หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
วันอังคารที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.๓๐ น.
ณ ตึกไทยประกันชีวิต จำกัด
สำนักงานใหญ่
เทศนา หมายถึงหมายความว่า บอกให้ เทศนา บุญสำเร็จด้วยการฟังเทศน์ ฟังธรรม
เทสนามัย
รับฟังเทศน์ ฟังธรรม ข้อไหนที่ท่านพูดไปแล้ว ก็กำหนดจดจำนำไปประพฤติปฏิบัติ ให้มันมีในตัวเอง อย่าฝ่าฝืน นอกลู่นอกทางออกไป ถ้าผิดศีล ผิดธรรมแล้วก็มีปัญหาทุกแห่งไป ไม่ใช่เฉพาะตัวของเรา สังคมมนุษย์อยู่ด้วยศีล อยู่ด้วยธรรมอยู่ด้วยข้อวัตรปฏิบัติ มันจึงเป็นมนุษย์ที่ดี อยู่ในขอบข่ายของศีลธรรม คำสั่งคำสอนของพระบรมครู ครูบาอาจารย์ เพิ่นเทศน์ว่ายังไง เราจะประพฤติปฏิบัติได้แค่ไหน ก็กำหนดจดจำข้อไหนขาดตกบกพร่อง ก็ซ่อม ซ่อมไว้ โอ้ เราเผลอไป ตอนนี้เราเผลอไปแล้ว เราพลาดไปจากคำสอนแล้ว ถ้าพลาดจากคำสอนเรียกว่าผิดทาง ผิดทางเจริญทำความเสื่อมมาใส่ตัวเอง ไม่ว่าที่ไหนๆ สังคมน้อยๆ สังคมใหญ่ๆ ก็ตาม ถ้านอกลู่นอกทางออกไปจากศีลธรรม กำหนดกฎหมายบ้านเมือง ก็มีโทษทั้งนั้น มีโทษด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเราทำแล้วไม่เป็นไร ไม่มีใครเห็นเราหรอก อ๋อมันไม่ใช่เห็น แต่ตัวเองน่ะรู้ รู้ว่าเราฝ่าฝืน ฝ่าฝืนจากศีลธรรมแล้ว เรียกว่าผิด ผิดหนทางแล้ว นอกลู่นอกทางแล้ว นำมาซึ่งความเสื่อมมาหาตัวเอง เสื่อมมันเป็นยังไงความเสื่อม ขาดความเคารพ นับถือ ไว้วางใจ ของเพื่อนมนุษย์ในโลก ไม่ว่าชาติไหน ภาษาไหน ก็ต้องอยู่ในขอบข่ายของศีลธรรม กฎหมายของบ้านเมืองทั้งนั้น เพิ่นมีเอาไว้ มีกฎหมายเอาไว้มี มีศีลธรรมเอาไว้สั่งสอน ถ้าเราฝ่าฝืนก็เรียกว่าเป็นคนล่วงเกินพระธรรมวินัย ล่วงเกินกฎหมายบ้านเมือง มันจะเป็นยังไงสังคมมนุษย์ ถ้าฝ่าฝืนกันทุกคนๆ มันจะเป็นยังไง หึหึ จะเอากันอยู่ไหม แม้แต่กฎหมายอยู่ในรัฐธรรมนูญก็ตาม อ้า นอกรัฐธรรมนูญก็ตาม กฎหมายที่ตั้งกันขึ้นไว้ เพื่อจะปฏิบัติให้ครบถ้วนทุกข้อๆ แล้วก็สงบ ถ้าอยู่ในใต้กฎหมายของบ้านเมือง ศีลธรรมของศาสนา สงบอยู่ด้วยกันด้วยความสงบ
นัตถิ สันติปะรัง สุขัง
ความสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี ความสงบนั้นเป็นความสุขอย่างยอดเยี่ยม ในประเทศไหน เมืองไหน ชาติไหน ภาษาไหน ก็ตามถ้าอยู่ในขอบข่ายของศีลธรรม และกฎหมายของบ้านเมืองแล้ว บ้านนั้น เมืองนั้น ก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีความสงบ ไม่มีเรื่องราวที่หนักอกหนักใจอะไรเกิดขึ้น นี่มันดีอย่างนี้ อำนาจศีลธรรม
ถ้าเราไม่เชื่อ ไม่เชื่อก็เป็นคนนอกศาสนาไป หึ นอกกฎหมายบ้านเมืองไป ฝ่าฝืน ฝ่าฝืนในกฎหมายบ้านเมืองก็ดี ในศีลธรรมของศาสนาก็ดี ก็ทำความเดือดร้อนให้แก่ผู้นั้นอย่างนี้ ไม่ ผู้อื่นไม่เดือดร้อน เราเดือดร้อนคนเดียว เราเป็นโจรขึ้นมา ก็ทำความวุ่นวายให้แก่สังคมใช่หรือเปล่า ถ้าเป็นโจรเป็นผู้ร้าย ขึ้นมา มีงัดมีแงะ มี เออ ฉกชิงวิ่งราวซึ่งกันและกัน แล้วจะวุ่นวายขนาดไหนบ้านเมือง ถ้าอยู่ในขอบข่ายของศีลธรรมแล้วสงบไหม สงบ ไม่มีเรื่องราว อ้า อะไรเกิดขึ้น เอ้ เรานิยม นิยมลัทธิของประเทศอินเดีย บางแห่งเขา ถ้าเกิดโจรผู้ร้ายเกิดขึ้น มาฉกชิงวิ่งราวหรือมาปล้นมาอะไร เจ้าของบ้านออกมาประกาศเลย โจโร โจโร ดังขึ้น ดังทั่วบ้านทั่วเมือง ช่วยด้วยๆ โจโร โจโร มาวุ่นวาย พวกชาวบ้าน ทั้งหลาย ก็เฮโลกันออกมา ได้มีด ได้ขวาน ได้หอก ได้ดาบ ก็ออกมากันเป็นแถวเลย ไหน มันอยู่ไหน ไหน มันอยู่ไหน โจโรอยู่ก็ตายสิ ไอ้คนที่เป็นโจรเข็ดหลาบเลย จับได้แล้ว ไม่ได้ธรรมดานะ ลง... ลงทัณฑ์ ลงโทษ รุมสกรัม ตีเอาจนลง หัวร้างข้างแตก เอาจนเสียองคะไปพู้น(โน้น)แหละ มันริเป็นโจรมา อันนั้นก็ดีกฎ... กฎหมายแบบนั้นก็ดี อ้า นี่ประเทศอินเดียเล่าบางแห่งน่ะ ได้เห็นประเพณีของเขานะ เออ ดีเว้ย อย่างงี้ดีช่วยกัน ในหมู่บ้านนั้น ใครอยู่ที่ไหนๆ ออกมาเป็นพรวนเลย มีหอก มีดาบ มีมีด มีขวาน ก็ออกมาเลย ถือมาครบไม้ครบมือ มันอยู่ไหน ตามล่ามันไป จับได้แล้วก็ระวัง ปะเนี่ยเขาจะรุมสกรัม เขาจะรุมสกรัมโทษของคนนั้น คนประพฤติผิดศีลธรรมน่ะ เขารุมสกรัมแบบไหนก็อยู่ในยุทธวิธีของเขา เฮอะ อืม
ฟันหัวบ้าง ตีหัวบ้าง สลบไสลไปเขาก็ไม่เอา เอาขาหัก เอาแขนหักซะก่อน อยู่แน่นอนไม่ตาย ก็ส่งเข้าโรงพยาบาลไป ไปให้หมอเยียวยารักษา มันเหลือบ่ากว่าแรง หมอก็ไม่รับผิดชอบเหมือนกัน ปล่อยไปตามยถากรรมของเขาซะ ปล่อยให้เขาตายซะ แล้วก็ทำศพให้เอา ทำนองนี้ นี่เป็นกฎหมายหมู่ กฎหมู่กับกฎหมายอะไรดีกว่ากัน กฎหมู่น่ะดีอย่างหนึ่ง
ถ้าพร้อมเพรียงกันในหมู่ใด ความสุขย่อมมีในหมู่นั้น
ถ้าสามัคคีคลาดไปหรือว่าขาดไปจากหมู่ใดแฮ
ภัยย่อมเข้าฟาดฟันหมู่นั้นฉิบหาย
แอ้ เอาตัวอย่างมาเป็นข้อปฏิบัติก็ได้ ในบางประเทศ เขาเอากันอย่างนั้นทีเดียว ตั้งกฎหมาย ขึ้นกฎหมู่ไว้ ให้พร้อมเพรียงกันทุกบ้านทุกช่อง มาอยู่ร่วมกัน ทำมาหากินในถิ่นเดียวกัน ต้องช่วยเหลือดูแลกัน เอาใจใส่เป็นพิเศษน่ะ ไม่ได้หลบหนี ถ้ามีเหตุอย่างนั้น หลบหนีไม่สู้ อย่างนั้นก็เรียกว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ศักดิ์สิทธิ์เลย กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ กฎหมู่ก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน
ถ้าพร้อมเพรียงกันในหมู่ใด ความสุขย่อมมีในหมู่นั้น
ถ้าสามัคคีคลาดไปจากหมู่ใดแฮ
ภัยย่อมเข้าฟาดฟันหมู่นั้นฉิบหาย
เออ อันนี้เอาเรื่องเอา อันนี้มาพูด ให้เข้าใจเอาไว้ กฎหมู่ดีเหมือนกัน เป็นการรักษากฎหมาย กฎหมายบัญญัติไว้ยังไง ตั้งไว้ยังไง ก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ศีลธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้ว ถ้าฝ่าฝืน ก็ในหมู่พระเจ้าพระสงฆ์ก็เหมือนกัน ถ้าองค์ใดฝ่าฝืนศีลธรรม ในพระปาฏิโมกข์ก็ดี นอกพระปาฏิโมกข์ ก็ดี ถ้าเห็นไม่ดี ไม่งามตรงไหน เขาก็ลงโทษทัณฑ์ ทัณฑกรรม(ลงโทษ)ให้เต็มที่ น่าเข็ดหลาบ ไม่... ไม่ฝ่าฝืนอีกต่อไป นั่นก็เป็นความศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน อันนี้พูดเรื่องศีล เรื่องธรรม ที่เราสมาทานไปแล้วเมื่อตะกี้นี้ เราจะไม่ฆ่าสัตว์ เราจะไม่ลักทรัพย์ เราจะไม่ประพฤติผิดในกาม และจะไม่กล่าวโป้ปดมดเท็จ ความไม่จริงหลอกลวงผู้อื่น ให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน อันนี้ก็นอกศีลธรรมไป นอกกฎหมายไป ก็อาชญากรรมก็อาจถึงผู้นั้นเหมือนกัน อ้า อันนี้ก็พร้อมเพรียงกันรักษา พร้อมเพรียงกันปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ก็ปกป้องคุ้มครองประเทศชาติบ้านเมืองไว้ได้ อยู่ในความสงบเรียบร้อยดี อันนี้เราอยู่ร่วมกันทั้งประเทศ ไม่ใช่ตั้งแต่เฉพาะในกรุงเทพฯ ในที่อื่นๆ ก็เหมือนกัน ทุกจังหวัด ต้องรักษาอย่างเคร่งครัด ความพร้อมเพรียงของหมู่ ให้เกิดสุข
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี สะมัคคานัง ตะโป สุโข
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา
แน่ะ ความเจริญจะเกิดมีขึ้น
วุฑฒิสาธิกา
ก็เพราะความพร้อมเพรียงของหมู่ใหญ่ คนหมู่ใหญ่ใช้พละกำลังร่วมกันจริงจัง ไม่ใช่จะเอาตัวรอดเป็นยอดดี ไม่ใช่อย่างงั้น ตายเป็นตาย ตาถึงคราวเพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อน เอาใจใส่กันเป็นพิเศษ ดูแลกันเป็นพิเศษ เรียกว่ารับผิดชอบไปหมดทุกบ้าน ทุกเมือง ทุกครอบครัว จะเป็นชาติไหน ภาษาไหนก็ตาม มาในเมืองไทยเรา ถ้าหากมาฝ่าฝืนกฎหมายเรามาเฉยๆ ได้อยู่ ได้ยังไง เราจะต้องพร้อมเพรียงกัน ตรึงขึ้นมา ตึงเครียด ถือด้วยความตึงเครียด ซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน ช่วยเหลือกัน ไม่ทอดทิ้ง ไม่นิ่งดูดาย เอาใจใส่ช่วยกันอย่างนี้ เรียกว่า
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี สะมัคคานัง ตะโป สุโข
ความพร้อมเพรียงของหมู่ ยังความสุขให้เกิดขึ้น
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง
แม้งานใหญ่ๆ ถ้าเราไม่พร้อมเพรียงกัน จะสำเร็จไหม สมัยโบราณเพิ่นก็เอาอันนี้ขึ้นมาใช้กัน เพิ่นจะมาตั้งทางรถไฟ จากกรุงเทพฯ เป็นต้นและก็แตกเป็นคนละสายๆ สายเหนือถึงเชียงใหม่ ลำบากขนาดไหน เจาะภูเขาทั้งลูก เขาเรียกว่าถ้ำขุนตาล
จนทะลุถึงเชียงใหม่ แล้วสายตะวันออก ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการในดงพญาเย็น ดงพญาไฟสมัยก่อนไปแตะอะไรก็ไม่ได้
เพิ่นวางแผน รัชกาลที่ ๕ เพิ่นว่าให้เอารูปของเรา เอารูปภาพของเรา ไปติดไปทุกหนทุกแห่ง นี่เจ้าของแผ่นดิน นี่เจ้าของแผ่นดิน ผู้นี้เป็นผู้รักษาดูแล ใครฝ่าฝืน ไม่ว่าเทวดาหรือมนุษย์ ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง มีโทษถึงจำคุกติดตะราง ถ้าหากเป็นดวงวิญญาณทั้งหลาย ก็ยมทูตจะพิจารณาเอง ว่าใครฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง เออ ธรรมทูตหรือว่าเทวทูต จะดูแลเอง ดูแลความสงบเอง เทวดาฟ้าดินเป็นพยาน ดังนี้เป็นตัวอย่าง
สายใต้ โอ้โฮ ก็ไม่ใช่ธรรมดา สายตะวันออกเฉียงเหนือ ทางแยกไปอุบลฯ ทางแยกไป อ้า ร้อยเอ็ด (มหา)สารคามไปทางโน้น อันทุกสายหนทางก็พร้อมเพรียงกันทำทั้งนั้นแหละ สายใต้ออกจากกรุงเทพฯ ไปผ่านตรงไหนบ้างๆ มันยากลำบากขนาดไหน ท่านก็หนักเอาเบาสู้ ต่อสู้กันมา ไม่ได้ทำทางรถไฟเท่านั้น ต้องมี ทางเสร็จแล้วก็มีไม้หมอนไม้แหมน โอ้ย มากมาย แล้วก็นำ สั่งรางรถไฟมาจากต่างประเทศ เข้ามาวางราง เอ้ จึงค่อยสั่งตู้รถไฟเข้ามาวิ่งได้ เออ สายใต้ก็ติดจนถึงโน้นล่ะ ถึงปาดังเบซาร์ เออ ของเมืองไทย
นี่ ท่านทำมาแล้วสำเร็จ บรรพบุรุษของเรา บูรพมหากษัตริย์ ของเราตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ มาเรื่อยๆ ไม่ได้ทอดทิ้ง ไม่นิ่งดูดาย ไม่ใจจืด ใจดำ แบบนี้พวกเราได้อยู่เย็นเป็นเป็นสุข อยู่ทุกวันนี้ การคมนาคมก็สะดวกทุกอย่าง ถนนหนทางสะดวกทุกอย่าง ขนสิ่ง ขนของส่งกันไป ภาคไหนเดือดร้อนยังไงๆ ก็นำสิ่งของใส่ตู้รถไฟ ตู้รถยนต์ รถทัวร์ขึ้นไปแจก ไปดู ไปแล ดังนี้ สะดวกไหม สะดวกมาก ถ้าหากไปทำลายทรัพยากรของแผ่นดินเหล่านี้ ขึ้นเมื่อใด ความเจริญก็ชะงัก ไม่ๆ ก้าวหน้า ดังนี้ เป็นตัวอย่าง
ความพร้อมเพรียงในหมู่ใด ความสุขย่อมมีในหมู่นั้น
ถ้าความพร้อมเพรียงคลาดไปหรือขาดไปจากหมู่ใดแฮ
ภัยย่อมเข้าฟาดฟันหมู่นั้นฉิบหาย
อันนี้เป็นตัวอย่าง ปูภาคปฏิบัติภายในซะก่อน และภาคปฏิบัติภายในหัวใจ แต่ละคนๆ ก็พัฒนาเอาเอง พัฒนาตนเอง ศีล ๕ ข้อของเราที่สมาทานไปแล้ว ตั้งมั่นหรือเปล่า
พระไตรสรณคมน์
ของเราที่ว่าจะยึดเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะที่พึ่งทางใจจริงจัง มันขาดหรือเปล่า ขาดตกบกพร่อง ตรงไหนก็มีการซ่อมได้ สมาทานศีลได้ ตั้งมั่นได้ เออ เรื่อยไปศีลธรรมก็ให้มันดี ด้านกฎหมายบ้านเมือง มันก็สงบไปเอง เพราะคนอยู่ในขอบข่ายของศีลและธรรมแล้ว ย่อมอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี สะมัคคานัง ตะโป สุโข
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา
นี่ เพิ่นว่าไว้ ถ้าความพร้อมเพรียงของคนหมู่ใหญ่ ยังความเจริญให้สำเร็จทุกอย่าง ความเพียรของหมู่ ถ้าแตกแยกกันแล้ว การงานน้อยๆ ก็ไม่สำเร็จ ไม่สำเร็จลุล่วงหรอก เพราะฉะนั้น เขาจึงปั้นเอา เออ ภาษิตอันนี้
ไปรวมหัวกันเดินขบวนพาให้มีปัญหาอยู่ในสังคมทุกวันนี้ ถ้าให้มีปัญหาเพราะว่ารวมหัวกันในทางที่ผิด ไม่ได้รวมหัวในทางที่ถูก นำมาซึ่งความสุขความเจริญไม่เอา จะเอาทางแตกทางแยกกันดีกว่า
ยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก
แยกให้ออก ตอกลิ่มเข้าไป
มันจะสน(เหนียว)ขนาดไหนไม่เอา ตอกลิ่มเข้าไป มันก็แยกออกเป็นชิ้นๆ เอามาทำฟืน เอามาทำประโยชน์อย่างอื่นได้ มันจะสน(เหนียว)ขนาดไหนไม้ ถ้ามีความพยายามในสิ่งใด สิ่งนั้น
จะหนักอะไรก็ เออ สำเร็จทุกอย่าง
เพิ่นเปรียบไว้เหมือนดัง ภูเขาสูงแสนสูง สูงมากๆ
เอเวอเรสต์(Mount Everest ยอดเขาเอเวอเรสต์)
เอเวอเรสต์(Mount Everest ยอดเขาเอเวอเรสต์)
หรือว่าภูเขาหิมาลัย(Himalaya Range เทือกเขาหิมาลัย)
สูงขนาดไหนก็ตาม แต่ความพยายามของคน พยายามจะปีนป่ายขึ้นไปยืนอยู่บนยอดได้ ก็เพราะความขยัน ความตั้งอก ตั้งใจจริง ในที่สุดก็ขึ้นไปยืนได้อยู่บนยอดสูงแสนสูง ยากขนาดไหนลำบากขนาดไหนขึ้นไป อ้า เป็นที่ท่องเที่ยวของคนได้สบาย คนทั้งโลกรุมกันขึ้นไป
เอเวอเรสต์(Mount Everest ยอดเขาเอเวอเรสต์)
หรือไปหิมาลัย(Himalaya Range เทือกเขาหิมาลัย)
ขึ้นไปถึงบนยอดภูเขา ไปสร้างเต็นท์ ตั้งเต็นท์ กางเต้นท์ อยู่บนยอดภูเขาอย่างสบาย ใครๆ ก็มีสิทธิเสรีขึ้นไปเที่ยวได้ มียานพาหนะพาไป ทางลัดก็มี ไปเครื่องบินก็ได้ ไปรถไฟก็ได้ ไปรถยนต์ก็ได้ ไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ยังความเจริญให้สำเร็จใช่ไหม นั่น เพราะว่าความพยายามมีในหมู่ใด ความสุขย่อมมีในหมู่นั้น
ความสามัคคีมีในหมู่ใด ความสุขย่อมมีในหมู่นั้น
สามัคคีคลาดไปจากหมู่ใดแฮ
ภัยย่อมเข้าฟาดฟันหมู่นั้นฉิบหาย
เออ หึ ไม่ต้องว่าใครๆ เอา ว่าเมืองไทยเรานี่แหละ เมืองไทยเราเนี่ย ถ้าหากมีความพร้อมเพรียงสามัคคีกันทุกหมู่เหล่า แล้วก็รักษาบ้านเมืองไว้ได้ อย่างมั่นคงถาวร ไม่ต้องห่วง เออ ขอให้อยู่ในขอบข่ายของศีลธรรมจริงจังเถอะ นี่ขอบข่ายของศีลธรรม เรายึดธรรมมาสามัคคี น้อมเข้ามาหาตัวเอง ที่มีสุขภาพแข็งแรงอยู่เดี๋ยวนี้ ก็เพราะธาตุทั้ง ๔ มันสามัคคีกัน ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ในร่างกายของเรา ทำงานตามปกติทุกอย่าง สูบฉีดโลหิตไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้ทุกอวัยวะทุกส่วน นั่น เห็นไหม
ถ้าไม่ดีตรงไหน ขาดตกบกพร่องตรงไหน ก็วิ่งเข้าไปหาหมอ หมอตรวจค้นเห็นว่า อันนั้นมันไม่คล่องตัว โลหิตไม่คล่องตัว ลมไม่คล่องตัว เออ เส้นประสาทหรือว่าลำไส้ไม่ทำงาน อะไรต่ออะไร จัดการแก้ไขให้ก็หายปกติ กลับไปบ้านได้ อืม
ไม่ถึงคราวตายก็ไม่วายชีวาชีวาตม์
ใครอาฆาตเข่นฆ่าไม่อาสัญ
ถ้าถึงคราวตายก็ต้องวายชีวาวัน
ไม้จิ้มฟันจิ้มเหงือกก็เสือกตาย
เฮอะๆ อ้า อันนี้ภาษิตโบราณเพิ่นบอกไว้กัน อ้า อันนี้พวกเราอยู่เป็นหมู่เป็นพวกกัน ทำงานในกลุ่มเดียวกัน ในบริษัทเดียวกัน เราจะมีความแตกแยกกันอย่างงั้นจะดีไหม ไม่ดีเลย ต้องกลมเกลียวสามัคคีดีต่อกัน ทุกฝ่าย หน้าที่ไหนๆ มีหน้าที่อะไร ประชาสัมพันธ์หรือประชาอะไร เป็นหน้าที่ของแต่ละคน ที่จะต้องตั้งใจทำจริงกับการงาน ที่เรา ที่เรารับผิดชอบแล้วทุกอย่าง เออ อย่าไปฝ่าฝืน นอกจากหน้าที่การงานที่เรารับผิดชอบ ถ้าเรารับผิดชอบในสิ่งใด ต้องรับประกันได้ว่า สิ่งนี้เรารับผิดชอบแล้ว ไม่ต้องฝ่าฝืน ถ้าฝ่าฝืนจะมีปัญหาเกิดขึ้น เออ มันมีหลายอย่างทำงานร่วมกัน มันมีคอรัปฉ้อ คอรัปชั่นมากมาย เออ อ้า ไปหนักแน่นในทางคอรัปชั่น ลักฉ้อ ก็ทำปัญหาให้ยุ่งยากเกิดขึ้น คุกตะรางไม่มีที่จะใส่ ถ้าเขาสืบทราบได้ เขาก็ต้องจับไปฝาก ไปขังไว้ ไปกักไว้ ในคุก ในตะรางที่รับผิดชอบ หรือเอาเข้าไปดัดสันดานซะก่อน ดัดสันดานแก้ความขี้โกงซะก่อน อืม เป็นมาอย่างงั้นตั้งแต่ตั้งเมืองไทยมา ถ้าเราตั้งใจอยู่ในขอบข่ายของศีลและธรรม กฎหมายของบ้านเมือง เรียกว่า ไม่มีปัญหา โนพลอมแพลม(no problem ไม่มีปัญหา)ภาษาหนึ่งเขาเรียกว่า โนพลอมแพลม(no problem ไม่มีปัญหา) สบายมาก ไม่มีปัญหา สบายมาก อืม
ผู้แทนราษฎรคนหนึ่งเอามาใช้อยู่เรื่อยๆ ผู้แทนราษฎรคนนั้นเขาว่า โนพลอมแพลม(no problem ไม่มีปัญหา)อยู่เรื่อย ชาติชาย ชุณหะวัณ เพิ่นเอา โนพลอมแพลม(no problem ไม่มีปัญหา)มาใช้อยู่เรื่อยๆ แต่ว่าภาษาบ้านของพื้นเมืองเรา แปลว่าอะไร โนพลอมแพลม(no problem ไม่มีปัญหา) แปลว่า ไม่มีปัญหา สบายมาก ไม่มีปัญหา สบายมากเรื่องนี้น่ะ เรียกว่า สบายมาก โนพลอมแพลม(no problem ไม่มีปัญหา) พวกเราก็ทำตัวให้เป็น โนพลอมแพลม(no problem ไม่มีปัญหา)อย่างนั้น เหมือนกัน ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นในสังคมเรา สังคมเราก็ในบริษัทของเราทั้งหมดเนี่ยแหละ ตั้งอยู่ในขอบข่ายของระเบียบวินัย จรรยาบรรณใน อ้า ที่ทำงานของเราก็สงบ สบาย สะดวก ทุกอย่าง เจ้านายรับผิดชอบเราอยู่ ดูแลเราอยู่ พึ่งพาเจ้านาย ไม่ได้พึ่งเฉพาะจะเอาเงินอย่างเดียว พึ่งพาด้านข้อวัตรปฏิบัติด้วย ถ้าปฏิบัตินอกลู่นอกทาง เจ้านายก็ต้องปรามไว้ด้วยนะ ปรามๆๆ ไว้ ห้ามไว้ อย่าเอาทำอย่างงั้นอีกต่อไป ถ้าทำอย่างงั้นก็สร้างปัญหาให้เกิดขึ้น ทำให้สังคมวุ่นวาย เดือดร้อน อืม เนี่ย ผู้เป็นเจ้าเป็นนายก็ต้อง อ้า กำชับบัญชา ดูแลอย่างถี่ถ้วน อย่าไปปล่อยปละละเลย ลูกน้องทำผิดอยู่ตรงไหนๆ เขามาบอก ก็เอามาสอบสวน เขามาฟ้องแล้วก็เอามาสอบสวนดู ว่าผิดจริงหรือเปล่า เออ คนนั้นรับแล้ว ผมผาเผลอไปจริงๆ อ่ะ ทีหน้าทีหลัง อย่าทำอีก อย่างนี้อย่าทำอีก มันผิดกฎหมาย ครั้งที่ ๑ นี้เตือนแล้ว ครั้งที่ ๒ ถ้าเตือนอีก ยังไม่อยู่อีก ต่อไปก็ลงโทษทัณฑ์ เออ กบิลเมือง เขามีกฎหมายยังไง ทำยังไง คนมีความผิดกฎหมายบ้านเมืองอย่างสาหัสสากรรจ์ แล้วเอาไว้ก็ทำความหนักใจให้แก่สังคมอีก อยู่อย่างงั้นแหละ เขาจึงมาประหารชีวิต เออ ประหารชีวิตซะ อ่ะ แน่ะ ถ้าฝ่าฝืนหลายครั้งหลายหนแล้ว เอาไว้ก็หนักอกหนักใจเฉยๆ ก็เลยก็ตัดสินใจประหารชีวิตซะ ให้รู้แล้วรู้รอดซะ เออ เหมือนไอ้... เขาตัดสินไปแขวนคอประจาน ให้โลกรู้ร่ำลือทั่วโลก ทำพิธีแขวนคอให้ประชาชนทั้งโลกได้รู้ได้เห็น ออกข่าวโทรทัศน์ ให้โลกทั้งโลกได้รู้ ว่าเป็นคนดื้อขนาดไหน ทำให้สังคมหนักอกหนักใจขนาดใด ถ้าหนักใจของสังคมมากเกินไป เขาก็ฟ้องร้องถึงหน่วยเหนือขึ้นไป หน่วยเหนือจะจัดการยังไงอีก ก็ตายด้วยประชาทัณฑ์ นั่น เห็นไหม
เพราะฉะนั้น พวกเราอยู่ด้วยกัน ด้วยความสงบสุขไม่มีเดือดร้อนอะไรเลย ทำงานซื่อสัตย์สุจริต ทุกอย่างในหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ฝ่าฝืนกฎกติกา ในหน้าที่รับผิดชอบทุกอย่าง เรียบร้อยหมดทุกอย่าง แล้วก็ โนพลอมแพลม(no problem ไม่มีปัญหา)อีกแล้วปะเนี่ยก็ได้ โนพลอมแพลม(no problem ไม่มีปัญหา) ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาเลย สบาย ในบริษัทของเรา ในวงราชการของเรา ไม่มีสร้างปัญหายุ่งยากให้แก่สังคมเลยดังนี้ อันนี้พูดภายใน พูดภายในนี้ให้รู้กันเฉพาะภายใน แต่ว่าภายนอกออกไป มีเยอะ เรื่องศีล เรื่องธรรม เรื่องการประพฤตินอกลู่นอกทาง จากศีลธรรมไป มันก็มีอยู่อีก เออ อันนั้นเป็นหลายชั้น หลายตอน กฎหมายบ้านเมืองก็มี กฎหมายทางด้านศีลธรรม ศาสนา เพิ่นก็ว่าไว้แล้ว อย่าฆ่าสัตว์ อย่าลักทรัพย์ อย่าประพฤติผิดในกาม อย่ากล่าวมุสาวาท โป้ปดมดเท็จ ความไม่จริง หลอกลวงอำพราง ยุยงส่งเสริมในทางเสียหายเหล่านั้น ท่านก็ว่าไว้แล้ว
หากสิ่งเหล่านั้น มันแปลกปลอมเข้ามา หยังหรอก เราก็อย่าไปถือสาหาความ ให้อภัยแก่กันและกันไปเรื่อยๆ จะอยู่ด้วยความ ด้วยกันอย่างสันติสุขในงานเราใหญ่ๆ ที่รับผิดชอบ ก็สงบ ไม่มีปัญหาก็ โนพลอมแพลม(no problem ไม่มีปัญหา)เหมือนกันนะ ไม่มีปัญหา ในวงงานของเรา วงราชการของเรา ไม่มีปัญหา ทุกคน ทุกฝ่าย เอาใจใส่ ประพฤติตามหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ของตัวให้บริสุทธิ์ สะอาด ก็นำความสุขมาให้
นัตถิ สันติปะรัง สุขัง
เพิ่นรับไว้แล้ว ความสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี
นัตถิ
แปลว่า ไม่มี
สันติ
ความสงบสุข นอกจากความสงบสุขแล้ว อย่างอื่นไม่มี ถ้ามีความสงบสุข เอาใจใส่ด้วยกันทุกฝ่าย เราก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขเห็นหน้า เห็นตากัน ก็ไว้เนื้อเชื่อใจกัน อยู่ที่ไหนๆ ก็มาทำงานร่วมกันได้ ถ้าเป็นคนซื่อ เป็นคนสัตย์ เป็นคนสุจริต บริสุทธิ์ ยุติธรรมจริงๆ แล้วก็อยู่ร่วมกันได้
ถ้านอกลู่นอกทางไม่บริสุทธิ์ ผิดศีล ผิดธรรมไป เขาก็มักกำจัด ระบายกันออกไป คนจะชนิดเช่นนั้น เอามาไว้ในสังคมเราก็ทำให้สังคมเราเสื่อม อืม ดังนี้เป็นตัวอย่าง เออ
ดังที่แสดงมาเป็น ปกิณณกนัย เพื่อต้องการอยากให้ท่านทั้งหลาย นำไปใคร่ครวญพินิจพิจารณาด้วยปัญญาอันชาญฉลาดของตนๆ เองเถิด อัปปมาทธรรม ไม่มีความประมาท ตั้งอกตั้งใจซื่อสัตย์สุจริตต่อกันและกันทุกฝ่าย ต่อแต่นั้นก็จะได้ประสบพบเห็นแต่ความสุขความเจริญทั้งทางคดีโลกและทางคดีธรรมทุกประการ รับประทานวิสัชนามา ก็ยุติด้วยเวลา เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
หมดลมแล้ว หมดลมแล้ว ใช้ลมมากๆ นานแล้ว อืม
ข้อผิดพลาดตรงไหน ก็ประทานอภัยด้วย เด้อ ขอประทานอภัยด้วย
สรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ถือเอาพระพุทธเจ้า เป็นสรณะ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ถือเอาพระธรรม เป็นสรณะ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ถือเอาพระสงฆ์ เป็นสรณะ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่ ๒ ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่ ๒ ข้าพเจ้าถือเอาพระธรรมเป็นสรณะ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่ ๒ ข้าพเจ้าถือเอาพระสงฆ์เป็นสรณะ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่ ๓ ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่ ๓ ข้าพเจ้าถือเอาพระธรรมเป็นสรณะ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
แม้ครั้งที่ ๓ ข้าพเจ้าถือเอาพระสงฆ์เป็นสรณะ
สิกขาบท ๕
ปาณาติปาตา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการฆ่า เบียดเบียนสัตว์อื่น
อะทินนาทานา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการถือเอาของที่เขามิได้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย
กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการประพฤติผิดในกาม ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น
มุสาวาทา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากของเมา คือ สุราอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
ความพร้อมเพรียงของหมู่ ให้เกิดสุข
สะมัคคานัง ตะโป สุโข
ความเพียรของผู้พร้อมเพรียงกัน ให้เกิดสุข
(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ ธรรมบท
อุทาน อิติวุตตกะ สุตตนิบาต
คาถาธรรมบท พุทธวรรคที่ ๑๔ ข้อ ๒๔)
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา
ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช (สา) วัดราชประดิษฐ์
ทรงผูกขึ้นแปลได้ความว่า
“ความพร้อมเพรียงของชนผู้เป็นหมู่ยังความเจริญให้สำเร็จ”
สัญลักษณ์ของความสามัคคีนั้นเห็นได้จากการ
ประดิษฐานตราแผ่นดินที่มีคาถาภาษิตว่า
“สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฒิสาธิกา”
ซึ่งแปลว่า ความพร้อมเพรียงของคนทั้งปวง
รวมกันเป็นหมวดหมู่ด้วยความสามัคคี
เป็นเครื่องทำความเจริญให้สำเร็จ
อยู่ที่เสาทั้ง ๔ มุมของพระบรมรูปทรงม้า
ในขณะที่ชาติไทยกำลังถูกล่าเป็นเมืองขึ้น
นัตถิ สันติปะรัง สุขัง
สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี
บุญกิริยาวัตถุ
สิ่งที่เป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ ทางทำความดี
หมวด ๓ คือ
๑. ทานมัย ทำบุญด้วยการให้
๒. สีลมัย ทำบุญด้วยการรักษาศีลและประพฤติดี
๓. ภาวนามัย ทำบุญด้วยการเจริญภาวนา
หมวด ๑๐ คือ
๑. ทานมัย ทำบุญด้วยการให้
๒. สีลมัย ทำบุญด้วยการรักษาศีลและประพฤติดี
๓. ภาวนามัย ทำบุญด้วยการเจริญภาวนา
๔. อปจายนมัย ด้วยการประพฤติอ่อนน้อม
๕. เวยยาวัจจมัย ด้วยการช่วยขวนขวายรับใช้
๖. ปัตติทานมัย ด้วยการเฉลี่ยส่วนความดีให้ผู้อื่น
๗. ปัตตานุโมทนามัย ด้วยความยินดี ความดีของผู้อื่น
๘. ธัมมัสสวนมัย ด้วยการฟังธรรม
๙. ธัมมเทสนามัย ด้วยการสั่งสอนธรรม
๑๐. ทิฏฐุชุกัมม์ ด้วยการทำความเห็นให้ตรง
(อรรถกถา ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
สังคีติสูตร ว่าด้วยธรรมหมวด ๓)
๖๖