หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
วันอาทิตย์ที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๐๐ น.
ณ ห้องประชุมชั้น ๒๒
อาคารศูนย์การแพทย์วิชัยยุทธ
โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
เทศน์ให้ฟังแล้ว ตั้งแต่เบื้องต้นมา อืม ให้สมาทานศีล ๕ กัน อันนั้นล่ะ สิ่งที่ทำให้สังคมร่มเย็น เพราะธรรม ถ้ามีศีล มีธรรมกันทุกคนๆ แล้ว สังคมก็ร่มเย็น ถ้าคนหนึ่งมีศีล คนหนึ่งไม่มีศีล แม้ไปด้วยกัน ๒ คนก็ยังทะเลาะกัน เพราะไม่มีศีล โลภโมโทสัน เอาเงินเอาทองของกันและกัน แน่ะ ไม่มีศีลแล้ว แน่ะ โกหกพกลมกันและกัน แน่ะ ก็ไม่มีศีลแล้ว พูดไม่จริงในสิ่งที่ไม่มี นั่นก็โกหกกันอีกแล้ว เพราะฉะนั้น เทศน์มันก็หนี หนีไม่พ้น
เจตะนาหัง สีลัง วะทามิ
เจตะนาหัง กัมมัง สีลัง วะทามิ
มีเจตนาหลบหลีกออกจากศีลธรรม ไม่มีเจตนาที่จะรักษา และอะไรจะสงบ มันไม่สงบแล้ว เพราะเขาฝ่าฝืนคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า คำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ เจตนาเตือนตนก็ให้สมาทานศีลซะก่อน นั่น ข้อสำคัญ อยู่ที่เจตนางดเว้น จากบาปทั้ง ๕ ประการซะก่อน ใจมันจึงจะบริสุทธิ์ กายก็บริสุทธิ์ ใจก็บริสุทธิ์ กริยามารยาทใดๆ ก็บริสุทธิ์ไปด้วย เพราะเราสมาทานว่าจะไม่ล่วงเกิน จะไม่ประพฤตินอกลู่นอกทางออกไป นั่นแน่ะ เรื่องศีล ข้อต้นนั่นแหละที่ทำให้โลกอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อยู่ร่วมกันอย่างพี่ อย่างน้อง อย่างญาติสายโลหิตเดียวกันจริงๆ ไม่ฝ่าฝืนจากหลักธรรมเหล่านั้น ที่ได้สมาทานตั้งมั่นมาแล้วนี่ ความประสงค์ของพระพุทธศาสนาก็ต้องการจะให้เป็นอย่างงั้น พระเจ้าพระสงฆ์ที่อยู่ในธรรมวินัย ต้องไม่ตั้งใจฝ่าฝืนธรรมวินัย ให้นอกเหนือออกไป อยู่ในขอบข่ายของศีลธรรมทั้งนั้น ไม่มีอะไรจะทำให้แตกแยกกันได้ จะทำให้เข้าใจผิดกันได้ไม่มี ไม่มีความ เข้าใจว่าเราซื่อต่อเขา เขาก็คงซื่อต่อเรา ซื่อสัตย์สุจริตอยู่ในธรรมเรา อยู่ในใจเรา ก็เป็นศีลเป็นธรรมขึ้นมาได้ ไปที่ไหนๆ ถ้าเป็นชาวพุทธ ถ้าเกิด... ไม่มีเรื่องที่จะทะเลาะเบาะแว้งกัน ให้แตกร้าวสามัคคีไม่มีเลย เจตนาอย่างงั้นไม่มีเลย เออ ที่ไหนล่ะ เรื่องละครนั่นแหละ ละคร เขาแสดงละครน่ะมันตลกปนสลับไปอย่างงั้นล่ะ ตลกกันไปให้คนเฮคนฮาไปอย่างงั้นธรรมดา แต่ที่จริงไม่มีเจตนาอย่างนั้น ผู้แสดงละครทั้งหลาย ก็ไม่มีเจตนาที่ให้แตกให้แยกกันเลย แต่ว่าเรื่องราวที่แสดงมันเป็นเรื่องตลก ตลกคะนองให้คนทั้งหลายหัวเราะขบขันกันไปธรรมดา ที่จริงไม่เป็นจริงอย่างงั้นหรอก ความเป็นจริงไม่เป็นอย่างงั้น ถ้าเอาคำพูดอย่างนั้น กริยามารยาทอย่างนั้น มาใช้ในสังคมทุกแห่ง จะเป็นยังไง จะวุ่นวายไหม เข้าใจผิดกันและกัน เพ่งโทษกันและกันอยู่ ชื่อว่าไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน ก็เป็นเหตุให้แตกร้าวกัน ภายในครอบครัว ภายในหมู่บ้าน ภายในตำบล ภายในอำเภอ ภายในจังหวัด เออ จนตลอดเมืองหลวงของประเทศไทยก็เหมือนกัน ถ้าไปเข้าใจผิดกันอย่างนั้นแล้ว อะไรจะเกิดขึ้น ความแตกแยกก็เกิด
ขึ้น มุ่งร้ายหมายผลาญกัน จะหาหนทางเอาชนะให้ได้เลย เออ มันถูกต้องแล้วเหรอ วิธีชนะคนอื่นก็ไม่สู้ชนะใจตนเองหรอก ชนะคนอื่นได้ แต่ว่าชนะจิตใจของตนเองไม่ได้ ยังมีความโลภ ยังมีความโกรธ ยังมีความหลง ยังมีความอิจฉา ริษยาผู้อื่นอยู่ ชื่อว่าลุอำนาจแก่กิเลส
ก็ทำให้แตกร้าวสามัคคีกันได้ ความมั่นคงของชาติจะมีอยู่ที่ไหนปะเนี่ย ไม่มี ถ้าคนในชาติแตกแยกกันแล้ว เพราะฉะนั้น เรื่องนี้จึงเป็นของสำคัญมาก สำหรับชาวพุทธของเรา ชาวพุทธที่หวังให้กลมเกลียวกัน ไม่แตกสามัคคีกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทุกคน เห็นพูดกันไม่รู้จักภาษาก็ตาม ก็เป็นมิตรกันได้ ไม่รู้จักภาษา ก็ทำเป็นศาสตร์ภาษาใบ้เอา อันนั้นอันนี้
ทำตาใบ้เอา อย่างนี้ก็ยังเป็นมิตรกันได้ รักกันได้ สอนกันด้วยหัวใจ หัวใจที่รัก หัวใจที่เคารพ ในคุณธรรมของท่านผู้นั้น แอ้ เคยไปต่างประเทศ พูดกันไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักภาษาหรอก พูดใบ้ๆ เบ้ยๆ กันไป แต่พอเข้าใจความประสงค์ของกันแล้ว ปะเนี่ยกอดกันเป็นเกลียวไปเลย อ๋อ มันเป็นอย่างงี้นี่เองใจมนุษย์ ถ้ามองกันด้วยความเจตนาดี สายตามันเย็น มันเย็นมันฉ่ำเข้าไปในหัวใจ ถ้ามีเจตนาร้ายต่อกัน มันถมึงทึงใส่กัน ตาแข็งกร้าวใส่กัน ไม่มีความอ่อนน้อม ถ่อมตนเลยล่ะ มันจะแค่ไหนกัน ขึ้นมาในใจ แน่ะ ถ้า อยู่ที่สายตากับคำพูดคำจา ถ้าสายตาเป็นมิตรสัมพันธ์กันแล้ว ใจมันปรารถนาดีต่อกันได้ หวังดีต่อกันได้ ประพฤติอะไร ทำงานร่วมกัน ก็มีความประสงค์อันเดียวกัน อยากจะให้งานของเราสำเร็จ อ้า งานที่ร่วมไม้ร่วมมือกัน ก็ให้มันเป็นล่ำเป็นสันขึ้นมา เออ ทำให้แน่นแฟ้นขึ้นมา เอ้า ไม่แตก ไม่แยกกันแล้ว มีความกลมเกลียวสามัคคีกันดี ต่อกัน อันนี้
ขอให้ไทยสามัคคีดีต่อกัน จึงจะจรรโลงไทยให้รุ่งเรือง
มีเพลงบทนี้เราจำได้อยู่ จรรโลงประเทศชาติบ้านเมืองด้วยความจงรักภักดี ไม่มีแข่งดีแข่งเด่นกัน เอารัดเอาเปรียบกัน ไม่ให้ยุให้รำ ไม่ให้ตำให้รั่ว ไม่ยั่วให้แตก ไม่ประสงค์แยกจากกัน ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทั้งประเทศ อ้า คนไทยเราด้วยกันทั้งนั้น ถ้าเป็นชาวพุทธด้วยกันทั้งนั้น ดังที่สมาทานศีลมาแล้ว ประกาศปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะด้วย ไม่มีอะไรที่จะทำให้แตกให้แยกกันได้ มีแต่มองเห็นน้ำใจของกันและกัน มองเห็นน้ำใจ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
อะไรจะมายุให้รำ จะมาตำให้รั่ว จะมายั่วให้แตก
จะมาแยกให้ออก ตอกลิ่มเข้าไป
อ่ะเน้อ หึ จดลิ่มลงไป ตีลงไป ไม้มันจะสน(เหนียว)ขนาดไหน ก็แตกออก ๒ เสี่ยง ๓ เสี่ยง ๔ เสี่ยงได้ แต่ก่อนมันเป็นไม้ท่อนเดียวกัน มีเนื้อแน่นติดกันแน่น ใครจะมายุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก แยกให้ออกจากกันไม่ได้เป็นอันขาด ไม่มีใครจะมายุให้แตก ให้แยกกันได้ เป็นก๊ก เป็นเหล่ากันได้ นี่
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี สะมัคคานัง ตะโป สุโข
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา
มีในบาลี ท่านว่าอย่างงั้น แต่เราไม่เข้าใจความหมายหรอก
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
ความพร้อมเพรียงของหมู่ให้เกิดสุข
สะมัคคานัง ตะโป สุโข
ความเพียรของหมู่ ความเพียรพยายามพร้อมเพรียงกันทำอะไรๆ ไม่แตก ไม่แยกขนาดนั้น อ่ะ
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง
หมายไว้ทั้งๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง
ความพร้อมเพรียงของชนหมู่ใหญ่
สามัคคี วุฑฒิสาธิกา
นำมาซึ่งความสุขเหมือนกัน พร้อมเพรียงกันทำอะไรก็สำเร็จทุกอย่างภายในประเทศของเรา ใครจะมายุให้รำ มาตำให้รั่ว จะมายั่วให้แตก จะมาแยกให้ออก ตอกลิ่มเข้าไปอย่างเนี่ย คนสอพลอชนิดนั้น เราจะถือเป็นเพื่อนเหรอ ถือเป็นหมู่เป็นพวกกันอยู่เหรอ ถ้ายุคนนั้น ยุคนนี้ ยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก แยกให้ออก มันเกิดขึ้นมาในเรื่องละคร เขาเล่นละครกัน ยุคนนั้น ยุคนนี้ ยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก อยู่อย่างงั้น นี่คนสอพลอ วิ่งไปหาคนนั้น แล้วไปเล่าเรื่องของคนนั้นให้ฟังอีก ก็ทำให้ ๒ คนนั้นไม่กินเส้นกันอีกแหละ อ่ะ ถ้ามีคนจำพวกนี้อยู่ในบ้านใดเมืองใด บ้านนั้นเมืองนั้นก็ไม่เป็นหลักเป็นฐานล่ะ เขายุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก แยกให้ออก อยู่อย่างงั้น แยกกัน แม้แต่ผัวเมียเขาอยู่ด้วยกันดีๆ ถ้ามีคนสอพลอเข้าไป เออ ซุบซิบ หรือนินทากาเล หรือยุให้รำ ตำให้รั่ว
ถ้าเชื่อ ถ้าเชื่อเขา ก็ทำให้แตกกัน สามีภรรยา แทนที่จะรักกันปานจะกลืนกิน ถ้าเขาไปยุให้รำ ตำให้รั่วแล้วก็ จริงเท็จ มันจะจริงอย่างเขาว่าหรือเปล่า ขึ้นมาคิดกันในทางที่ผิดๆ ไปอย่างงั้นๆ แหละ ความรักมีมากต่อมากก็เลยเกิดขมขื่นขึ้นมา อ้า มีความขมขื่น กิน... ไม่กินเส้นกันขึ้นมาอย่างนี้ พวกเราจะเป็นคนหูเบา เป็นคนบ้านเดียวเมืองเดียวกัน ประเทศเดียวกัน ชาติเดียวกัน อย่าเป็นคนหูเบา ต้องเป็นคนหูหนักๆ เอาไว้ อ่ะ มีคำอย่างงี้ไม่มี
ให้ภรรยาของเราซื่อสัตย์ต่อเราที่สุด สามีของเราเมตตาเรามากที่สุด เช่นเรื่อง เรื่องอย่างที่ยุให้รำ ตำให้รั่วมานี้ เป็นเรื่องใส่ร้าย และก็ป้ายสีกันเฉยๆ ไม่จริงๆ ตอกหน้ามันไปก็ได้ ไม่จริงอ่ะ ที่พูดมาเนี่ยไม่จริง ไม่มีเรื่องอย่างงี้ในครอบครัวของเรา แต่ รู้เท่าเอาทัน ถ้ารู้ไม่เท่า มันก็เอาครึ่งหนึ่งล่ะ ไอ้เรื่องยุให้รำ ตำให้รั่ว
เพื่อนกิน เพื่อนกัน เพื่อนรู้ไม่ทัน เพื่อนกันเอาไปกิน
ถ้ารู้ทันน่ะเอาครึ่งหนึ่ง ถ้ารู้ไม่ถึงล่ะเอาหมด
เพื่อนกิน เพื่อนกัน เพื่อนรู้ไม่ทัน เพื่อนกันเอาไปกิน เออ ทำให้แตกแยกกันได้ ถ้ามันแตกแยกกันแล้ว จะมีความสุขไหมครอบครัวนั้น ครอบครัวนั้นจะมีความสุขไหม ในหมู่บ้านนั้น ในตำบลนั้นจะมีความสุขไหม ถ้าแตกแยกกันแล้ว ไม่กินเส้นกันสักอย่างเลย ทำงานอะไรก็ฝืดๆ เคืองๆ จะลงไม้ลงมืออย่างจริงจัง เออ แม้แต่นักลงทุนด้วยกันก็ยังแตกแยกกันได้ เพราะไม่กินเส้นกัน ยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก แยกให้ออก ตอกลิ่มเข้าไป เออ อันนี้ให้ยาแก้นะ อย่าเป็นคนหูเบา เขายุอย่างงั้น ยุอย่างนี้ ให้ยุ องค์หนึ่งก็มี เดี๋ยวนี้ยังเป็นคาราคาซังอยู่ อ้า คาราคาซังกันอยู่โรงใน ในโรงในศาล อันนี้เรื่องยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก มันเป็นจริงหรือเปล่า เออ
ถ้าไม่เป็นจริง มันก็มีหลัก มีฐานอ้างอิงกันอยู่ เออ เรื่องเงินของวัด เงินของหมู่ ของคณะ อ้า มีคนอยากจะอม เอาคนเดียวอย่างนี้ก็มี เออ อันนั้น ระวังให้ดี อย่าไปเชื่อคนอื่นเขา ให้เชื่อใจหมู่คณะของตัวเอง เออ เขายุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก แยกให้ออก คนดีๆ ไปติดคุกติดตะรางก็มากมาย เรื่องยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก เชื่อความเขา เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไม่รู้จะว่ายังไง ก็ปวดหัว เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานน่ะ ปวดหัวขึ้นเหรอ ได้เข้าโรงพยาบาลหลายรายแล้ว เพราะว่าปวดหัว เรื่องฟังคำสับคำส่อ(สับส่อ ส่อเสียด)ไป อ้า ยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก ยุ คำยุยงส่งเสริมกันอะไรๆ ก็ทำให้ผิด แตกแยกกันได้แม้แต่เจ้าหน้าที่ต่อเจ้าหน้าที่ก็ยังทะเลาะกัน นั่นน่ะ เรียกว่าไม่มีความกลมเกลียวกัน มันปีนเกลียวกัน มันก็เลยยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก แยกให้ออก เป็นก๊ก เป็นเหล่า เป็นหมู่ เป็นพวก คณะนั้น คณะนี้
สมัยหนึ่ง เออ ไม่อยากพูด มันจะเป็นการเมืองไปว่า เออ พวกเสื้อแดงนั่นต่างหาก พวกเสื้อดำก็ต่างหาก เออ มันไม่เข้ากันล่ะปะเนี่ย ลงไม้ลงมือกัน ตีกัน หัวร้างข้างแตกกันนี้ก็มี
จึงว่าน่าสลดสมเพช เวทนาจริงๆ เออ คนบ้านเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน เมืองเดียวกัน ประเทศเดียวกัน ชาติเดียวกัน มีคนมายุให้รำ ตำให้รั่ว คนสอพลอ มายุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก อยากจะแยกประเทศออกเป็นฝักเป็นฝ่าย ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงใต้อะไรทำนองนี้ ถ้ามีคนจำพวกเหล่านั้นเกิดมีขึ้น เราใช้ดุลยพินิจ
คิดให้ละเอียด มันจะเป็นไปได้ยังไง เป็นไปไม่ได้ พระเจ้าแผ่นดินตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ ที่ ๖ ที่ ๗ มาก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมาอยู่อย่างงั้น ไม่มีใครยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตกได้เลย เหนียวแน่น มั่นคง เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานก็ไม่เสียหัว ไม่เสียหัว ไม่ได้ใช้ความคิดไปในทางอย่างงั้น
ให้ๆ ทำความคิดจงรักภักดีต่อในหลวงคนเดียวพอแล้ว นอกนั้นมันยังไว้ใจกันไม่ได้ ยังสอพลอกันอยู่ ยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก แยกให้ออก ต้องการให้เป็นอย่างงั้น เป็นก๊ก เป็นเหล่า เหล่านี้ ขอฝากแก่สังคมนี้ ฝากแก่ทุกท่านทุกคน เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนะ เป็นชาวพุทธเหมือนกัน นับถือพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน ถ้ามีครูมีอาจารย์ขึ้นมา ถ้าท่านแนะนำในทางที่ถูก ก็จงเชื่อ ถ้าแนะนำในทางที่ผิด ก็อย่าเพิ่งไปเชื่อ เชื่ออย่างนั้นเรียกว่า งมงาย งมงายแล้ว ทำให้เกิดชังกันขึ้นมา พี่น้องกันก็ชังกัน ศิษย์เดียวกัน ลูกศิษย์ของครูบาอาจารย์เดียวกันก็ยังทะเลาะกัน ตีกันขึ้นมา ถ้าเพราะมีคนสอพลอไปสัพยอก ทำให้เผลอหลงเชื่อ ก็หลงเชื่อเอาไปจนเขาเอาจริงเอาจังขึ้นมา ก็เลยแตกกันเลย เขากันไม่ได้เลยอย่างงี้ เออ เพราะฉะนั้น คนในสังคม ชาวพุทธทั้งหลาย อย่าหูเบา อย่าเป็นคนหูเบา ให้หนักให้แน่น มั่นคง ไม่หวั่นไหว กับเรื่องยุให้รำ ตำให้รั่วทั้งหลาย อย่าไปเชื่อๆ เออ เอาของจริงออกมาแผ่ให้ฟัง เออ
อันนี้ก็มีคนยุให้รำ ตำให้รั่วเหมือนกัน อย่างวัดเรา เออ ที่กำลังพัฒนาอยู่ เราพยายามตะล่อมไว้ ไม่ให้เชื่อ อย่าไปเชื่ออย่างงั้น เชื่ออย่างนั้นมันไม่มีเหตุมีผล แต่เรื่องเงินเรื่องทองล่ะ เอามายุให้รำ ตำให้รั่วกัน เออ ไม่เคยมี บาทหนึ่ง สลึงหนึ่ง ไม่เคยให้มันบินไปไหน เงินเขาเอาให้มา ถวายมา อันนี้ใส่เจดีย์ ไปๆ ไปแหยมไม่ได้ ไปแตะต้องไม่ได้ เงินเจดีย์เข้าฝาก เป็นล่ำเป็นสันจริงๆ อยู่ในบัญชีนั้นแหละ มีมากก็อยู่ในบัญชี มีน้อยก็อยู่ในบัญชีนั่นแหละ ไม่ได้เอาไปไหนสักสลึงเดียวน่ะ เรามีเงินค่ารถค่าลา ค่าน้ำมงน้ำมันเดินทาง ก็มีคนศรัทธาเมตตาให้เราอ้า ต่างหากอันนี้ให้เป็นค่ารถ อันนั้นให้เป็นค่าพาหนะ มี เออ น้ำมงน้ำมันอะไรขาดตกบกพร่องไป ให้ใช้เงินก้อนนี้ เอาเงินก้อนนี้ ฝากไว้ให้หลวงปู่ แต่ว่าเงินหลวงปู่ก็บอกพอแล้ว ก็บอกไม่ ไม่เกี่ยง เงินในตู้ สลึงหนึ่งก็ยังไม่ให้ขาด ไม่ให้มันขาด ถ้าเราจะเอาเงินในตู้ไป งั้นเราก็เอาเงินอย่างอื่นใช้ไปก่อน ใช้ไปก่อน มีเงินใช้ไว้ให้แล้ว เอาไป ผมเอาไปได้ อันนี้เอาไปได้
เงินสลึงหนึ่ง บาทหนึ่ง ๕ บาท ๑๐ บาทมีหมด เหรียญ ถ้ามันมีอยู่ในตู้นั่นเอาไปได้ เราอาสาทดแทนไว้ให้แล้ว เอาไปใช้ได้อย่างนี้ก็มี แต่ว่าทำใจให้มันมั่นคงไว้ อย่าให้มันหวั่นไหวไปในทางอื่น อย่างเนี่ย เอาเงินมาให้ตั้งล้านบาท มีศรัทธาอะไรมากมายขนาดนี้ คนละล้านบาท ล้านบาท อ้า หนเดียวก็พอสร้างเจดีย์ เหมาเจดีย์ทั้งหมดก็จะเอา ๑๐๐ เหรอ ๒๐ กว่าล้าน ๑๒๒ ต่อลงมายัง ๑๒๑ ต่อลงมาๆ เหลืออยู่ ๑๐๘ ล้านบาท ปะเนี่ยเป็นหน้าที่ของทางวัดหาให้ ก็ขาดมาเรื่อยๆ อย่างเรื่องเสาเข็ม เสาเขิม มีคนให้หลายคน พอหรือยังฮึ เงินไม่มีสำรวจดูว่าเงินยังเหลืออยู่กับเสาเข็มที่ได้ลงไปแล้วนั้น มันถูกต้องกันไหม เออ ถ้าไม่ถูกต้องมันหายไปไหน ต้องซักไซ้ไล่เลียงกันแหละ เออ มันหายไปไหน เรามองไม่เห็น หาย ไม่เห็น หายไปไหน เข้าบัญชีไว้หมดทุกบาททุกสตางค์ ถ้าเป็นเงินเหรียญเงินเหลือเนี่ยเอา เพราะเงินของเราน่ะมันมีนั่น ยัดเข้าไปให้กัน อันนี้เอาไปจ่ายซะ มันถือยาก เอาไปจ่ายทางอื่นซะ เป็นค่าซ่อมรถ ค่าซ่อม ค่าอะไรให้มันแล้วไป ดังนี้ เออ เป็นผู้รู้ตามอยู่ ไม่ได้ร่วมคิดต้มตุ๋นประชาชนแต่อย่างใด
(ผู้ฟังหลับ) เอาคอมาขัดกันแล้วปะเนี่ย เออ แต่ว่า เอาคอมาขัดเนี่ย เอาไว้หายใจหน่อย เอาไว้หายใจหน่อยเว้ย คอเนี่ยอ่ะ อย่าเอาคอมาขัดเฉยๆ
เพราะฉะนั้น การปฏิบัติงานร่วมกัน ไม่ว่าทางโลกและทางธรรม ต้องสมานสามัคคีดีต่อกัน มันจึงจะเจริญ ถ้าไม่หักแข้งหักขา อันนั้นเอาไป อันนี้เอาไปล่ะ เอาล่ะมันแตก ละเทละทาง
กันไปแล้ว แตกออกไปแล้วจับกุมกันยากแล้วปะเนี่ย
เพราะฉะนั้น พวกเราต้องบริหารในการบุญการกุศลก็ให้ถือเจตนาเดียวกัน อย่าไปแยกเจตนาออกจากกัน มันจะเป็นก๊กเป็นเหล่าไป ไม่มีใครเชื่อถือได้ อ้า มีคนยุให้รำ ตำให้รั่ว ยั่วให้แตก แยกให้ออก อยากจะเข้ามาเป็นโครงการ อยากมาเข้ารับรู้โครงการ อ้า ทะเลาะกันบรรดาลูกศิษย์ ถ้าเป็นเรา เราก็จะรวยล่ะ เออ เออ รวยไปได้ยังไง เงินทุกบาททุกสตางค์มีบัญน้ำบัญชี เวลามีบัญน้ำบัญชี มีอะไรมันเข้าไปอยู่ในธนาคารแล้ว เวลาต้องการใช้จ่ายในธุรกิจของเจดีย์จริงๆ จึงไปถอนออกมาให้ตามกำหนดเขา ให้เกินนั้นก็ไม่ดีอีก อ้า เขาอยากได้เท่านั้น ถอนให้เท่านี้ ถอน ถอนให้ๆ ไม่ขัดข้องหรอก ไม่ถ่วง ไม่ถ่วงความเจริญของประชาชนหรอก เขาต้องการอย่างงั้นอย่างงี้ แต่ว่าเขาเองเป็นคนถ่วง เขาเองเป็นคนถ่วงความเจริญของตัวเอง เขาถ่วงยังไง เขาถ่วงว่าฝนตกหนักทำงานไม่ได้ ฝนตกหนักทำงานไม่ได้ มืดฟ้ามัวดินตลอดวัน ตลอดคืน จะไปเทปูนตากฝนก็คงไม่ดีอีก อ่ะ เออ เขาก็ถ่วงของเขาเองแหละ แต่ที่ทำสำเร็จมาเราไม่เคยค้างเขาเลย ให้ทุกครั้งไป เสาเข็มก็ดี อ้า เรื่องเงินก่อสร้างทั้งหลายทั้งปวงก็ดี เทคานคอดินก็ดี คานชั้นคอนกรีตก็ดี ไม่เคยขัดคอเขา ให้ ต้องตามใจ เท่าไหร่ให้เลย อ่ะดังนี้ อันนี้พูดนอกลู่นอกทาง มันก็เข้าเป็นธรรมะเหมือนกัน เป็นธรรมะความซื่อสัตย์สุจริต เป็นความ เป็นธรรมะของชาวพุทธที่จะต้องแจ้ง ชี้แจงแสดงให้กันฟัง อ้า ทุกครั้งไป ไม่ต้องสงสัยว่าเงินที่ได้เอาไปหลายๆ เอาไปหลายๆ เขาโอนเข้าไปทางเมืองเลย เราก็ไปถอนทางเมืองเลยโน้นให้เขา แน่ะ เขาก็โอนไปตามคำสั่งของเรา เท่านั้นแสน เท่านี้ล้าน อ้า เขาโอนไปทางโน้นแล้วเราก็ไปถอนทางโน้นให้เขาเลย โอนที่ทำการน่ะ เป็นเงินล้านๆ น่ะ เป็นอย่างงี้
นี่ไม่ได้สาวไส้ให้กากินหรอก พูดตามความเป็นจริง เราไม่ปกไม่ปิดสักอย่างเดียว ถ้าหากมีเรื่องสงสัยอะไรๆ ก็พูดขึ้นในสมาคมนี้ก็ได้ สมาคมไหนก็ได้ อ้า หลวงปู่เสียหายแล้ว อย่างงั้นอย่างงี้ก็ว่ามา เออ เออ กินเงินวัด กินเงินวา เออ
พวกกินตะกละ ก้าง ปลามันมีก้างแล้วไปติด ก็เอาออกซะ ก้าง กินแต่เนื้อมันพอแล้ว อ่ะเฮอะ กินส่วนที่มันเป็นกระดูกเป็นก้างนั้นอย่ากิน เออ เอาออกซะ ออกซะ กินแต่ของที่บริสุทธิ์ ดังนี้
อันนี้พวกเราเป็นผู้สมา... อยู่ในสมาคมเดียวกัน แจ้งให้กันทราบทุกครั้งไป อ้า ทำไมจึงเอามาพูด เขาก็มีคนสงสัย เรื่องเงินเรื่องทอง มันหายไปยังไง มันมายังไง เออ มีผู้ให้ คนนั้นให้ คนนี้ให้ อย่างงี้ล่ะ อันนี้ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทนี่เงินนี้ให้มาแล้วเนี่ย มีใบรับรองมาแล้ว ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทเต็มๆ เลย เออ เพิ่นผู้มีจิตศรัทธา ไม่สงสัยว่าหลวงปู่จะเอาเงินของประชาชนไปใช้ส่วนตั้วส่วนตัว ไม่มี อ้า พร้อมถวายผ้าป่าเพื่อสร้างพระมหาเจดีย์ ณ วัดศรีอภัยวัน ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย เป็นจำนวนเงินสด ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เต๊ม เต็มเลย เออ
นี่ท่านผู้เจตนาเมตตาสงสารหลวงปู่ ยกให้หลวงปู่ ยกของหนักๆ ออกจากหัวใจให้หลวงปู่ ขอโมทนาน้ำใจไมตรีจิตมิตรภาพอันนี้ ไว้เป็นอย่างสูง ขอให้ทุกคนเอาใจช่วยกัน ถ้ามีงานอะไรๆ เกิดขึ้นในวงการ ในสังคมนี้ ต้องเอาใจช่วยกันดูแลกัน แล้วอย่ามาขอยืมเงินหลวงปู่นะ นี้ หลวงปู่ก็ตะพึดตะพึอ ไม่มีเงินเหรอให้เอาไปทีหนึ่ง โดยสันดานแล้วมันเอาไปทีหนึ่ง เอาไปทีๆ มันจะมีไม่มีใช้จ่าย เวลาพวกเหมาก่อสร้าง จะหาเงินใช้จ่ายเขาไม่ทัน นี่ถ้ายืมไม่เป็นเวลานาน ก็โอเค โอเค เอาไปได้ เออ ตามที่กำหนดการอยู่ โอเค เขาแปลว่ายังไง แปลว่า ไม่ตกลงเหรอ โอเค สำหรับคนที่ไว้ใจได้ มีการงานได้ ช่วยเหลือกันไป อะไรมันหนักหนาสาหัสเกินกว่าเหตุ เราก็ยังให้ไปไม่ได้ นี่นะ มีเงินอยู่นี้ก้อนหนึ่ง ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท อยู่นี่นะ ใครอยากจี้ ก็จี้เอา ใครอยากปล้น ก็ปล้นเอา แน่ะ แต่ว่าข้ามศพของเราไปก่อน เฮอะๆ เป็นอย่างงั้น หากความจริงต้องรับผิดชอบ เราเป็นผู้รับ รับไปก่อน รับของเขาไว้แล้ว ต้องปฏิบัติให้เคร่งครัด อย่าหละหลวม เหลวไหล มันเป็นการหลอกลวงโลก
แน่ะ กองนี้กองสร้างพระมหาเจดีย์ ก็ให้มันได้เข้าไว้ทุกบาททุกสลึง ในมหาเจดีย์นั้น เดี๋ยวนี้มีผู้เอาทองคำมาให้ เป็นจำนวนหลายบาทอยู่ หลายบาท น้ำหนักหลายบาท หลายกิโลเพิ่นว่า อันนี้เอาไว้หล่อเป็นฉัตร ยอดเจดีย์ ไอ้ทองคำทั้งหลายนี้ หล่อเป็นๆ ยอดฉัตร สำหรับใส่ประดับเจดีย์ไว้ เอาสายไฟสายฟืนต่อจากยอดมันนู้นน่ะ ลงผ่านลงไปหาดิน นี่ทำตามหลักสูตรมัน
ถ้ามีแต่ทองเฉยๆ ฟ้ามาเปรี้ยงเดียว หมดเลย ทำตามหลักสูตรมันก็ต้องมีสายล่อฟ้า ถ้ามันลงมาใส่ยอด มันก็ลงดูดลงพื้นดินเลย เปรี้ยง มาอยู่แต่มันไปในดิน ไปหายอยู่ในดินเลย ไม่ได้ผ่าเกิดฟืนเกิดไฟขึ้น ในสถานที่แห่งนั้น นายช่างผู้รับเหมาเขาก็รู้ดี รู้เรื่องสายล่อฟืนล่อฟ้าให้ได้
(เตรียมพิธี)
เออ เนี่ยมีอะไรเหรอ อ้าว ทำไมมาอยู่ข้างหลังนี่ว่ะ ไม่ได้เหลียวหลัง
นี่ก็ขอ หากมีความเข้าใจผิดกันในสมาคมนี้ ขอแจ้งให้ทราบไว้แล้ว ให้อภัยแก่อาตมาด้วย แก่หลวงปู่ด้วย หลวงปู่ก็ให้อภัยแก่ญาติโยมผู้เข้าใจผิด พูดผิดไป นั่น ไม่มีคำปกปิดใดๆ ทั้งนั้น เปิดเผย ยินดีเปิดเผยให้ฟังทุกอย่างล่ะ ในสมาคมของเรา พุทธบริษัทของเรา เป็นชาวพุทธเหมือนกัน แต่อาจอยู่คนละสังกัดและคนละสำนัก เออ ถ้าเข้าใจผิดอย่างงั้นก็ขออภัยด้วยนะ ถ้าเข้าใจผิดอย่างงั้นว่าหลวงปู่จะกินเงินกินทอง ทำไมๆ ถึงทำใหญ่ทำโตนักหนา ทำน้อยๆ อ้าว คิดใหญ่ๆ คิดกว้างๆ จะได้ตุ้ม(รวม)พี่ ตุ้ม(รวม)น้อง ถ้าคนมาขนาดนี้แล้วมันไม่มีที่นั่งนะ ไม่มีที่นั่ง เพราะฉะนั้น เราต้องทำพื้นเดียวกับวิหารเลย เป็นพื้นเดียวไปเลย ชั้นบนนี่ก็พื้นชั้นบนเป็นพื้นเดียวเหมือนกับ หลังคาวิหารโน้นล่ะ ไปหาเจดีย์หรือทั้งเจดีย์อยู่ข้างบนพอดี พู้น(โน้น)แน่ะ ความคิดใหญ่แน่ๆ ความคิดมีบ่แพ้คุณค่าหากบ่หลาย อ่ะน่ะ คุณค่าหากบ่มี คิดใหญ่ซื่อๆ
เพราะฉะนั้น เรื่องธรรมะวันนี้ มันก็นอกเหนือไปจากศีลธรรม ที่นำให้คนมีหลักใจ ก็เอาศีลธรรมนั่นล่ะเป็นหลักใจของทุกคนๆ ถือความซื่อสัตย์ต่อกัน ถือความตรงไปตรงมาต่อกัน ไม่รอดออกไปนอกลู่นอกทาง กินเล็กกินน้อย เออ ผู้บริหารงานบางจำพวกอยู่ในบริษัทเดียวกัน ก็ยังแตกกันได้ เพราะว่าความไม่เอาใจใส่กัน ไม่เชื่อใจ ไม่ไว้วางใจกัน ก็เลยให้แตกแยกกันก็มี เพราะฉะนั้น อย่าให้มีอย่างงั้นเกิดขึ้นเลยในสังกัดของเรา หรือสำนักที่เรารับผิดชอบอยู่ หลายวัดอยู่ เราผิดชอบหลายวัดอยู่ ไม่ใช่แต่วัดศรีรัตนาวันเท่านั้น ศรีรัตนาวันนี่ ท่านผู้ว่า ที่ท่านไปเผากันมาเมื่อวานซืนเนี่ย เออ ท่านเผาไปแล้ว ท่านตายแล้ว อันนั้นกำลังขึ้นทะเบียนวัดไว้อยู่ อ้า จะพัฒนาวัดศรีรัตนาวัน ให้มันมีที่อยู่ที่อาศัยพอสมควรซะก่อน ให้หมู่ให้พวก ไปดูแลเฝ้ารักษาอยู่ มันเป็นสถานที่เหมาะสม เพิ่นถวายที่ดินให้ตั้ง ๖๓ ไร่บ่ฮึ ๖๓ ไร่เศษๆ กว่านี้หน่อยนะ ถ้าควรสร้างเป็นวัดนะ เพิ่นถวายที่ดินแห่งนี้ เอาเป็นของใครไม่ได้หรอก เอาไปซื้อไปขายเอาเงินไม่ได้ ให้เป็นของสงฆ์อย่างเดียว เพราะฉะนั้น ทุกคนต้องช่วยกันดูแลและรับผิดชอบ ช่วยกัน มั่นใจๆ อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน มันจนใจเรา มันไม่ดี ผู้ที่ไว้ใจกันได้ จึงค่อยตกลง โอเค กันได้
อ้า เล่าไปเล่ามา คอแห้ง โว้ย มันก็นอกลู่นอกทางไปหน่อยหนึ่ง เพราะว่าต้องเท้าความเดิม กล่าวให้รู้ เท้าความเดิมมันเป็นอย่างงั้น ตั้งขึ้นมามันก็เป็นอย่างงั้น อาศัยกำลังใจของ กำลังศรัทธาของญาติของโยม ผู้มีความเลื่อมใสศรัทธา เชื่อในตัวของหลวงปู่เอง และหมู่คณะ จึงเชื่อใจไว้วางใจกันได้ อ้า มันจึงทำงานร่วมกันได้ เป็นชิ้นเป็นอันขึ้นมา อันนี้พูดทางโลกเข้ามาผสมผสานกับทางธรรม แต่ว่าทางธรรมนั้นพวกเราให้มั่นใจ ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างที่ประกาศปฏิญาณตนมาแล้วนั้นทุกครั้ง ขอถึงพระพุทธเจ้า ขอถึงพระธรรม ขอถึงพระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ ที่พึ่งที่ระลึก กำจัดภัยได้จริง เออ ไม่มีภัยใดๆ ทั้งนั้น ถ้าอยู่ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้ว ภูตผีปีศาจก็ไม่เบียดเบียน อย่าเข้าใจว่าภูตผีปีศาจจะมาเบียดเบียนอย่างงั้นอย่างงี้ แท้ที่จริงไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ภูตผีปีศาจ มา ก่อนมานี้ ก็ไปเยี่ยมคนไข้คนหนึ่งเหมือนกัน ท้องใหญ่ กินน้ำได้แต่ไม่ถ่าย แต่ๆ ไม่ระบาย เลือดจะออกมาหมดในท้อง เป็นอันตรายอีก หมอจึงรักษาด้วยทางอ้อม ไปทางไหนบุ(เป็นคำเสริมท้าย) น่าสงสาร เรารู้จักอยู่ เราก็ไปเยี่ยมไปแวะห้อง มันอยู่ชั้นเดียว แวะเข้าไปเยี่ยมห้อง ก็ยังยกมือไหว้เป็นอยู่ ไม่เสียสติหรอก เออ วาง ให้วางมันนะ เอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งจริงๆ ตายเป็นตายอยู่กับพระพุทธ ตายอยู่กับพระธรรม ตายอยู่กับพระสงฆ์นี่ เป็นที่พึ่งทางจิตใจ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
สะระณัง คะโต (ชายว่า)
สะระณัง คะตา (หญิงว่า)
เอาเป็นที่พึ่งทางจิตใจจริงๆ ก็หายได้เหมือนกันนะ บางรายหาย หายแล้ว ออกจากโรงพยาบาลไปหลายรายแล้ว เพราะว่าเป็นคนจริง ถึงในธรรมะธัมโม เชื่อพระพุทธเจ้า เชื่อพระธรรม เชื่อพระสงฆ์ เชื่อครูบาอาจารย์ เพิ่นแนะนำยังไงก็ปฏิบัติตามอย่างงั้น อืม นี่เรียกว่าเป็นคนเชื่อไว้วางใจกัน โรคภัยไข้เจ็บก็พลอยหายไปด้วย ถ้าหากมีสิ่งมารบกวนเรานี้ มีผีเข้า
ผีเจ้าสิง มีอะไรอีก ถ้าเรามั่นใจอยู่ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้ว อันนั้นรับรองไม่เป็นไร ถ้าเราอยู่ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งจริงๆ แล้ว
เส นะ เต คะมิสสันติ อะปายะภูมิง ฯ
แม้ตายไป ก็ไม่ได้ไปถึงอบาย ไม่ไปตกนรกหมกไหม้อะไรหรอก ตายก็ตายด้วยโรคภัยไข้เจ็บตายต่างหาก อ้า ในส่วนดวงวิญญาณนั้นไปสู่สุคติได้อยู่ เออ แบบนี้ เคยกระทำมา สำเร็จหลายรายมาแล้ว หาย หายจริงๆ จังๆ เออ หมอมุก เขามาด้วยไหมหนอ หมอมุกนี้คนหนึ่งล่ะ เรียกว่าตายแล้ว อ้า ได้ผ่าสมอง ผ่าสมองเอากระโหลกมาใส่ ปลูกผมใหม่ให้ เออ ยังดีมีผู้มีเมตตากรุณารับเอาไปอยู่ในวงราชการเหมือนกันว้า อยู่ในวังโน้นแหละ ให้อยู่ในวัง ทำงานในวังปะเนี่ย วังหลวงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หรือพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รับอาสาดูแลให้ อ้า นี่ก็เป็นบุญอันหนึ่งเหมือนกัน เป็นบุญอันหนึ่งเหมือนกัน เป็นผู้เอาจริงเอาจังกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เหมือนกัน
เพราะฉะนั้น เรื่องการเป็นการตายน่ะมันมี แขวนคอทุกก้าวย่าง แขวนคอทุกบาดย่าง ความตายนี้แขวนคอทุกบาดย่างแล้ว การนับถือต่างคนต่างคิดได้ความเว่า(พูด)บ่ถ่อง(ชัดเจน)กัน เออ เว่า(พูด)บ่ตรงกัน อ้า การนับถือ การค้น การคิด ไอ้พวกโง่งกโกงกันน่ะ มันๆ ตรงกัน เอาความเห็นของตัวเข้าไปคัดคานต่อสังคม ไม่ถูกต้อง ต้องสังคมรับรอง สังคมรับรองยกย่องสรรเสริญ ให้ซะก่อน สังคมรับรองแล้วก็ไม่เป็นไร เออ ตายแล้วไม่ตกนรกแน่นอน
เอ้ พูดไปพูดมา กลับหน้ากลับหลัง มันหลง สมองไม่ดี สมองไม่อยู่
แต่ขอให้ทุกคนมั่น มั่นใจในพระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า ๑ คือพระธรรม ๑ คือพระสงฆ์ ๑ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นี้ เป็นพระรัตนตรัยอันประเสริฐเลิศโลก ไม่มีศาสนาอื่น อ้า เมืองใหญ่ๆ โตๆ อเมริกอบ(อเม)ริกา ในทวีปอื่นๆ นู้นก็เหมือนกัน เขาก็ถือของเขามั่นคงเหมือนกัน ศาสนาคริสต์ อิสลาม มหาหมัดอะไร เขามั่นคง ถ้ามีความมั่นคงในศาสนาของตัว เรื่องที่จะก่อเกิดสงครามขึ้นในโลก ไม่มี ไม่มีเกิดสงครามกันในโลกไม่มี เพราะว่าอยู่ในพระรัตนตรัย เอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งทางจิตใจแล้ว มีแต่ความสุขความเจริญฝ่ายเดียว ไม่มีอะไรหรอก เรื่องโรคภัยไข้เจ็บต้องวิ่งเข้าหาหมอ หมอที่เรียนมาแล้ว โรคอะไรๆ โรคอยู่ในร่างกาย โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคไส้ โรคพุง โรคอะไรอยู่ในร่างกายนี่ หมอช่วยได้ ที่มาพูดแจ๋วๆ อยู่เดี๋ยวนี้ก็เพราะ หมอ ช่วยผ่าตัดให้ ผ่าตัดนิ่วบ้าง ผ่าตัด อ้า เส้นประสาทไขสันหลังบ้าง มันเกิดอะไรขึ้น หาให้ แล้วก็มีบุญคุณต่อกัน
เพราะฉะนั้น มีงานอะไรเกิดขึ้น เราก็ไม่ปฏิเสธ มาด้วยความพออกพอใจ แล้วก็ได้รับความสนับสนุน จากอุบาสก อุบาสิกาอย่างที่ อ้า เขียนใบปวารณาบัตรมาให้เนี่ย ปวารณาบัตรว่าขอถวายเงิน เป็นการก่อสร้างเจดีย์ ที่วัดศรีอภัยวัน เป็นจำนวนเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทเนี่ย เออ ก็มีอยู่หลายล้านอยู่แถวนี้
แต่เขาไม่ให้ เออ ตัวเองก็มีล้านเดียว เขาไม่ให้ก็เลยไม่ได้อะไรอ่ะ
เพราะฉะนั้น ขอให้อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย ผู้มั่นใจในบวรพระพุทธศาสนา เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า เลื่อมใสในพระธรรม เลื่อมใสในพระสงฆ์ ขอให้มีสวัสดิมงคล จงเกิดมีแก่ตนของตน ทุกท่านเทอญ
(สาธุ)
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
ความพร้อมเพรียงของหมู่ ให้เกิดสุข
สะมัคคานัง ตะโป สุโข
ความเพียรของผู้พร้อมเพรียงกัน ให้เกิดสุข
(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ ธรรมบท
อุทาน อิติวุตตกะ สุตตนิบาต
คาถาธรรมบท พุทธวรรคที่ ๑๔ ข้อ ๒๔)
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา
ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช (สา) วัดราชประดิษฐ์
ทรงผูกขึ้นแปลได้ความว่า
“ความพร้อมเพรียงของชนผู้เป็นหมู่ยังความเจริญให้สำเร็จ”
สัญลักษณ์ของความสามัคคีนั้นเห็นได้จากการ
ประดิษฐานตราแผ่นดินที่มีคาถาภาษิตว่า
“สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฒิสาธิกา”
ซึ่งแปลว่า ความพร้อมเพรียงของคนทั้งปวง
รวมกันเป็นหมวดหมู่ด้วยความสามัคคี
เป็นเครื่องทำความเจริญให้สำเร็จ
อยู่ที่เสาทั้ง ๔ มุมของพระบรมรูปทรงม้า
ในขณะที่ชาติไทยกำลังถูกล่าเป็นเมืองขึ้น
สรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ถือเอาพระพุทธเจ้า เป็นสรณะ
สะระณัง คะโต (ชายว่า), สะระณัง คะตา (หญิงว่า)
เป็นที่พึ่งที่ระลึกถึง
เจตะนาหัง สีลัง วะทามิ
เจตนาเป็นตัวกำหนดศีล
เจตะนาหัง กัมมัง วะทามิ
เจตนาเป็นตัวกำหนดกรรม
มหาสมัยสูตร (ที่ประชุมใหญ่ของเหล่าเทพ)
ลำดับนั้น เทวดาองค์หนึ่งได้กล่าวคาถา
เย เกจิ พุทธัง สะระณัง คะตา
เส นะ เต คะมิสสันติ อะปายะภูมิง ปะหายะ
มานุสัง เทหัง เทวะกายัง ปะริปูเรสสันตีติ ฯ
ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ถึงพระพุทธเจ้าว่า เป็นสรณะ เขาจัก
ไม่ไปอบายภูมิ ละกายมนุษย์แล้ว จักยังเทวกายให้บริบูรณ์ ฯ
(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒
ทีฆนิกาย มหาวรรค
มหาสมัยสูตร (๒๐) ข้อ ๒๓๙)
เพลงรวมไทย
(สร้อย) รวมไทยร่วมใจ
รักษาอำนาจชาติไทย
เทอดไทยทูนไทย
ด้วยน้ำใจมั่นคง
สามัคคีระหว่างไทยคงได้ผล
ไทยทุกคนรวมทั้งชาติและศาสนา
เหมือนหนึ่งได้เกิดกำเนิดมา
จากบิดรมารดาคนเดียวกัน
(สร้อย)
ถ้ารวมไทยได้สิ้นทุกถิ่นแคว้น
คงจะเป็นปึกแผ่นสามารถมั่น
ขอให้ไทยสามัคคีมีต่อกัน
จึงจะจรรโลงไทยให้รุ่งเรือง
(สร้อย)
๒๕