หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
งานมุทิตาจิต ๖๘ ปี หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ
วันอาทิตย์ที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๒๐.๐๐ น.
ณ วัดเวฬุวัน ต.ท่าขนุน
อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
(หลวงปู่สาคร ธัมมาวุโธ ให้เริ่มอาราธนาธรรมพร้อมกัน)
พ๎รัห๎มา จะ โลกาธิปะตี, สะหัมปะติ,
กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ,
สันตีธะ สัตตาปปะระชักขะชาติกา,
เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง.
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
เอาอะไรมาเทศน์เน้อ
สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง กุสะลัสสูปะสัมปะทา
สะจิตตะปะริโยทะปะนัง เอตัง พุทธานะ สาสะนัง
อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ อัตโถ
สาธายัสมันเตหิ สักกัจจัง ธัมโม โสตัพโพติ
ยังนึกหาคำพูดไม่ได้เลย นึกหาคำพูดไม่มีเลย คนไข้ คนป่วย เอาหวานอมขมกลืน เอาเน้อ หวานก็อมไว้ก่อน ถ้าขมก็กลืนเลย เขาเรียกว่าหวานอมขมกลืน ธรรมะเต็มโลก ธรรมะนี้เต็มโลก แต่จะเอามาพูดทุกข้อๆ หมด ทั้งพระสูตร ทั้งพระวินัย พระปรมัตถ์มากมาย แล้วก็เราได้กำหนดจดจำเอายังไงได้ ถ้าเทศน์แบบนั้นน่ะ เอาเฉพาะจำเป็นสำหรับตัวเอง เอาแค่นั้น เอาสำหรับตัวเอง กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อันนี้เป็นต้นเหตุของกรรมทั้งหลาย เป็น
กัมมุนา วัตตะติ โลโก
กรรมเป็นผู้นำมาเกิด เราทำกรรมดี กรรมดีก็อำนวยผลให้เรามีความสุข ถ้ากรรมชั่วอำนวยผลให้เราเป็นทุกข์ เนี่ยมันเป็นอย่างนี้นะ เรื่องธรรมะของพุทธ ของพระพุทธเจ้า
กัล๎ยาณัง วา ปาปะกัง วา
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
เพิ่นบอกไว้อย่างนั้น แล้วก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ คนที่ไปติดคุกติดตะรางอะไรฆ่าเขา ไปติดคุกติดตะราง เพราะการกระทำของเขาไม่ใช่หรือ คนที่มีลาภ มียศ มีชื่อเสียงโด่งดังในโลก อะไรล่ะ พาท่านให้เป็นไปอย่างงั้น ได้เป็นพระสกิทาคา(มี) พระอนาคา(มี) พระอรหันต์ ก็มีสิ่งที่ดลบันดาลให้ท่านได้รับอย่างนั้น อืม พูดง่ายๆ ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วได้รับความชั่ว ได้รับความทุกข์ด้วย ที่ถูกทรมาน จองจำ ติดคุก ติดตะรางเหล่านั้น อะไรพาเขาไปอย่างงั้น มีการกระทำของเขาเอง เขาทำชั่ว เขาทรมานผู้อื่น เขาไปปล้นไปจี้ ไปฆ่าเจ้าเอาของ เหล่านั้นทำให้ผล
อะยัมภะทันตา
นะ อันนี้เห็นแล้ว เขาออกโทรทัศน์ให้เราดูทุกวันๆ เขาเป็นอะไรเขาจึงเป็นอย่างงั้น ถูกจับ ถูกปรับ ถูกไหม ถูกลงโทษ แสนสาหัสสากรรจ์ก็มี บางรายไม่ได้เป็นอิสระเลย ตายเลย เขาเอาจนตายเลย กรรมหนักเหลือเกินอันนี้ หัวร้างข้างแตก อ่ะ เลือดตกยางออก สลบไสล รักษายังไงก็ไม่ฟื้น ตายเลยน่ะ ตายแล้วเขาจะไปไหน ดวงวิญญาณของเขา ไปสู่ทุคติ ตกนรกหมกไหม้ ถูกยมบาลลงโทษหนักๆ ประกาศหลายสิ่งหลายอย่าง เขาติดชั้น เขาทรมาน กรรมชั่วที่ตนประพฤติไม่หลีกหนีจากเราไปไหน ติดอยู่ที่ตัวเองนี่แหละ เพราะฉะนั้น เราผู้ฟังทั้งหลาย จงหลบหลีกเอา รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง หลบได้หลบ ความชั่วทั้งหลาย ไม่ให้มาอยู่ในตัวของเรา กายก็ดี วาจาก็ดี ใจก็ดี ตัวเนี่ย ตัวที่สร้างกรรมใส่ตัวของเรา ให้ได้รับผลเป็นทุกข์ ถ้ากรรมดีอยู่ในตัว รักษาศีล กินทาน ภาวนา ทุกวัน มิได้ๆ มิได้เว้นเลย เอาอยู่อย่างงั้นความดีทั้งหลายตักตวงเอา ตักตวงเอา ได้แต่บุญ ได้แต่กุศล เข้ามาไว้ในหัวใจของเรา เป็นที่ระลึกของหัวใจอีกด้วย ระลึกถึงการกระทำบุญของเราเวลาไหน เราก็มีความสุข ยิ้มออกมาได้ เหมือนกันกับทำบาป ถ้าทำบาปไว้แล้ว ผลทำบาปให้ผลแก่เรา ถูกเขาฆ่า เขาตี ทรมานต่างๆ นานา หัวร้างข้างแตก เลือดตกยางออก จนสิ้นชีวิตไปก็มี ก็เพราะอำนาจของความชั่วนั่นแหละ มันเป็นไป ดลบันดาลให้เป็นไป
กัมมัง สัตเต วิภะชะติ
เพิ่นว่ากรรม การกระทำนั่นแหละให้ผล ให้ผลในชาติปัจจุบันนี้ด้วย แล้ว ตายไปแล้ว นำไปทุกข์ทรมานอยู่ในนรกอีกเท่าไหร่ล่ะ นับไม่ถ้วน แล้วแต่กรรมของเราทำ ชั่วมากก็ได้รับผลบาปมาก ถ้าเราทำกรรมดีอยู่ รักษาศีล กินทาน ภาวนาอยู่ มิได้ขาด จิตใจผ่องใสอยู่ตลอด นั่งก็เป็นสุข นอนก็เป็นสุข ทำการทำงานก็ยิ้ม แม้แต่ตากแดด ตากฝน ขนาดไหนก็ยิ้มสู้ เพราะเราไม่มีกรรมชั่วมาดลบันดาลหัวใจเรา หากกรรมชั่วมาดลบันดาลหัวใจเราให้ประพฤติอย่างนั้น เป็นโจร เป็นผู้ร้าย ฆ่าเจ้าเอาของ ถ้าทำอย่างงั้น มันจะยิ้มอยู่ได้หรือเปล่า ถ้าเขาจับตัวได้ไล่ตัวทัน จะยิ้มออกหรือเปล่า ถูกมัดเสาไพล่หลังไปรัด เอาตรวน เอาโซ่มาใส่คอ ใส่ขาบ้าง แล้วก็เดินไปก็ลำบาก จะยิ้มสักหน่อยก็ไม่ได้ล่ะปะเนี่ย ยิ้มไม่ได้หรอก หน้าถมึงทึง หน้าบูดบึ้ง บูดเบี้ยว เพราะการเจ็บปวดรวดร้าว ถูกเขาตี หัวร้างข้างแตก เป็นแผลเหวอะหวะไปทั้งตัว จะยิ้มออกไหม นั่น และก็บาปให้โทษ
กัมมัง สัตเต วิภะชะติ
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามอำนาจของกรรม ของการกระทำถ้าทำดีผลกรรมดีให้เสวย ได้รับความสุข นั่งเป็นสุข นอนเป็นสุข ไปมาหาเพื่อนหาฝูง ก็มีคนยินดีต้อนรับขับสู้ เลี้ยงดูให้อิ่มหนำสำราญ ไม่ได้ถูกทรมานทรกรรมอย่างใดเลย แน่ะ มันเป็น อย่างเนี่ยให้ผลต่างกันนะ ทำดีๆ ทำรักษาศีล กินทาน ภาวนา นั่งสมาธิทุกวันๆ แล้วใครจะไปทำบาปกรรมกับคน คนนั้นได้ไหม ไม่มีใครทำเลย มีแต่ยกมือท่วมหัว โมทนาสาธุการ ได้ยินข่าวว่าได้เลื่อนยศ เลื่อนศักดิ์สูงขึ้นไปโดยลำดับ ทำราชการงานเมืองก็บริสุทธิ์สะอาด ไม่มีด่างพร้อยตรงไหนเลย มีคนยื่นมือมารับ ช่วยเหลือ อย่างนี้ก็มี
อีคนที่ทำกรรมหนักรุนแรง ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ลักตบจกฉ้อ ปล้นจี้อะไรเหล่านั้น มีใครจะยื่นมือเข้าไปรับไหม ไม่มี จะเสียเงินเสียทองเท่าไหร่ มีคนยื่นมือไปรับไหม ไม่มี ไม่มีใครจะรับให้ เพราะว่าทำบาปทำกรรมแท้ๆ แต่ว่าพ่อกับแม่ไม่ทอดทิ้งนะ ถ้าหากลูกถูกเขาฆ่า เขาตีขนาดนั้น ถูกจะตัดสินประหารชีวิต เขาก็เอาอกเอาใจหาอาหารดีๆ มาให้ทาน หาอะไรมาให้รับประทาน แม้จะมีคำสั่งอะไร จะเขียนหาใคร หาใคร เขียนได้ เอากระดาษ ปากกา ดินสอ มาใส่มือให้ จะสั่งถึงใคร อ่ะ เขามีนิทานอยู่หลายเรื่องหลายราว มีลูกชายคนหนึ่งเป็นโจรร้าย ฆ่าเจ้าหน้าที่ตาย อ้า เขาเอากระดาษมาใส่มือให้เขียนจดหมายถึงใคร เขียนถึงแฟนเหรอ เขียนถึงภรรยาเหรอ ไม่เลย ไม่ได้เขียนหา ภรรยาไม่มีแล้ว ทิ้งกันแล้ว นานแล้ว ถ้าอย่างนั้น เธอหรือว่าคุณเขียนถึงใครล่ะ เขียนถึงแม่ มีแม่คนเดียวเท่านั้นเอาใจช่วย เอาทุกอย่าง อ่านข้อความก็ได้ข้อความอย่างที่สั่งน้องๆ ไปหา ฝากน้องๆ ด้วย อย่าให้น้องๆ ทั้งหลาย ทำอย่างข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าได้ทำกรรมหยาบช้าทารุณมากถึงได้รับกรรม เพราะฉะนั้น วันพรุ่งนี้เขาจะเอาเข้าหลักประหาร หรือว่ายิงเป้า จะตายวันพรุ่งนี้แหละ
เพราะฉะนั้น มีโอกาสเขียนหนังสือหาแม่ อ่ะ ให้แม่เมตตา แน่นอนผู้อื่นไม่กล้ามา ไม่กล้ามาร่วมงานอย่างนี้เลย อ้า มีแต่เขายกมือสาธุการ โอ้ย คนคนนี้มันเดือดร้อน อยู่บ้านไหน อยู่เมืองไหน ตำบลไหน อำเภอไหน ก็ทำความเดือดร้อนให้แก่หมู่คณะประชาชนทั่วไป
ไม่เคยไว้เนื้อเชื่อใจผู้ใดเลย เป็นคนทำผิด ทางกายก็ทำผิด ทางวาจาก็ทำผิด ทางใจก็ทำผิด อยู่อย่างนั้น ไม่มีความดีเลย เพราะฉะนั้น เขาจะต้องตัดสินใจ ตัดสินใจประหารข้าพเจ้า ในวันพรุ่งนี้
ขอให้บอกน้องๆ ด้วยเน้อ อย่าดันทำอย่างผม อย่าทำอย่างข้าพเจ้า วันนี้ได้รับผลของกรรมแล้ว จะก้มหน้าก้มตารับผลของกรรมไป ถึงเวลาประหารแล้วเขาก็เอาไปใส่หลักประหาร ยิงเป้าซะ ตายเลย มีแม่คนเดียวเท่านั้นแหละมา มารับศพของลูกกลับไปทำฌาปนกิจให้ที่บ้านอย่างสมเกียรติเท่าที่มี จะทำให้สมเกียรติกับลูกชาย เขาเป็นคนดีอยู่สมัยก่อน แต่มัน เขาไปคบค้าสมาคมกับพวกโจร พวกคนร้ายทั้งหลาย เขาจึงได้รับผลขนาดนี้ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าไม่เสียใจหรอกน่ะ แต่เขาตายแล้วคงจะไปสู่สุคติน่ะ พ่อแม่ทำให้แล้วปะเนี่ย ดังนี้เป็นตัวอย่าง คนอื่นไม่กล้ามารับศพ เพราะว่ามันๆ เป็นโจรร้าย เป็นผู้ร้าย ฆ่าคนเท่าไหร่ ปล้นสิ่งปล้นของเขา เท่าไหร่ อ้า นับไม่ถ้วน เพราะฉะนั้น ทางการทางกฎหมายจึงตัดสินประหารลูกเดียว ให้ประหารลูกเดียว คนคนนี้มีโทษติดตัว มากมายจนนับไม่ถ้วน คดี คดีดังๆ นับไม่ถ้วน ก่อความวุ่นวายแก่ชาติบ้านเมืองของตัวก็มี เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถูกเขา ยิงตำรวจ ตายแน่ะ มันผิดร้ายแรงไหม ต่อสู้กันก็สู้เขาไม่ไหว ตัวเองหกล้มไปเขาก็ตะครุบเลย จับมัดเสาไพล่หลังจูงรั้งย่างเข้าตะแลงแกงเลย อ่ะ แล้วก็ตัดสินความว่า มีประหารอย่างเดียว โทษอย่างงี้มีประหารอย่างเดียว
แม่ไม่รู้จะว่า จะว่ายังไง ทิ้งก็ไม่ได้ ลูกในท้องในไส้ของเรา เราจะต้องบากหน้าบากตา ไปรับเอาศพของลูก เวลาเขาประหารเสร็จแล้ว ก็รับเอาแล้วก็หารถหาลามาบรรทุกเอาร่างกายที่ปราศจากวิญญาณแล้วนั้น ตายแล้ว เอาไปบ้าน ไปทำบุญให้ เขาไม่เคยทำบุญสุนทานอะไร ก็อาจจะแบ่งเบา ให้ได้รับโทษเบาๆ หน่อย แม่มาทำบุญสุนทานถวายสังฆทาน ถวายผ้าป่า มหากฐินอะไรให้อย่างดีล่ะ ไม่รังเกียจลูก ลูกถึงจะประพฤติยังไงๆ แม่ก็บากหน้ามารับธุระภาระ อย่างหน้าตาเฉยล่ะ เออ ใครล่ะจะสามารถจะเอื้อมมือ แบมือไปรับเอาอย่างงั้นไม่มีใครหรอก มีแต่แม่ พระคุณของแม่อย่างว่าเหลือล้นพ้นประมาณ
พ่อแม่นี้หนักเกิ่งธรณี ไผผู้ยำแยงนบหากเจริญเมื่อหน้า
ถ้าฝ่าฝืนคำของพ่อของแม่ ได้รับโทษหนัก อืม ถ้าปฏิบัติตามคำสั่งคำสอนของพ่อของแม่ อยู่ในสนับบังคับกฎหมายบ้านเมือง ไม่ได้ล่วงเกินเลย ใครๆ ก็ยื่นมือรับเอาได้ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้เห็นได้ชัด ขอให้ทุกคนใส่ใจไว้ สิ่งใดมันผิดกฎหมายร้ายแรง อย่าไปริเริ่ม กระทำบำเพ็ญมันเลยอย่างงั้นน่ะ หากกรรมอันใด ทำด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี เอาแต่บริสุทธิ์ๆ ผุดผ่อง เพิ่นก็บอกว่า
สีเลนะ สุคะติง ยันติ
เพิ่นม้วน(สรุป)ไว้ให้
สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัส๎มา ฯ
เพราะเหตุดังนั้น เราท่านทั้งหลายผู้ได้ยินได้ฟัง คำของพระสวด ของพระเทศน์ให้ฟังอยู่ทุกวันสัปดาห์ ทุกวันพระ ท่านก็เทศน์ให้ฟังอยู่เรื่อยๆ เราอย่าได้ฝ่าฝืน ถ้าฝ่าฝืนแล้วมันไปทางทำ จับไม่อยู่ เอามือไปจับไปก่อน แล้วก็ลุยไปเลยๆ อ่ะ อ้า มีนิทานเรื่องหนึ่ง อ้า ในธรรมบทหรือในไหนบอกไว้ว่า
พ่อของตัวทำบาปกรรมมามากแล้ว ลูกสาวตายไปแล้ว ไปเกิดเป็นภรรยายมบาล จะไปคอยช่วยเหลือพ่อ ให้พ่อหลุดจากกรรมหนักบ้าง นั่งคอย มาแล้วๆๆ นั่นมาแล้วๆ นั่งคอย อ๋อ คำเดียวเท่านั้นแหละ สลบนิ่งเลย จับไว้ก็ไม่อยู่ จับมือก็มือขาด จับขาก็ขาขาด แขน(หลุด)ลุ่ยลงนรกเลย จำอยู่ในนรกเลย แอ่ะ ใครเป็นลูกเป็นเต้า ลูกในไส้ปานไหนก็ตาม ไปช่วยไม่ได้ คนทำบาปหนาสาโหดแล้วเหรอ ต้องตกนรกอย่างเดียว ตกนรกหมกไหม้อย่างเดียว ถูกเขาลงโทษอย่างสาหัสสากรรจ์ น่าเสียวสยองจัง อะเฮอะ อันนี้เป็นเรื่องเล่ามาในตำรับตำรา
เพิ่นเล่ามาให้ฟัง บุคคลผู้ทำดี มีราชรถลงมาเกย ยายคนนั้น เป็นคนถือศีลกินเจ ถือศีลกินเพล ไม่ได้ทำบาปทำกรรมใดๆ เลย พูดกับลูกกับเต้ามีตั้งแต่ธรรมะธัมโม อ้า เพราะฉะนั้น ขอให้ทุกคนเอามาเป็นตัวอย่าง ไม่มีใครจะลงโทษได้เลย เฒ่าแล้ว แก่แล้ว โอ้ย เขามารับแล้วอ่ะ พู้น(โน้น)เจ้านายเขามารับแล้ว เอาราชรถมาเกยคอย ขอให้ข้าพเจ้าได้สั่งเสียลูกเต้าทุกคนซะก่อน จึงจะไปได้ ขออนุญาตหน่อยเดียวได้ไหม ได้ๆๆ ก็เรียกลูกเรียกเต้ามารวมกันหัวกัน แม่คงจะไม่สู่ ไปสู่ทุคติหรอก คงจะไปสู่สุคติ นั่น รถจอดอยู่นั่นน่ะรถ มาจากสวรรค์ ลงมารับเอาแม่ แม่จะต้องลาลูกลาเต้า ให้ศีล ให้พร กับลูกของตัวทุกคน ในครอบในครัวของเรา มีกี่คนมาหมดแล้วก็เลยเล่าให้ฟัง เป็นอย่างงั้นๆ แม่ถือศีล ถือธรรม มาตั้งแต่วันรู้เดียงสา เพราะฉะนั้น บุญมีจริงๆ ไปไหนๆ มีแต่คนเลี้ยงคนดู อ่ะ เวลานี้รถ ราชรถมาเกยแล้ว มาคอยเรา เราขอสั่งเสียลูกหลานซะก่อน มาหมดทุกคนแล้วเหรอ มาหมดทุกคนแล้วก็บอกลูกบอกเต้า อ่ะ
เรื่องไร่นาสาโท มันเป็นของหามาได้หรอก หาเอา ทำเอา ถ้าขยันก็ได้นากว้างๆ ได้สวนกว้างๆ ได้ทรัพย์สมบัติมากมาย ถ้าขี้เกียจขี้คร้าน นั่งงอมืองอเท้าอยู่ ราชรถจะมารับไปไหนนู้นคนอย่างงั้น
นี่มาจากสวรรค์เลย แต่งตัว อ้า เรียกว่าเจ้าหน้าที่ผู้มารับ แต่งตัวนุ่งขาวห่มขาวกันหมด เออ มารับ เอาล่ะ เอาๆ น้ำมาให้แม่กินแน่ะ แม่คอแห้งแล้ว เอาน้ำมาให้กิน กินได้ มันแข็งอยู่ในคอเนี่ย มันสิ วิปโยคโศกสันต์เกิดขึ้นมา ทำให้คอตันคอเติ่น กินเข้าไป กินเข้าไป กลืนก็ไม่ลง แล้วก็สำลัก สำลักน้ำ กั๊กๆๆๆๆ ปั๊ดไปเลย ไปพร้อมกับกินน้ำนั่นแหละ ตายแล้วเขาก็เลย จัดการใส่หีบใส่เหิบ บำเพ็ญกุศลตามประเพณี อันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีอันหนึ่ง เหมือนกัน อย่าให้โวยๆ
วายๆ ใดๆ ทั้งนั้น เพราะกินน้ำเฉยๆ กินน้ำ น้ำไม่ได้พา มาเอา กั๊กๆๆๆๆ สำลักน้ำหรืออะไร เลยหมดลมเวลานั้นเลยนั่น แน่นอนที่สุด เขาก็เอาไปใส่รถ ใส่รถพาไป พาไปเทวโลกนะ ไม่ได้พาไปในนรกหรอก ไปเทวโลก ไปสวรรค์ ชั้นไหนพู้น(โน้น)น่ะ แอ่ะ แน่มันผิดกันอย่างงี้ การทำคุณงามความดี ให้ติดในขันธสันดานของตนจริงๆ อย่าให้บาปมาแปดเปื้อนได้ เอาจนเฒ่า จนแก่ อายุจะเข้าร้อยไปแล้ว เขาจัดรถมารับ จึงได้เห็นเป็นเต็มหูเต็มตา มารับแล้ว ขอไว้ก่อน คนนั้น ยังไม่มา คนนี้ยังไม่มา ลูกทั้งหลายแม่ได้สั่งลูกทุกคนซะก่อน มาพร้อมหน้าแล้วเหรอ ก็เลยสั่งเสียกับลูก เทวดาเอารถมารับแม่แล้ว เพราะฉะนั้น แม่จึงต้องขอลาลูกๆ หลานๆ ทั้งหลาย อย่าได้ทำกรรมชั่วช้าลามกใดๆ ทั้งนั้น ทำแต่กรรมดี อย่างแม่เคยประพฤติให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว ทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว เนี่ยเวลาตาย ราชรถมาเกยเอาอย่างเนี่ย เนี่ย แต่คนอื่นไม่เห็นนะ แต่ยายมองเห็นราชรถมารออยู่ พอสิ้นลมแล้วเขาก็เอาไปเลย เอาไปเลย เอาไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านตัวเองถึงที่ไหน
เพราะฉะนั้น กรรมมีจริง ทำบาปเป็นบาปจริง ทำบุญเป็นบุญจริง เพียงแต่ศีล ๕ บริสุทธิ์แค่นั้น ก็มีรถมารับเหมือนกัน มียานพาหนะ ไม่มีม้ามีวัวหรอก รถทิพย์ รถอะไร มารับเอาขึ้นรถไปเลยน่ะ ตายแล้ว แล้วเขาจะเอาไปไหนก็ไม่รู้แล้วตอนนั้น เขาคงเอาไปสู่บุญ กองบุญกุศล เคยทอดกฐินทุกปี เคยทำผ้าป่ามหากฐิน ไม่ได้หยุดอยู่เลย ทำอยู่อย่างงั้น ตั้งแต่ร่างกายสุขภาพแข็งแรง ทำแต่คุณงามความดี สงเคราะห์สงหา คนยากคนจน กำพร้าอนาถา เห็นแล้วทนไม่ไหว ต้องเอาเศษ จับเอาใส่ตีน ใส่มือให้ อันนี้เอาไปซื้อข้าวซื้อปลาอาหาร เลี้ยงลูกเด้อ เออ คนที่ได้รับความเมตตาอย่างงั้นก็ ยกมือสาธุการ อ่ะ ในที่สุดก็หมดลม หมดลมซะแล้ว เดี๋ยวนี้เราอยู่กันทุกวันนี้ อยู่ด้วยลม มีเลือด มีลม เลี้ยงหัวใจเรามา ถ้าลมหมดก็ชื่อว่าหมดชีวิต ชีวิตหมดแล้ว หมดแค่นี้ แหละ มีอะไรจะสั่งจะเสีย ญาติพี่น้องลูกหลาน ก็สั่งได้ตอนนั้น เขาให้เวลา เท่าไหร่นาที ให้สั่งเสียทุกคนๆ ซะก่อน ไปสุคติหรอกไม่ต้องเป็นห่วง อ่ะ ส่วนศพนี่ก็มอบให้ อ่ะ เจ้าภาพจัดการตามประเพณีมีการฝัง มีการเผา คงจะเผาเรียบร้อยนะ
พระอริยะเจ้าท่าน เผาแล้วกระดูกไฟก็ไหม้หมด แล้วก็รวมกันเป็นพระธาตุ เป็นก้อนๆๆๆ ขึ้นมาเลย เวลาเพิ่นเก็บดูก(กระดูก)จะเห็นนะ เห็นกระดูกของคุณพ่อนั้น คุณตานี้ กลายเป็นพระธาตุขึ้นมาน่าอัศจรรย์จริง โอ้ย อ้า พวกเราจะแบ่งกันไหม เออ ถ้าแบ่งกันก็ เอาเลือกเอา คนละสมมาพาควร(ความพอดี) นอกนั้นก็ไปก่อเจดีย์ไว้ให้ บรรจุไว้ให้ลูกหลานได้กราบได้ไหว้ อ้า มันเป็นไปได้ขนาดนั้นน่ะ อ่ะ ครูบาอาจารย์ก็เหมือนกัน ครูบาอาจารย์ผู้ที่ท่านบริสุทธิ์ผุดผ่องจริงๆ ตั้งแต่ไม่ทันตาย ผมของท่านก็กลายเป็นก้อนขึ้นมา ผมของท่านนั้นน่ะ เขาโกนเขานะออก จกไปๆ เกิดเป็นก้อนๆๆๆ แบ่งไว้เท่าๆ กัน อ่ะ อย่างนี้ ก็มี
ผู้ที่ถือศีลกินเพล จำศีลภาวนาจริงๆ เอาจริงเอาจัง ผมของ ตัวเองก็ไม่เสียหาย กระดูกทั้งหลายก็กลายเป็นพระธาตุขึ้นมา ได้แจกลูกแจกหลานไปหมด หรือว่าผู้มีบุญกุศลติดตัวอยู่ของเพิ่น อันนี้ของเพิ่นไม่ใช่ของเรา เราก็จะทำให้ดูก(กระดูก)ของเราเป็นพระธาตุอย่างนี้แหละ อ่ะ รักษาให้บริสุทธิ์ ศีลบริสุทธิ์ จิตใจสงบบริสุทธิ์ ไม่ฟุ้งซ่านไม่รำคาญ ไม่เคยกระทบ เบียดเสียดสี ผู้หนึ่งผู้ใดเลย วาจาก็บริสุทธิ์ จิตใจก็บริสุทธิ์ แล้วก็เป็นคนบริสุทธิ์ไปหมดทุกอย่าง แม้กระดูกก็กลายเป็นพระธาตุ ขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้น พวกเราทุกคนมีจิตใจกันทุกคน ให้ทำใจเข้มแข็งเข้า ขะมักเขม้น ทำคุณงามความดีใส่ตัวให้มากๆ อย่าไปทำเฉยๆ ยกแต่มือกับผู้อื่นท่านเฉยๆ ตัวเองแหนะได้ทำไม แอ่ะ ได้ตักบาตร ได้จังหัน ได้ขันหมาก เลี้ยงเช้า เลี้ยงเพล กับพระเจ้าพระสงฆ์ไหม ได้ทำอะไรเต็มภาคภูมิใจไหม เจตนาไม่บกพร่อง เจตนาในทางดีไม่บกพร่อง ก็จะเกิดมหัศจรรย์ขึ้นมา แม้แต่ผมก็ไม่เสีย พันกันเข้าเป็นก้อนๆๆๆ แจกไว้ให้ลูกให้หลานเอาไป อ่ะ กระดูกก็เหมือนกัน เผาเสร็จแล้วก็เป็นสารีริกธาตุขึ้นมา เห็นได้ชัดมาหลายองค์แล้ว
ครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทั้งหลาย เป็นพระธาตุกันไปหมด นี่เป็นสักขีพยานฝ่ายดี สักขีพยานฝ่ายชั่ว ตายไปจะเป็นอะไรให้หรือเปล่า อ้า เป็นพระธาตุให้หรือเปล่า มีแต่ตายแล้วเขา สาธุนั่นแหละ ตายแล้วก็เบาใจ ในบ้านของเราไม่มีเสี้ยน ไม่มีหนาม ที่จะมาก่อกวนบ้านเมืองอีกแล้ว เขาตายแล้วจริงๆ เขาอาจจะแช่งชักหักกระดูกหรือเปล่า หรือเขาโมทนาอยู่น่ะ ถ้าทำดีแหละมีคนโมทนา นับหน้าถือตา เคารพกราบไหว้ อ้า อันนี้เป็นความจริง ถ้าทำคุณงามความดี นั่งสมาธิภาวนาทุกวัน ใจรวมทุกวัน ใจรวมเป็นหนึ่งทุกวันๆ เป็น
เอกัคคตารมณ์
ทุกวันๆ มีความสุขตั้งแต่ยังไม่ตาย ยังใจ ยังหายใจได้อยู่ แต่ว่ามันไม่รู้สึกตัวตอนวิญญาณออกจากร่างแล้วไม่รู้ มีแต่กระดูกเฉยๆ นั่งอยู่ สบายอยู่อย่างงั้นๆ ไม่มีทุกข์มีร้อนอะไรเลย สบาย นี่ ผู้ที่ไปสุคติ ไปสู่สุคติแน่นอน ผู้ที่ทำความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น เวลาจะตายแล้วร้องโวยวายๆ ดิ้นทุรนทุราย ใครเคย ตัวตนเคยๆ ตอนหมู ตอนวัว ตอนควาย ปาดคอเป็ด ปาดคอไก่เหล่านั้น เอามาเป็นอาหารเลี้ยงตัวเอง อ่ะ มันจะเป็นยังไงมารับล่ะ เวลา อ้า บุญกุศลเราหมดแค่นี้ ลมหายใจเราหมดแค่นี้ ส่วนกระดูกมันจะตกไปที่ไหน โว้ มันมีเข้าเป็นก้อน เหมือนผู้สำเร็จแล้วหรือยัง มันจะเป็นไปเหมือนดังครูบาอาจารย์ ผู้เป็น กระดูกเป็นพระธาตุหรือยัง อ้า เพราะฉะนั้น คำพูดอันนี้ เป็นสาธารณะ เพื่อให้ได้ยินทุกคน ยึดเอาไปประพฤติปฏิบัติ เคร่งครัดอย่าย่อหย่อน อย่างกะเรื่องรักษาศีลก็เอาจริงเอาจังกับการรักษาศีล การทำบุญให้ทาน ตักบาตรจังหันเหล่านั้น เราทำอยู่ต่อเนื่อง ไม่ได้ขาดตกบกพร่องเลย ทำอยู่ด้วยเจตนาอันผ่องใส เสมอ เสมอ เวลาดับจิตแล้ว จิตมันดับหมดลมหายใจแล้ว ยังไม่ได้สั่งผู้หนึ่งผู้ใดเลย เพิ่นไปก่อนซะแล้ว อ้า ให้ดูเอาเป็นตัวอย่าง คนคนนั้นไปสู่สุข สุคติแน่นอน อ้า เรานั่งอยู่นี่ผู้มีบารมีมากก็มี ผู้มีบารมีน้อยก็มี อย่าท้อถอยน่ะ อย่าท้อถอย หลวงปู่ไปอยู่ป่ามีนกน้อยๆ ร้องให้ฟัง อย่าท้อถอย อย่าท้อถอย อยู่อย่างงั้นแหละ เอาอยู่อย่างนั้นแหละ
อย่าท้อถอย อย่าท้อถอย
เสียงงั้นแหละ มันบอก เรานั่งสมาธิภาวนา ปวดหลัง ปวดเอวมา อ้า มันยังร้องอย่าท้อถอย อย่าท้อถอย อ่ะ
คิดแล้วคิด คิดแล้วคิด
คิดแล้วคิดอีก คิดแล้วคิดอีก
อยู่อย่างงั้นน่ะ นกมันเตือน มันเตือน ให้คิดคักๆ คิดคักๆ คิดดีๆ หวีให้เกลี้ยงเสียแล้ว จั่ง(จึง)ค่อยเดี่ยง(จัดแต่ง)เด้อ อย่าเฮ็ด(ทำ)อี่มะลุยซุยฮึม อี่มะลึ่มซึ่มซึ อี่มะลึ่มจึ้มจึ อี่มะหล่องจ้องจั๋ง
อย่าเอาบาปมาอ้าง ว่าเราจะทำบุญครั้งนี้ใหญ่โตเหลือเกิน เลี้ยงคนเป็นร้อยๆ เป็นพันๆ คิดหาอาหารที่บริสุทธิ์ยังไม่ทัน ก็จะเอาหมูมาเชือดซะบ้าง เอาไก่มาเชือด เอาเป็ดมาเชือดซะบ้าง อ้า มันคิดไม่ออก มันจะไม่ทันงานทันการ อย่ามักง่าย อย่าเห็นนึกแก่ปากแก่ท้อง เอาให้ตายก็ตาย ยอมตาย เราจะไม่ทำบาป เราจะไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เราจะไม่เอาของผู้อื่นมาเป็นของตัว ให้เด็ดขาดลงไปเรื่องศีลของเรา อ้า ศีลธรรมพา นำพาไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์แน่นอน ผู้ใดยังเบียดเบียนเขาอยู่ ปาดคอเขาอยู่ หักแข้งหักขาเขาอยู่ ทุบหัวเขาอยู่ ตายดิ้นพราดๆๆๆๆ อย่างงั้น มันให้ผล เวลาให้ผล ให้ผลอย่างน่าเสียวไส้เหลือเกินนะ เสียวใจเหลือเกิน เวลาให้ผลแล้ว ถูกเขาฆ่าเขาตี ตายสดๆ แดงๆ บางทีก็น้ำเดือดๆ เอาลงใส่น้ำเลย พอลงในน้ำ มันลอยมันก็ดิ้น แตร็ดๆ อยู่นั้น ๒ ๓ ที ดิ้นได้แค่นั้นแหละ แล้วก็หมดใจ จิตมันออกจากร่างจากกายแล้วมันก็ตาย ถ้าหากเราไม่ระลึกถึงความทุกข์ของเขา เห็นแต่ความสุขจะอิ่มท้องอย่างเดียว มีเหล้ามาแกล้มสักหน่อย โอ้ย มันสนุกจริงๆ โว้ย เอาเหล้ากินกับลาบเป็ด ลาบไก่ ลาบหมู ลาบวัว ลาบควาย โอ้ย มันอร่อยจริงๆ แต่เวลาพอตาย ใครเล่าช่วยเหลือเขามีไหม ไม่มี ไม่มีใครเมตตาปรานีหรอก ตายกินกับเขา อ่ะ นั่น เห็นแต่แก่ปากแก่ท้อง ส่วนบาปกรรมที่จะสนองเราให้ไปสู่ทุคติ มีใครช่วยหรือเปล่าอ่ะ ไม่มีใครช่วย เพราะฉะนั้น เราต้องช่วยตัวเอง ทุกคนๆ ช่วยตัวเอง อย่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อย่าเบียดเบียน พี่ป้าน้าอาที่ไหน อ้า อย่าลักฉกจกฉ้อ อ้า เอาสิ่งเอาของผู้อื่นมาเป็นของตัว มันไม่บริสุทธิ์ ต้องหากินบริสุทธิ์ สิ่งที่บริสุทธิ์แล้วจริงๆ เขาตายแล้วจึงมาชำแหละ ปับ เป็นชิ้นเป็นอัน ราดปับเลย ทำให้มันสุกซะก่อนน่ะ แล้วจึงค่อยกิน อย่าไปกินดิบๆ แดงๆ มันเป็นอานิสงส์ มันจะไปเป็นยักษ์ เป็นมารกินของดิบๆ แดงๆ ครูบาอาจารย์ผู้บวชแล้วทั้งหลาย เพิ่นไม่ได้กินหรอก อย่างลาบเลือด ลาบอะไรไม่กินหรอก อ่ะ ไม่มี ไม่มีแดงๆ กลืนๆ มา ถ้ามีมาอย่างงั้นเมื่อไหร่ ให้เขาคั่วให้ซะก่อน ไปคั่วใส่กระทะ ให้มันสุกดีๆ ซะก่อนถึงเอามา มันไม่พออะไรก็เพิ่มเข้าไป นี่ของตายแล้ว เราจะทำยังไงๆ ไม่เป็นไรหรอก
เขาตายแล้ว เขาละแล้วสังขาร เขาทิ้งแล้วร่างกายของเขา เราเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เราก็เลือกเอาสิ เออ อย่าไปทำตามอำนาจกิเลส ให้เลิก ให้ละไป ให้เบา ให้บางไป อย่างนี้อายุของเราเข้าปูนคนชราแล้ว ๕๐ กว่าไปแล้ว ๖๐ กว่าไปแล้ว ๗๐ ๘๐ กว่าไปแล้ว เลิกให้ได้ๆ
อย่าเบียดเบียนเขาอีกเป็นอันขาด ถ้าเราบ่ตาย กินอะไรเราก็ไม่ว่าอะไร เขาให้กินอะไรก็กินทั้งนั้นแหละ เออ อย่าไปบ่น จุกจิกจู้จี้ อ่ะ ว่าเขายังไม่ตาย เราก็ไม่ได้เนื้อเขามากินหรอก เขาตายซะก่อน เขานั่นซะก่อน ทุกวันนี้สบายมาก ตามตลาดมีทั้งของสด มีทั้งของแห้ง มีทุกอย่าง เขาเอามาจ่ายอยู่ตามตลาด เรามีเงินมีทองก็ไปดูแลกับเขา ซื้อเอาของที่ตายแล้ว มาเลี้ยงชีวิตและครอบครัว อ้า อย่าให้ความเดือดร้อนเกิดขึ้นกับผู้อื่นเขา เนี่ยตั้งใจให้แน่วแน่ อย่าไปมักง่าย อ่ะ ให้มันได้บริสุทธิ์ผุดผ่อง อ้า อะไรมันบริสุทธิ์แล้วมันก็เป็นบุญเป็นกุศล แม้ถ้วยจานที่จะใส่อาหาร มาถวายพระถวายเจ้าเหล่านั้น คนที่ต้องการบริสุทธิ์ผุดผ่องจริงๆ ถ้ามันสกปรกอยู่ไม่เอา เอาไปล้างใหม่เช็ดใหม่ให้อ่ลองฉ่องซะก่อน อ้า จึงออกมาบรรจุอาหารการฉัน ไปถวายพระ ถ้ามันสกปรกอยู่ เพิ่นว่ามันมีอานิสงส์นะ เอาของสกปรกไปทำบุญทำทาน เวลาได้ลูกมา ขี้ตา ลืมตาไม่ขึ้น ขี้ตาติดต่อน(ก้อน) อ้า มีแต่ขี้ตา ขี้หู ขี้ตา ได้ลูกเต้ามาก็ไม่เกลี้ยงไม่หมื่น(ลื่น)เหมือนเขา ไม่น่ารักเลย เพราะฉะนั้น ต้องทำให้อล่องฉ่องซะก่อน ให้สะอาดสะอ้านซะก่อน อ้า
บาย(จับ)ของทาน ให้ส่วย(ล้าง)สีสรงล้าง
ยามเมื่อทำครัวเข้ามวยผมอย่าให้ขี่
นุ่งสิ้นหมี่ให้เรียบร้อยเสียแล้วจึงค่อยจอย จึงค่อยทำเด้อ
จะเห็นอี่มะลุยซุยฮึม อี่มะลึ่มซึ่มซึ อี่มะลึ่มจึ้มจึ อี่มะหล่อง จ้องจั๋ง เฮ็ด(ทำ)มักง่าย ไปได้ก็เอาเลย ไม่ต้องล้างต้องนั่นแหละ อ้าว ต้องให้มันอล่องฉ่องเอาไว้ ซึ่งทานของเราให้มันสะอาดเอาไว้ อย่าให้มันสกปรก ถ้าสกปรกมันเป็นโทษ อ่า ได้ลูกมาก็ไม่เหมือนเขา ไม่เกลี้ยงไม่หมื่น(ลื่น)เหมือนเขา ขี้หู ขี้ตา เต็มไปหมด แม้แต่ตัวก็เป็นไปแท้ที่สุดก็เป็นไปฮอด(ถึง) ทรัพย์สมบัติของตัว เออ เป็นเป็ด เป็นไก่ ก็ไก่ตาตุม เป็นวัว เป็นควาย ก็เป็นควายไม่สมบรูณ์ อ้า ได้ของมาใช้สอยเป็นสมบัติของเราก็ได้ของไม่ดี ถ้าเราทำดีๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง อล่องฉ่องหรือว่าสะอาดหมดจด แล้วจึงยกไป
ทานัง เม ปะริสุทธัง
หรือว่า
อิมานิ มะยัง ภันเต, ภัตตานิ,
ปังสุกูละจิวะรานิ, สะปะริวารานิ, ฯ
ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง,
ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ.
เนี่ย ยกไปถวายพระเจ้าพระสงฆ์ พระเจ้าพระสงฆ์เพิ่นก็ไม่กินคนเดียวหรอก เพิ่นรู้จักแบ่งจักปันกันไป บางส่วนให้ทั่วให้ถึงทุกคน นี่ที่แสดงมาเพื่อต้องการให้อุบาสก อุบาสิกา เข้าอก เข้าใจ เพื่อจะได้ประพฤติปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทำให้สะอาดสะอ้านสวยงามจริงๆ อย่าเอาชีวิตเขามาทำบุญ อย่าเอาชีวิตเขามาทรมาน ทรกรรม ทุบหัวทุบหางเขา ตายดิ้นพราดๆๆๆ แล้วก็ยังกลืนน้ำลายอยู่ เรายังอยากกินต้มกินแกงมัน อยากกินลาบ กินก้อยมัน ถ้าอย่างงั้นไม่คำนึงถึงชีวิตผู้อื่น เราเป็นผู้ปฏิบัติศีล ปฏิบัติธรรม
โอปะนะยิโก
ให้น้อมเข้ามาใส่ตัวทุกครั้งไป ทำอะไรลงไป มันบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ ถ้ามันไม่บริสุทธิ์ก็อย่ากระทำอีกต่อไป อย่างนี้เราไม่ทำ เราจะทำแต่ของบริสุทธิ์ผุดผ่อง สะอาดหมดจด อ้า เวลาได้ผลมา ก็ได้แต่ของสะอาดหมดจด อล่องฉ่อง ได้ลูกได้เต้ามา ก็น่ารัก น่ากอด อ้า ไม่มีขี้หู ขี้ตาเกลี้ยงป่องหล่อง อ่ะ สบายมาก
ดังที่แสดงมา เพื่อต้องการให้ท่านทั้งหลาย นำไปขบคิดพินิจพิจารณาด้วยปัญญาอันชาญฉลาดของตนๆ เองเถิด อัปปมาทธรรม ไม่มีความประมาท ตั้งอกตั้งใจ ทำอะไรเอาใจใส่ อ้า ให้มันสะอาดหมดจดซะก่อน อ่ะ จึงยกไป
ทานัง เม ปะริสุทธัง
ได้ ดังที่แสดงมา ก็ยุติปิดด้วยเวลา เอวังก็มีด้วยประการ
ฉะนี้
(สาธุ)
เอ้ มีกัณฑ์เทศน์ด้วยหรือเนี่ย เออ ถ้ารู้จักว่ามีกัณฑ์เทศน์ป่านนี้ยังไม่ลงเลย
(ถวายของ) อ้าว เอาขันมารองตรงนั้น เออ วางขันแล้ว เอาล่ะ เออ
(สาธุ)
เดี๋ยวๆ ดอกไม้เอาคืนเลย เอาคืนไปไหว้แม่ ไหว้พ่อเราเอาๆ ล่ะน่ะ ถ้าเอาหลวงปู่เอาไป มันก็แห้งเหี่ยวเฉยๆ อันนี่ก็เหมือนกันแหละ พวงมาลัยเนี่ย เอาซะ ผู้ใดมีพ่อมีแม่เอาเลย
เอาไปใส่ตู้ อันตู้กฐินมันอยู่ไหนหรือไงนี่ เอาไปรวมใส่ตู้กับเพิ่น เออ เงินจำพวกนี่เนี่ย เอามาทอดให้ เอาไปใส่ตู้ เอาไปใส่ตู้ ให้มันได้หลายๆ เป็นหมื่นแล้วบ่พอ เป็นแสนแล้วไม่พออีก เป็นล้าน ล้านก็เราไม่อยากพูดเท่าไหร่
เราหัวล้านอยู่แล้ว เออ
อาราธนาธรรม
พ๎รัห๎มา จะ โลกาธิปะตี, สะหัมปะติ,
กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ,
สันตีธะ สัตตาปปะระชักขะชาติกา,
เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง.
ท้าวสหัมบดีพรหม ผู้เป็นอธิบดีแห่งโลก
ได้ประคองอัญชลี ทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า
สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อยมีอยู่ในโลก
ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรมอนุเคราะห์ด้วยเถิด
โอวาทะปาฏิโมกขาทิปาโฐ
สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง
การไม่ทำบาปทั้งสิ้น
กุสะลัสสูปะสัมปะทา
การยังกุศลให้ถึงพร้อม
สะจิตตะปะริโยทะปะนัง
การทำจิตของตนให้ผ่องใส
เอตัง พุทธานะ สาสะนัง
นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
พ๎รัห๎มวิหารผรณา
บทแผ่อุเบกขาให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
กัมมัสสะกา มีกรรมเป็นของของตน
กัมมะทายาทา มีกรรมเป็นผู้ให้ผล
กัมมะโยนี มีกรรมเป็นแดนเกิด
กัมมะพันธู มีกรรมเป็นผู้ติดตาม
กัมมะปะฏิสะระณา มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ยัง กัมมัง กะริสสันติ จักทำกรรมอันใดไว้
กัล๎ยาณัง วา ปาปะกัง วา เป็นบุญหรือเป็นบาป
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ จักต้องเป็นทายาท
คือว่า จักต้องได้รับผลของกรรมนั้น สืบไป
อานิสงส์ของการรักษาศีล
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สิกขาบท ๕ เหล่านี้
สีเลนะ สุคะติง ยันติ
ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ถึงสุคติ
สีเลนะ โภคะสัมปะทา
ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ได้มาซึ่งโภคทรัพย์
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ
ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ได้ไปถึงนิพพาน
ตัส๎มา สีลัง วิโสธะเย
เพราะฉะนั้น ศีล จึงเป็นสิ่งที่วิเศษ
ถวายสังฆทาน
อิมานิ มะยัง ภันเต, ภัตตานิ,
ปังสุกูละจิวะรานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ,
โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ,
อิมานิ ภัตตานิ, ปังสุกูละจิวะรานิ, สะปะริวารานิ,
ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง,
ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ,
อิทัง เม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง โหตุ.
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวาย
ภัตตาหาร ผ้าบังสุกุลจีวร กับทั้งเครื่องบริวาร
ทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับ ภัตตาหาร
ผ้าบังสุกุลจีวร กับทั้งเครื่องบริวารทั้งหลายเหล่านี้
ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ และความสุข
แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตลอดกาลนานเทอญ
ทานของข้าพเจ้านี้ จงนำมาซึ่งความสิ้นอาสวะเทอญ
กัมมัง สัตเต วิภะชะติ
กรรมย่อมเป็นเครื่องจำแนกสัตว์
กัมมุนา วัตตะติ โลโก
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
เอกัคคตารมณ์
ความมีอารมณ์เป็นอันเดียว
โอปะนะยิโก
ควรน้อมเข้ามา
ทานัง เม ปะริสุทธัง
ทานของข้าพเจ้าบริสุทธิ์
อะยัมภะทันตา
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย
(บางแห่งใช้หมายถึง ทำแล้วได้รับผล ทันตาเห็น)
ม้วนท้าย [ม้วน-ท้าย] สรุป/ตอนสุดท้าย/ตอนจบ/
ท้ายๆ/ท้ายเรื่อง/อวสาน/สุดท้าย
เป็นคำเก่า พบมากในกลอนผญา
ผญา [ผะ-หยา] คำคม ภาษิตโบราณทางอีสาน
เป็นคำพูดที่ชาวไทยอีสาน ใช้พูดกันเพื่อแสดงถึงภูมิปัญญา
ความรู้ ความฉลาด ไหวพริบ ปรัชญา (ภาษาอีสานจะ
ออกเสียง ปร เป็น ผ จึงเป็น ผัชญา กลายเป็น ผญา)
สันนิษฐานที่มา
๑. จากคำสั่งสอนและศาสนา
๒. จากขนบธรรมเนียมประเพณี
๓. จากการเกี้ยวพาราสีของหนุ่มสาว
๔. จากการเล่นของเด็ก
๕. จากสภาพแวดล้อมหรือเหตุการณ์อื่นๆ ในวิถีชีวิต
แบ่งเป็นประเภท
๑. คำสอน เรียกว่า ผญาคำสอน ผญาภาษิต
๒. เกี้ยวพาราสี เรียกว่า ผญาเครือ ผญาย่อย
หรือผญาโต้ตอบ
๓. ปริศนา เรียกว่า ผญาปริศนา ผญาปัญหาภาษิต
๔. อวยพร เรียกว่า ผญาอวยพร
ผญา จึงเป็นวรรณกรรมมุขปาฐะที่มีบทบาทต่อสังคม
คนอีสานมาก เป็นเครื่องมือให้การศึกษาแก่คนในกลุ่มและ
ครอบครัว มีเอกลักษณ์ทางภาษาอีสาน จากรุ่นก่อนสู่รุ่นหลัง
มุขบาฐ [มุก-ขะ-บาด] มุขปาฐะ [มุก-ขะ-ปา-ถะ]
ข้อความที่ท่องจำบอกเล่าต่อๆ กันมาด้วยปากเปล่า
๓๔