน เรื่องของคน พูดให้มันจนตรอกเข้ามา ปะนี้เลิกซะ เลิกจากกินเหล้าซะ เลิกจากเล่นการพนันซะ เลิกกัน อ้า ละเว้นต่างๆ เหล่านั้นเลิกเสียได้ ก็เป็นเครื่องเบาของตัวเอง เบาใจตัวเอง ไม่เดือดร้อนตัวเอง อ้า ก็เป็นคนมีปัญญา
รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง
หลบหลีกเอา อย่าให้มันเป็นเจ้านายเรา เป็นข้อบังคับเรา เราเป็นขี้ข้าเป็นทาสของอย่างอื่นมีมาแล้ว ปะนี่เลิกแล้ว ไม่เป็นหนี้เป็นสิน เพราะการเล่นหวยเล่นเบอร์ เพราะการกินเหล้าเมายา กัญชา ยาเสพติดให้โทษทุกชนิด เลิกซะให้ได้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็แบ่งเอาไว้ เวลาเจ็บป่วยมา จะได้มีเงินมีทองเข้าโรงพยาบาลกับเขา หมอก็จะช่วยเหลือให้ อ้า เจ็บท้อง มันลำไส้ถ้ามันเป็นอยู่
หลวงพ่อผู้พูดอยู่นี่ก็ถูกเขาปาดไส้ ปาดไส้ไปแล้ว ก็ยังมีตรวจไปอีก ไปเจอนิ่วอยู่ในถุงน้ำดีอีก มันทำให้ปวด เขาก็ตัดเอาถุงน้ำดีออกซะ เอามาผ่าให้ดู โอ้ จริง อย่างกับพยาธิน่ะ ตั้ง ๗ ตัว ๘ ตัวอยู่ในถุงน้ำดี แออัดยัดเยียดอยู่ในนั้น มันเป็นมาได้ มันเข้าไปอยู่ได้ยังไง เออ เราก็คิดไม่ออก อืม
ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
ไม่มีโรคเป็นลาภอย่างใหญ่โต
ไม่ต้องมาเจ็บมาปวด เพราะการผ่าตัดอะไรหรอก มันเกิดมาได้ยังไง มันไม่น่า มันๆ ไปเข้าอยู่ในถุงน้ำดีนู้นน่ะ ไปออกลูกออกเต้าหรือเปล่า ตั้ง ๗ ตัว ๘ ตัว ตัวเท่าเม็ด ใหญ่กว่าเม็ดข้าวโพด ใหญ่กว่าเม็ดมะขามนู้นล่ะ เท่าเม็ดมะขามนู้นล่ะ มันใหญ่โตขึ้นมา ที่มาโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ เขาก็ตรวจให้อยู่บ่อยๆ ตรวจเลือด ตรวจอะไรให้อยู่บ่อยๆ ก็ไม่ได้เสียเงินหรอก เพิ่นเมตตาเอาไปตรวจเอง เอาไปเอ็กซ์เรย์ดูเอง เอ็กซ์เรย์ก็ไม่ได้เสียเงินเสียทอง หรือว่าใครเป็นคนเสียให้เราก็ไม่รู้ เออ เอ็กซ์เรย์ไม่ต้องเสียเงิน ผ่าตัดท้องลำไส้ก็เสียเงิน ผ่าถุงน้ำดีก็ต้องเสียเงิน ถ้าเขาไม่มีตังค์ เราก็เป็นหนี้เป็นสินของโรงพยาบาลไม่น้อยเลย เพราะฉะนั้น จึงอุตสาหะพยายามมาช่วยโรงพยาบาล ทุกครั้งๆ มา
ดังที่แสดงมาเป็น ปกิณณกนัย เพื่อต้องการให้ท่านทั้งหลาย รู้จักความประสงค์ของตนเอง จะได้เลิก ได้ละ จากการ อ้า กินเหล้าเมายา เล่นการพนอกพนัน ก็งดเว้นไป ให้มันเบามันบางไป เก็บเงินเก็บทองไว้ส่งเสียลูกหลาน เข้าเล่าเรียนศึกษา ให้มันจบ ให้มันได้การได้งาน ให้ลูกให้หลาน
ดังที่แสดงมาเป็น ปกิณณกนัย เพื่อต้องการ ต้องการอยากให้เข้าอกเข้าใจจะได้ งด เว้น เลิก ละ สิ่งที่เป็นอบายมุขทั้งหลายทั้งปวงซะ จะได้สบายใจ ไม่เสียเงินไปเพราะการพนัน ไม่เสียเงินไปเพราะ เออ เหล้าสุราเมรัย เราก็เลิกได้ทุกอย่าง ก็สบาย ไปไหนไม่ต้องเซซ้ายเซขวา ไปอย่างสบาย ดังที่แสดงมาก็ยุติด้วยเวลา เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
(สาธุ สาธุ สาธุ)
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
การงาน ๑ วิชา ๑ ธรรม ๑ ศีล ๑ ชีวิตอันอุดม ๑
พรหมวิหาร ๔ (ธรรมเครื่องอยู่อย่างประเสริฐ)
เมตตา(ปรารถนาดี ให้มีสุข) กรุณา(สงสาร ให้พ้นทุกข์)
มุทิตา(ยินดี เมื่อผู้อื่นมีสุข) อุเบกขา(วางใจ เป็นกลาง)
สัมปันโน
ทรงถึงพร้อมแล้วซึ่ง
อิติปิ โส ภะคะวา ฯ
พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้นแล
ทานัง เทติ
การให้ทาน
ปรายนา [ปะ-รา-ยะ-นา] เบื้องหน้า
(บางแห่งใช้หมายถึง พ่ายแพ้ที่สุด)
สิกขาบท ๕
ปาณาติปาตา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการฆ่า เบียดเบียนสัตว์อื่น
อะทินนาทานา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการถือเอาของที่เขามิได้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย
กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการประพฤติผิดในกาม ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น
มุสาวาทา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากของเมา คือ สุราอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
อบายมุข
ช่องทางของความเสื่อมย่อยยับ
อบายมุข ๔
๑. เป็นนักเลงผู้หญิง นักเที่ยวผู้หญิง
๒. เป็นนักเลงสุรา นักดื่ม
๓. เป็นนักการพนัน
๔. คบคนชั่ว
อบายมุข ๖
๑. ติดสุราและของมึนเมา
๒. ชอบเที่ยวกลางคืน
๓. ชอบเที่ยวดูการละเล่น
๔. ติดการพนัน
๕. คบคนชั่ว
๖. เกียจคร้านการงาน
เวนิสวาณิช(The Merchant of Venice)
ของ วิลเลียม เชกสเปียร์(William Shakespeare)
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖
ทรงพระราชนิพนธ์แปลเป็น กลอน ๘ บทละคร พ.ศ. ๒๔๕๙
The quality of mercy is not strained.
อันว่าความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่
It droppeth as the gentle rain from heaven
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ
Upon the place beneath. It is twice blest:
จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน เป็นสิ่งดีสองชั้น พลันปลื้มใจ
It blesseth him that gives and him that takes.
แห่งผู้ให้และผู้รับสมถวิล
‘Tis mightiest in the mightiest; it becomes
The thronèd monarch better than his crown.
His scepter shows the force of temporal power,
เป็นกำลังเลิศพลังอื่นทั้งสิ้น
The attribute to awe and majesty
เจ้าแผ่นดินผู้ทรงพระกรุณา
๕๔