หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
วันอังคารที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๐๐ น.
ณ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน)
Export-Import Bank of Thailand
(EXIM Bank)
อ้าว ไม่ต้องเทศน์ แต่พูดเล็กๆ น้อยๆ เอา
ไม่ต้องเทศน์ดอก อ้า เทศน์เดี๋ยวมันเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าแสดงธรรมมันเป็นเรื่องใหญ่ พูดธรรมะธัมโมกัน มันธรรมดานี่แหละ เรื่องไหนมันผิดธรรม มันก็ผิดหู ถ้ามันผิดหูผู้ฟัง มันเป็นกิเลสไม่ยอม กิเลสของเราไม่ยอม ไม่ยอมฟัง อ่ะ ถ้าพูดไม่ถูกใจก็ โน(No ไม่) โน(No ไม่) อืม ไม่ๆ ไม่แล้ว ไม่เอาแล้ว แท้ที่จริงแล้ว คนเราจะเจริญรุ่งเรืองได้ ก็เพราะการศึกษา ถ้าเราได้ศึกษา ทางโลกก็ดี ทางธรรมก็ดี ได้ศึกษาเข้าใจถ่องแท้แล้ว มั่นใจแล้ว การงานอันนั้นก็คล่องตัว
กัมมัง
เรียกว่าการงานนั่นล่ะ
กัมมัง
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
เนี่ยเพิ่นว่า การงาน ๑ ศีล ๑ เป็นการงานที่บริสุทธิ์ แล้วนำความสุขความเจริญมาให้ ว่าให้ผู้กระทำ ผู้บำเพ็ญ ถ้าเป็นงานบริสุทธิ์สะอาดแล้ว อ้า ก็เป็นของบริสุทธิ์ดี เลี้ยงชีวิตก็เป็นธรรม แม้จะเอาไปบำเพ็ญกุศลอะไรๆๆ ก็เกิดผลประโยชน์แก่ตัวเอง ผู้ที่เสียสละนั่นแหละ
กัมมัง วิชชา
มีวิชา มีความรู้ รู้จักว่ามันเป็นบาป มันเศร้า มันหมอง ถ้าวิชาที่ไม่บริสุทธิ์ มันเศร้า มันหมอง มันขุ่น มันมัว การจิตใจเศร้าหมองขุ่นมัว มันเกิดกิเลสปะเนี่ย เกิดกิเลสผิดอกผิดใจขึ้น ผิดหูขึ้น เออ ไม่เอา ไม่เอาแล้ว ลองอย่างนี้ไม่เอาแล้ว เนี่ยเรามา เออ ประชุมกันที่นี่ ก็แล้วแต่เป็นผู้ตั้งใจจริงมา จึงมาได้ ถ้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ก็มาไม่ได้ ติด ติดการติดงานอย่างอื่น ที่มาได้อย่างนี้ก็เป็นผู้เสียสละเวลาอันมีค่าของเรา มาทำประโยชน์ร่วมกันเพื่อส่วนรวม การทอดผ้าป่า อันนี้เป็นหลักอ่ะ การทอดผ้าป่าเพื่ออะไรถึงทอดผ้าป่า เพื่อพัฒนาศาสนวัตถุ ในทางศาสนา ศาสนวัตถุ ก็คือ เออ เสนาสนะ กุฏิ ศาลา อะไรเป็นเครื่องอุปกรณ์ในการใช้งาน ในวัดนั้น ในสถานที่แห่งนั้น ก็เป็น
สังฆัสสะ
เป็นของหมู่ของส่วนรวม อาศัยความพร้อมเพรียงของหมู่ จึงได้เกิดประโยชน์มหาศาลขึ้น ลูกหลานผู้ไม่ใคร่ไม่ครวญอะไรก็ทำลาย ทำลายสิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์
เออ ถนน หนทางสะพานหรืออะไรๆ ทำขึ้นให้ได้รับสะดวกสบาย แล้วเขามองไม่เห็นเลยว่าทำให้ทำไม ถ้าเราไปทำลายของเหล่านี้แล้ว ความสะดวกมันจะมีไหม ถ้าเกิดขัดข้องขึ้น รถติด เออ ไปไม่ได้เพราะว่าสะพานเขาพัง เขาพังไปแล้ว เขาเผาไปแล้ว ระเบิดไปแล้ว ทำให้ชะงักก็การเดินทาง การทำงานทำการของเราก็ชะงัก หยุดชะงัก เออ เรียกว่าเสียเวลา นั่นเห็นไหม เออ แล้วคนที่ทำลายสมบัติส่วนตัวก็ดี สมบัติส่วนกลางก็ดี เรียกว่าทำลายความเจริญของชาติบ้านเมือง เอาไปพังสะพาน ไป เออ ระเบิดทางรถฟืนรถไฟสะพานจราจร ไปตรงนั้นตรงนี้เกิดขัดข้องทันที ไปไม่ได้ ไปไม่ได้หรอก เพราะว่ามัน อ่ะ ชะงักแล้ว ทำความเจริญให้ย่อยยับไป ทำความสะดวกให้เกิดขัดข้องขึ้น เนี่ยคนที่ทําลายสมบัติส่วนกลางเป็นอย่างงั้น เออ ไฟฟ้า น้ำประปาก็ดี ของเหล่านี้ก็เป็นสมบัติกลาง ส่วนรวมร่วมกัน ใช้ร่วมกัน ถ้าไปทำลายของเหล่านี้ มันเป็นยังไง เป็นผู้มีหัวใจเจริญหรือเปล่า เป็นหัวใจเจริญหรือเปล่า จึงสามารถทำลายทรัพยากรแผ่นดิน โดยไม่มียางอายเลย อย่างงี้ ทำแล้วก็หาว่าตัวทำลายดี สมน้ำหน้าๆ เออ ไม่มีใครนิยมชมชอบหรอก มีคนสมน้ำหน้าถ้าไปทำลายทรัพยากรของแผ่นดินเข้าเมื่อไหร่ นักปราชญ์ท่านผู้รู้ เออ กระเทือนใจๆ เสียใจ แหม ลูกหลานจัญไร เพิ่นว่านะ อ้า เพิ่นว่ายังไง ร.๕ เพิ่น บอกไว้ ลูกหลานไประเบิดถนนหนทาง ทำลายสาธารณประโยชน์ เพิ่นว่าลูกหลานจัญไร เป็นคนจัญไรๆ ไม่มองเห็นประโยชน์ส่วนรวม ควรจะถนอมรักษาทรัพยากรของแผ่นดิน ให้เหมือนของตัวเอง อ้า ในหลวงเป็นตัวอย่าง หรือว่าผู้เจริญทั้งหลายเป็นตัวอย่าง ท่านไม่ทำลายทรัพยากรของชาติบ้านเมืองเลยแม้แต่น้อย
ถ้าเกิดไปทำลายขึ้นเดี๋ยวนั้นก็ ขัด ขัดข้องทันที เกิดติดขัดทันที จราจรก็ติดขัดทันที ไปไม่ได้ เออ ทำให้ชะงัก ในการงานหน้าที่ ทุกหน่วยราชการแหละ ไม่ดี เพราะฉะนั้น การทำลายทรัพยากรของชาติ สมบัติของแผ่นดินก็ชื่อว่าเป็นใจไม่เจริญ เป็นคนใจไม่เจริญ ถ้าใจเจริญแล้ว ช่วยกันรักษาทรัพยากรแผ่นดินเอาชีวิตสู้เลยอย่าง อ้า บรรพบุรุษของเรา บูรพมหากษัตริย์ แต่ปางก่อน ท่านเสียสละชีวิตเลือดเนื้อ แลกเอาผืนแผ่นดินไว้ให้ลูกหลาน พัฒนาการไว้ให้ชุมชน เรียกว่ามาทำความสะดวกให้เกิดขึ้นในชุมชน
อย่าให้ขัดข้อง ไฟฟ้าน้ำประปาหรืออะไรๆ ก็แล้วแต่ของใช้ร่วมกัน อย่าไปทำลายของเหล่านั้นเป็นอันขาด ถนอมที่สุด รักษาที่สุด ของนี่เป็นสมบัติส่วนกลาง ถ้าพูดทางในศาสนาก็เรียกว่าสมบัติของสงฆ์ สมบัติส่วนสงฆ์ ของอยู่ในวัดในวา เอาไปทำลายของสงฆ์ มันจะเป็นยังไง สระน้ำ บ่อน้ำ ไฟฟ้า น้ำประปา อะไรที่ใช้ร่วมกันอยู่ในวัด อยู่ในสถานที่ราชการ บ้านเมือง ถ้าไปทำลายของเหล่านั้นล่ะ มันเป็นยังไง เพิ่นจึงจะใส่ให้ เจ็บๆ เลย เพิ่นก็บอกว่าไอ้ลูกหลานจัญไร อ่ะฮึ เพิ่นจัญไร ลูกหลานจัญไร ไม่รักษาทรัพย์มรดกของชาติบ้านเมือง เรียกว่า ทำลายสมบัติที่เราใช้รวมกัน อ้า เราใช้รวมกัน มีประโยชน์ร่วมกัน ถนนหนทางก็ดี ไฟฟ้าก็ดี น้ำประปาก็ดี ของใช้ไม้สอยที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน อย่าไปแตะต้อง ถ้าแตะต้องมันมีโทษมหันต์นะ โทษหนัก ติดคุก ติดตะรางหัวโต พู้น(โน้น)ล่ะ ทำลาย ถ้าหากให้ทางการบ้านเมืองลงโทษ ก็ลงอย่างหนักเลย ลงโทษอย่างหนัก คนที่ทำลายทรัพยากรแผ่นดิน ของชาติบ้านเมือง ไม่รักษา ไม่หวงแหนเลย ไปทำลาย แล้วก็ประโยชน์ส่วนรวมที่ใช้ร่วมกันอยู่ ก็เกิดชะงักขึ้นมา ชะงัก หยุด ทำงานต่อไม่ได้ เออ ไฟฟ้า น้ำประปา หรืออะไรก็ดี มันชะงัก อืม ทำลายสมบัติส่วนกลางแล้วทำให้เกิดชะงักชักช้า ไม่รวดเร็ว เออ ถ้าจราจรก็เกิดติดขัด เออ เกิดจราจรติดขัดก็ไปไหนก็ไม่ได้ จะไปทำงานก็ไปไม่ได้ เออ นั่นเรียกว่าถ่วงความเจริญของสังคม เพราะฉะนั้น เราอย่าริเลยอย่างนั้น ต้องช่วยกันรักษาดูแล ทรัพยากรของแผ่นดิน
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ อัตโถ
สาธายัสมันเตหิ สักกัจจัง ธัมโม โสตัพโพติ
แน่ะ อ้า พากันฟูมฟักรักษา ถนอมสมบัติของส่วนกลางก็ชื่อว่ารักษาทรัพย์ของแผ่นดิน ไม่ทำลายทรัพย์ของแผ่นดิน ที่เราอยู่ เราอาศัย ไฟฟ้าก็ดี น้ำประปาก็ดี ถนนหนทางก็ดี รถฟืนรถไฟ รถราง รถอะไร เออ ของเหล่านี้ของใช้ร่วมกัน ถ้าไปริทำลายให้สมน้ำหน้า แล้วใครล่ะได้รับความเดือดร้อน ตัวของเราเอง มีส่วนร่วมกันกับสมบัติส่วนกลาง รับผิดชอบร่วมกัน เสียใคร เสียเงินใคร เขามาไถพวกเราอีกแหละ
เอ้า มันเสียตรงนั้น มันชำรุดตรงนี้ ต้องทำให้มันเกิดประโยชน์ขึ้น ให้มันสำเร็จ ให้มันใช้งานได้ เออ ไปทำลายอย่างงั้น ให้เข้าใจว่าเราทำผิด เราทำผิดแล้ว ทําลายสมบัติส่วนกลาง ทำลายประโยชน์ส่วนรวมที่ใช้ร่วมกัน
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
เพิ่นก็บอกไว้
สะมัคคานัง ตะโป สุโข
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา
ความพร้อมเพรียงดูแลทรัพยากรของชาติของแผ่นดิน ของเราเหมือนกัน ที่ว่าร่วมรักษาทรัพยากรของแผ่นดิน เอาชีวิตเลือดเนื้อไปแลกมา เฮอะ ไปแลกทรัพยากรของเหล่านั้นมาใช้ในประเทศของเรา เอาประเทศของเราจะมีอะไร เพิ่นก็ คิดออก เอาคนส่วนใหญ่ดีกว่า
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
ดีกว่า เราพัฒนาให้มันเจริญ มันก็เจริญ ถ้าลูกหลานจัญไร ไปทำลายทรัพยากรบ้านเมือง สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ใช้ร่วมกัน เป็นไฟฟ้าก็ดี น้ำประปาก็ดี ทางรถไฟก็ดี ทางรถยนต์ก็ดี ถ้าไปทำลายทรัพย์ส่วนกลางอย่างงั้น พวกเราจะเป็นยังไง เออ สะดวกไหม ไม่สะดวก การไปการมาไม่สะดวก เออ หยุดชะงัก ชักช้า มันหยุดชะงักก็ชักช้า ไม่สะดวก อ่ะฮึ ไปมาไม่ทันการไม่ทันงาน จะรีบเร่งไปสู่ธุระ ไปการงานรีบๆ ด่วนๆ ถ้าไปทำลายทรัพย์เหล่านั้นเข้า ก็เกิดชะงักขัดข้องขึ้นทันที เออ เคยไปสะดวกเคยมาสะดวก ก็เกิดชะงัก ชักช้าอยู่นั่น ก็แออัดยัดเยียดกันอยู่นั้น ไปไหนก็ไม่ได้ จะเดินทางต่อไปก็ไปไม่ได้ เพราะมันติด ข้างหน้ามันติด หนทางมันขาด หนทางมันพัง ถนนหนทางมันพังไปแล้ว อ้า มีคนจัญไรไปทำลาย
ให้สมน้ำหน้า สมน้ำหน้าใครล่ะปะเนี่ย สมน้ำหน้าประเทศชาติตัวเอง เออ ตัวเองไปทำลาย อ้า ทำความเสียหายให้แก่ทรัพยากร แล้วตัวเองนั่นแหละ เดือดร้อนอีกแบบนี้ก็ได้ นั่น ไม่ดีเลยจุดเหล้าเผาบ้าน เผาเรือน เผารถ เผาลา ซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้เป็นของน่าอายเทวดาฟ้าดิน ถ้าไปทำไปแล้วน่าอายจริงๆ เสียใจไปตลอดชาติ เราไม่น่าเลย ไม่น่าทำลายทรัพยากรของชาติเลย สมบัติส่วนกลาง รถเมล์ ก็ส่วนกลาง อ้า ไปเกิดเผาขึ้นมา เผาขึ้นมา เอาน้ำมันสาดเผาขึ้นมาอย่างงั้น ให้สมน้ำหน้า ใครล่ะ สมน้ำหน้าชาติบ้านเมืองตัวเอง นะสิ เออ แทนที่จะทำความเจริญรุ่งเรืองให้เกิดมีขึ้น และก็ไปทำลายสิ่งที่จะเจริญให้ชะงักซะ ชักช้าซะ อ้า ไม่เจริญน่ะ อย่างนี้เป็นตัวอย่าง
ก็พวกเราอยู่ในสังคมนี้คงจะไม่คงมีคนคิดอย่างนี้ หรอก คิดที่จะๆๆ ทำลายทรัพยากรของแผ่นดินหรอก ของชาติบ้านเมืองหรอก อะไรที่เป็นประโยชน์ใช้ร่วมกัน เรียกว่าสมบัติส่วนกลาง อย่างไฟฟ้าสว่างไสวนี่มาจากส่วนกลางนะ เขาปล่อยไฟมา ของเราก็เปิดสวิทช์ที่ไหนก็ได้ เออ ถ้ามันเกิดตัดต้นขั้วมันโน่น มันจะเป็นยังไง งงซะแล้ว พวกเราก็งง จะเดินทางไปไหนมาไหน ชนกันระนึงทึงทืด สิ่งของ ยิ่งเกิดจลาจลมาว่อน ก็ยิ่งจะทำให้เดือดร้อนใหญ่ เอ้า เพราะฉะนั้น ขอฝากด้วยทุกคน ขอจงรักษาทรัพยากรของแผ่นดินให้มากๆ สมบัติของชาติ พวกเราคนหนึ่งอยู่ในชาติที่จะได้ใช้ ได้รับความสะดวกสบายเพราะสมบัติของชาติบ้านเมือง อ้า
คิดสั้น ถ้าไปคิดสั้นและทำลายแม้กระทั่งเครื่องบินราคาแพงๆ ระเบิดซะ เผาไฟซะ และมาเอาระเบิดไปวางในเครื่องบินซะ อย่างนี้ก็มี โอ้ย ไปคิดยังไงกันอย่างงั้น หัวใจมนุษย์หรือเปล่า ถ้าเป็นใจมนุษย์ก็ต้องโอบอ้อมอารี อ้า ถนอม ฟูมฟักรักษาทรัพย์สมบัติของประเทศชาติบ้านเมืองช่วยกัน ดังที่แสดงมา ก็ยุติด้วยเวลา เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ พอแล้ว เออ เฮอะๆ
(สาธุ สาธุ สาธุ)
หึหึ เออ สาธุน่ะ แต่ หัวๆ หัวเข่ามันไม่เอาไหนน่ะ นั่งพับเพียบแบบนี้ หัวเข่ามันไม่เอาไหนน่ะ
เอ้า เด้อ พอแค่นี้ เด้อ
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
การงาน ๑ วิชา ๑ ธรรม ๑ ศีล ๑ ชีวิตอันอุดม ๑
อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ อัตโถ
เนื้อความแห่งธรรมบรรยายนี้
สาธายัสมันเตหิ สักกัจจัง ธัมโม โสตัพโพติ
ดังข้าพเจ้าจะขอโอกาส ธรรมที่สาธยาย
ผู้มีอายุทั้งหลาย พึงฟังโดยเคารพ
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
ความพร้อมเพรียงของหมู่ ให้เกิดสุข
สะมัคคานัง ตะโป สุโข
ความเพียรของผู้พร้อมเพรียงกัน ให้เกิดสุข
(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ ธรรมบท
อุทาน อิติวุตตกะ สุตตนิบาต
คาถาธรรมบท พุทธวรรคที่ ๑๔ ข้อ ๒๔)
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา
ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช (สา) วัดราชประดิษฐ์
ทรงผูกขึ้นแปลได้ความว่า
“ความพร้อมเพรียงของชนผู้เป็นหมู่ยังความเจริญให้สำเร็จ”
สัญลักษณ์ของความสามัคคีนั้นเห็นได้จากการ
ประดิษฐานตราแผ่นดินที่มีคาถาภาษิตว่า
“สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฒิสาธิกา”
ซึ่งแปลว่า ความพร้อมเพรียงของคนทั้งปวง
รวมกันเป็นหมวดหมู่ด้วยความสามัคคี
เป็นเครื่องทำความเจริญให้สำเร็จ
อยู่ที่เสาทั้ง ๔ มุมของพระบรมรูปทรงม้า
ในขณะที่ชาติไทยกำลังถูกล่าเป็นเมืองขึ้น
๔๐