หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
วันพุธที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๙.๓๐ น.
ณ ปั๊มแก๊สเอ็นจีวี
อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
เท่านั้นก็สมควรนั่นล่ะ พอแล้วนะ เรียกว่าตั้งใจจริงกันแล้ว เออ สมาทานศีล
ปาณาฯ อะทินนาฯ กาเมฯ มุสาฯ สุราฯ
๕ ข้อ ถ้าเราตั้งใจเว้นได้แล้ว ก็เป็นศีลเป็นธรรม อย่าให้สัตว์อื่นต้องมาตายกับการชุมนุมของพวกเรา มันมีแมลงมาหลายนะเนี่ยนะ แมลงบินมา แมลงเม่า แมลงทุกอะไร นับไม่ถ้วน ไฟสว่างตรงไหน มันก็มาตรงนั้นละ แต่การเว้นจากการทำบาปทางกาย ทางวาจา ทางใจเรา ให้มันมุ่งมั่นอยู่อย่างนั้น อย่าให้มันต้องพลั้งเผลอไป เกิดไปตบไปตีมันเข้า ศีลของเราก็ชื่อว่าฟาวล์(foul ผิดกติกา) ไม่ ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ฟาวล์แล้วศีลเรา ถ้าเรามั่น ค่อยปัดค่อยเป่าเอาจริงๆ มีสติอยู่กับเนื้อกับตัว ถ้าแมลงต่างๆ มันมากิน รบกวน ไต่ตอมเรา ก็ระวังรักษาเอา อย่ามีเจตนาที่จะฆ่าเขา ศีลของเราไม่ขาดเลย ถ้ามีเจตนาจะฆ่าเขา รับไปแล้วก็ชื่อว่าโกหก โกหกพระที่มาตั้งใจสมาทานศีลแล้ว ให้มันได้ เออ เหมือนดังพระอยู่ด้วยกันหลายๆ รูป อยู่ในวัดหลายๆ รูป รวมผสมกันไม่มีใครตบไม่มีใครตียุ่ง ตีแมลงต่างๆ ไม่มีเลย แต่ว่าเป็นต่อ เป็นแตน เป็นผึ้ง อย่างงั้นมันต่อสู้ ต่อสู้คนนะ ไปตบ ไปตี ไปจับมัน มันต่อสู้ เกิดมันต่อยเอา ร้องโอ้กเอ้กๆ ไป ถ้ามันมาจำนวนมาก คนเราก็สู้มันไม่ไหว ความอดกลั้นทนทาน ละเว้นจริงๆ อันนั้นเป็นศีลแท้ ศีลขั้นปรมัตถ์ ไม่ใช่ศีลธรรมดา ขั้นปรมัตถ์จริงๆ งดเว้นจริงๆ
ปาณาติปาตา เวระมะณี
เราจะเว้นจากการฆ่าสัตว์ทุกชนิด ทั้งในน้ำ ในบนบกก็ตาม สัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ มีปีกบินไปมาเป็น...ก็ตาม เราไม่เบียดเบียนเขาเลย ตั้งใจอย่างงั้นเรียกว่าเป็นศีลแท้ เทวดาสาธุการ หากไปตบไปตีมันน่ะ เทวดาแป้วใจล่ะ โอ้ย เสียแรงหลวงปู่หลวงพ่อเพิ่นมาให้ศีล เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ายังไงก็สู้เอาอยู่ อย่าต้องให้ตาย เพราะเจตนาของเรา ตั้งว่ารักษาศีลน่ะ คือเจตนางดเว้น ละ เลิกแล้ว ไม่เบียด ไม่เบียนสัตว์อื่น ให้ตายด้วยเจตนาของเราอย่าง เรียกว่าสมาทานศีลบริสุทธิ์ ไม่เป็นบาป ไม่เป็นกรรมเศร้าหมองแก่ใจตัวเอง ไม่ได้มาเทศน์นานแล้ว เทศน์เบื้องต้นนี้ ซะก่อน เทศน์เรื่องศีล เรื่องธรรม มันก็มีทาน มีศีล มีภาวนา เรื่องใหญ่ๆ มันมีอยู่แค่นี้ ถ้าเรางดเว้นได้จริงจัง เทวดาโมทนาสาธุการด้วย เป็นผู้ไม่ล่วงเกินธรรมวินัย ศีลธรรมบริสุทธิ์ อย่างงั้น เรียกว่ารักษาศีล ข้อต่อไปอย่างอื่นก็มีอยู่มาก เออ ที่ๆ จะรักษาตัวเองให้ถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง รักษาศีล ๕ ข้อนี้ได้แล้ว ศีลอย่างอื่นก็สังวรระวังเอา อย่าให้มันพลาดพลั้งไปได้ พลั้งเผลอไปได้ เออ มันจะเป็นเละตุ้มเป๊ะไม่ดี ให้รักษาจริงๆ จังๆ มันจึงจะเห็นผล
ทานัง เทติ
เพิ่นบอกมา ทานแต่บุญให้ทานทุกชนิด อย่าให้ไปเดือดร้อนถึงสัตว์อื่น เขาเอาแช่เย็นมาขายเยอะแยะ ผู้มีปัญญา เขาเอาสัตว์เหล่านั้นน่ะมา แช่เย็นมา เอามาจากที่ไหน โน้น เมืองไหน เมืองมีน้ำเย็นๆ พวกปลาทั้งหลายมันชอบน้ำเย็น มันมาจากหิมะ ไปอยู่กับหิมะ เวลาจะออกลูก ออกเต้ามาก็พากัน ตีกลับคืนมา มันมาออกลูกเสร็จ น้ำไม่เย็นนี่แหละ เออ ให้ลูกตัวเองปลอดภัย ตัวเองตายช่างมัน แต่ขอให้ลูกเกิดมา ลืมตาอ้าปาก รู้โลกกับเขา ขอให้ลูกจงได้ปลอดภัยด้วย มีเจตนาอย่างงั้นเขา แต่ว่าในกรุงเทพฯเราหรือในเมืองใหญ่ๆ เรา เราก็ทำรักษาได้อยู่ อืม เอามาจังหันมา ขันหมากมา เลี้ยงดูพระเจ้าพระสงฆ์ ซึ่งไม่เห็นว่าจะมี อืม ขาหมู ขาอะไร ไม่มีๆ แต่ว่าเขาอาจจะแช่เย็นกันไว้ก็ได้ เออ นี่ผู้สังวรระวังจริงๆ รักษาจริงๆ ก็ให้มันได้ศีลบริสุทธิ์ เทวดาโมทนาสาธุการด้วย เทวดาก็มีหูตาเป็นทิพย์น่ะ ถ้าเราทำผิดข้อ... หนึ่งข้อใด เทวดาก็หัวเราะ เทวดาหัวเราะเราล่ะ โอ้ยเสียแรงหลวงพ่อมานั่งหลังขดหลังแข็ง มาให้ศีล มานำพาสมาทานศีล ๕ ข้อ แต่ยังไม่ถึงเลิกงานเลย ตายไปแล้ว ๒ ตัว ๓ ตัว ๔ ตัว ๕ ตัว ตบมัน ตีมันทำนองนี้ ก็อย่าให้เทวดาต้องหัวเราะเน้อ ให้เทวดาโมทนาสาธุการ เรารักษาศีลธรรมจริงๆ ปฏิบัติตามคำสั่งสอนจริงๆ เทวดาโมทนาสาธุและก็ได้บุญกับเราด้วย อ้า ไม่ใช่ธรรมดานะ มีเทวดามีหูตาเป็นทิพย์ อืม ดูแลอุบาสก อุบาสิกา ผู้รักษาศีลทั้งหลายทั้งปวง ให้มีศีลธรรมประจำใจเราไว้ อย่าให้ต้องตายด้วยเจตนา ให้มีเจตนาบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่อย่างนั้น เราจะมีความสบาย กลับไปบ้านก็ไม่มีกินแหนงแคลงใจอะไร สบาย เวลานั่งสมาธิก็สบาย นั่งภาวนาก็สบาย เออ พานั่งสมาธิเทวดายังดูแลรักษาอยู่ต่อไป ไม่ให้ตั้งพลาดพลั้งไปด้วยความเผอเรอ อย่างหนึ่งอย่างใด ก็ไม่ให้มันเผอเรอไปได้ อันนั้นเรียกว่ารักษาศีลแท้ สีลัง อ้า กัมมัง สีลัง ศีลของเราก็คือ การงดเว้น อ้า
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ
ครูบาอาจารย์ท่านองค์ไหน ท่านเทศน์ก็เทศน์อย่างงี้แหละ เทศน์เรื่องศีล เรื่องธรรม อย่าให้ด่างพล่อยไปได้ ให้เป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องทุกเมื่อ มีสติรู้ทุกเมื่อ อย่าเผอเรอ ลืมตัว แล้วก็ตบไปแล้วจึง โอ้ย แอ้ ว่าเพิ่นว่าล่ะ เฮอะๆ ลืมไปแล้วมันเผลอ มันรบกวน แต่ยุงก็ไม่เท่าไหร่หรอก ยุงก็ไม่ร้ายเท่าไหร่หรอก พอหลบพอเลี่ยงมันไปได้ ปัดเป่ามันไป มันก็หนีไป ดูสิ อ้า ผู้จำศีล จำธรรมจริงๆ รักษาศีล ประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้าจริงจัง ไม่ให้ขาด ไม่ให้ด่าง ไม่ให้พร้อยได้ เทวดาก็โมทนาสาธุการ อยู่ในบัญชีของผู้ปฏิบัติธรรมแล้ว ปฏิบัติได้จริงจังไหม น่าอนุโมทนาจริงๆ น่ะ นั่น ผู้ที่ปฏิบัติจริงปฏิบัติจัง ย่อมงดเว้นได้ ละได้ ไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ด่าง ไม่พร้อยเลย บริสุทธิ์ผุดผ่อง เทวดาก็โมทนาสาธุการด้วย เออ ถ้าหากเรารักษาได้ เออ เป็นบุญเป็นกุศลแก่เราด้วย เป็น
นิสสะยะปัจจัย
ด้วย ปัจจัยที่เราต้องการถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่องนั้น ก็ให้ มีอยู่ทุกครั้งทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ใช่ตัดอาชีพใครหรอก อันเนี่ยพูดให้รู้จักเนื้อหา หรือเนื้อแท้ของศีลของธรรมจริงๆ ขอให้ทุกคนตั้งใจนะ เออ เอาตั้งนะโม กัน
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ อัตโถ
สาธายัสมันเตหิ สักกัจจัง ธัมโม โสตัพโพติ
ถ้าพูดถึงศีล ถึงธรรมะแล้ว มันก็อดที่จะพูดต่อไปไม่ได้ กัมมัง ก็หมายถึงการ เออ กระทำของเราแต่ละคน กระทำของเรามันผิดศีล ผิดธรรมหรือเปล่า จึงมีเจตนาจะเบียดเบียนเขาหรือเปล่า ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย รักษาศีล ๕ รักษาศีล ๘ เหล่านี้ ต้องงด ต้องเว้นจริงๆ
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ
ครูบาอาจารย์ ท่านน่ะที่ไหนๆ จะเป็นวัดป่า วัดบ้านก็ตาม ท่านก็ต้องมีเจตนาอย่างนั้น เออ ลงอุโบสถ ก็หมายถึงมาสังวรระวัง ตั้งมั่นกับหมู่กับพวก นับแต่การแสดงอาบัติอาที มันมีอะไรมี แสดงอาบัติซะก่อน จึงมาลงอุโบสถกับหมู่ อย่างงั้น เรียกว่าเป็นผู้ตั้งใจสมาทาน รักษาจริงจัง ให้มันเว้นได้ อล่องฉ่อง เราต้องการเสื้อผ้าให้มันสะอาด หมดจดดี ตั้งใจจริงๆ ลงทุนไปซื้อแฟ้บ ซื้อสบู่ ซื้อเครื่องฟอกทั้งหลาย มาตั้งใจซักฟอกจริงๆ เขย่าขยี้จริงๆ แล้วก็ล้างให้ล่อนซะ แล้วจึงค่อยเอาไปผึ่ง ไปตากแดด แดดแห้งดีแล้ว มันไม่มีตัวอะไรอยู่ในนั้นแล้ว เวลาจะรีดผ้า รีดผ่อนอะไร ก็ระมัดระวังอีก มันแห้งดีแล้ว ใส่เตารีด ร้อนๆ มารีด ถ้าไปทำให้สัตว์ตายในขณะนั้น ศีลของเราจะว่ายังไงล่ะปะเนี่ย โอ้ย เสียไปแล้วศีลตัวหนึ่งแล้ว ฆ่าสัตว์ด้วยเจตนาทำให้เขาเดือนร้อนอย่างนี้ มันอยู่ที่เจตนา เจตนาเว้นจริงๆ ละจริงๆ เลิกจริงๆ เลิกจากการกระทำให้เป็นบาป เป็นกรรมแก่ตนเอง เลิกให้ได้ เออ เข้ามารักษาศีลใหม่ๆ ไม่รู้จักอะไร ครูบาอาจารย์ไล่ตะเพิดเราหลายทีเน้อ อ้า เพราะเราไปตบยุง ตียุงให้ท่านเห็นแล้ว ท่านก็ร้อง เอ้า ทำไมทำอย่างงั้นล่ะ ก็สังวรระวังแล้ว ก็จงรักษาให้พ้นมื้อ(วัน)พ้นวันไป อ้า เป็นเดือนเป็นปี รักษาได้เป็นปี ใครรักษาได้หลายวันหลายราตรี ไม่มีเคยมีเจตนาจะไปตบยุง ตบสัตว์ให้ตายเลย อ้า แผ่เมตตาเอา แผ่เมตตาหลายๆ สงสารเขา ริ้นยุงมดปลวก พวกเหล่านั้นก็มีชีวิตชีวาเป็นอยู่ได้ อ้า ผู้ที่มีศีลมีธรรมยังไงว่ะ แถวนี้ๆ เห็นนกบินลงมาหากินอะไร กินข้าวเศษข้าวเสิด แถวตั้งนี่เป็นตุ่มๆ ก็ไม่มีใครมายิง มาฆ่ามันเลย อันนี้อยู่นี่ มันฉางข้าวหรืออะไรเนี่ย ฉางข้าวมันกะจับซาบลาบ(เรียงเป็นแถว)อยู่หลังคา เวลานั้นก็มุดเข้าไป ข้างๆ ในเป็นฉางข้าวหรือฉางอะไรไม่รู้ มุดเข้าไป บินได้ คาบได้แล้ว ก็บินไปหาลูกตัวเอง ลูกมาอยู่หลังตรงไหนๆ เอามันปลอดภัยไว้ มันปลอดภัยดีเว้ย คนถิ่นนี้ คนที่นี่ ไม่มีเจตนาจะฆ่าจะ เบียดเบียนเราเลย ให้เขาได้เลี้ยงลูกปลูกโพธิ์เขา เย็นตาหน้าบานขึ้นมา ใหญ่โตสืบพันธุ์ให้มากมายออกไปได้ นั่นแหละผู้เลี้ยงสัตว์ทั้งหลาย อยู่วัด
หลวงปู่นั้นก็มี สัตว์หลายจำพวกมาอาศัยอยู่ที่นั้น อืม เรากดกริ่ง กดกริ่งให้มันดัง กริ่งๆๆๆ มันมาได้แล้วๆ มันกินยังไง มันกินอย่างงี้แหละ นี่กดกริ่งแล้ว มันจะได้ยินทั่วไปเลย
(กดเสียงสัญญาณฉุกเฉิน) มากันเป็นพรวนเลย นก
(กดเสียงสัญญาณฉุกเฉิน) กระรอก กระแต มันมาเป็นพวกเป็นหมู่ มากินอาหารที่เราใส่ตะกร้าไว้ให้ พอได้ยินเสียงเรียกอย่างนี้ละก็มากันเป็นพรวนเชียว อืม อ้า ไม่มีใครฆ่า ใครแกงมัน มันปลอดภัยดี หาเศษอาหารแล้วก็วิ่งกลับไปหารัง รวงรังของตัวเอง มันไม่กินอะไรมากมายหรอก กินแต่กล้วย ผลหมากรากไม้ บางชนิดมันเอาได้ แต่ของเปรี้ยวๆ มันไม่เอาเลย กัดแล้วก็วางเลย ไม่เปรี้ยว มันเปรี้ยว เอาแต่ของหวานๆ เออ คาบได้แล้วก็ไปเลย หลุดลงจากปากยังอุตส่าห์ พยายามว่าไม่มีหมา ไม่มีอะไรแถวนั้น ปลอดภัยลงมาได้ รีบลงมาเอา ลงมาเอาคาบได้ก็จ้ำขึ้นไปอีก เออ อย่างนี้ก็เรียกว่ามันคิดถึงลูกมัน มันจึงมาเอา เพราะฉะนั้น อย่าได้เบียดเบียนมันเลย ให้มันได้อาหารการกินไปเลี้ยงลูกเลี้ยงเต้ามันซะ เนี่ย อย่างนี้ มีเจตนาอย่างนี้ แต่ถ้าผลหมากรากไม้บางอย่างเราก็สงวน อันนี้อย่าๆ เอาไปกินเด้อ อันนี้อย่าเอาไปกินเด้อ เอาไปแจกเขา อืม เออ เอาไปแจกให้ถึงปากถึงท้องลูกเต้าของเขา มีเจตนาอย่างนั้น ฝึกหัดลูกศิษย์ลูกหา ให้มีความเมตตาปรานีอย่างนี้ เออ ให้เมตตาปรานี นั่นทำให้เราศีลบริสุทธิ์ได้ ไม่ต้องตายด้วยเจตนา เห็นหมามาไล่มา อันนั้น จะค่อยจ้องตะครุบมันเหล่านั้น ก็ห้ามมันหน่อย อย่าๆๆๆ อย่าเฮ้ย เดี๋ยวก็ถูกมันโดนไม้เรียวนะ เออ ไม่งั้นจะตีเอา ถ้าตัวไหนยังดื้อ เออ ยังเบียดเบียนผู้อื่น ไม่ดี ฝึกไปฝึกมาก็ไม่ มันไม่มาเบียดเบียนแล้ว กินแต่ข้าวก้นบาตร ข้าวก้นบาตรมันกินอยู่ มันลงมากิน พวกหมา อ้า พวกนกบางชนิด มันมาอยู่ทางนี้ เพราะว่าการปฏิบัติจิต ปฏิบัติธรรม มันก็ต้องเอาจริงเอาจังหน่อย ให้งด ให้เว้นหน่อย อย่าว่าแต่ปากเฉยๆ
ปาณาติปาตา เวระมะณี
เว้นจากการฆ่าสัตว์ทุกชนิด
อะทินนาทานา เวระมะณี
อ้า เราเว้นจากการถือเอาสิ่งของของท่านผู้อื่น สัตว์อื่นไม่เอาล่ะ ขอให้เขาปลอดภัยอย่างนี้เป็นตัวอย่าง มีอานิสงส์ พระพุทธเจ้า เป็นตัวอย่าง ท่านไปอยู่ป่า อยู่ป่านั่นน่ะ มันมีช้างอยู่ในป่า หนีจากคน หนีไปอยู่ป่าสงบสงัดดี ช้างก็มีความนึกคิดว่า โอ้ ท่านครูบาอาจารย์ หรือพระเจ้าพระสงฆ์ ท่านก็ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต จะได้อะไรถวายท่านล่ะ เออ อืม ได้ผลหมากรากไม้ก็ เหน็บตามงวงตามงาลงไป เอาบัว รากบัว เง้าบัวเหน็บตามงาขึ้นมา
เต็มปาก เต็มคอ เอามากองไว้ให้ เออ ใครล่ะประเคนให้ พวกมันล่ะ เพิ่น อยู่อย่างงั้น เวลาฤดูหนาว ทำไมมีศรัทธาแรงกล้า ฤดูหนาวทำไงล่ะ กลิ้งก้อนหิน ก้อนใหญ่ๆ พอกลิ้งได้ กลิ้งมาๆ แล้วก็เอาฟืนมาตั้ง ทำไมมีไฟมีฟืนจากไหนเว้ย เอาไปเอามา มาติดไฟขึ้น เผาก้อนหิน เออ เอาก้อนหินมันร้อนแล้วปะเนี่ย เอาไม้มางัดๆ งัดให้มันกลิ้งลงไปในน้ำ แอ่งนั้น อืม อันนี้ก็มีในตำรับตำรา กลิ้งลงไปแล้วให้มัน นั่นแล้วก็มานิมนต์พระพุทธเจ้า ลงไปสรงน้ำได้แล้วก็ ลงไปสรงน้ำได้แล้ว น้ำอุ่นแล้ว อันแน่ะ รู้จักกันขนาดนั้นแน่ะ สัตว์แท้ๆ ยังมีเจตนาแบบนี้ ไอ้ลิงตัวหนึ่งเห็นช้างปฏิบัติแบบนี้เป็นประจำทุกวัน ลิงตัวนั้นก็อยากปฏิบัติเหมือนกันกับช้าง ปฏิบัติพระพุทธเจ้า เราจะได้อะไรให้ เออ ไปพบรังผึ้งเข้า รังผึ้งก็ ไปเด็ดเอารังผึ้งมาแล้ว มาดูมีอะไรก็หยิบออกๆๆ เป็นตนเป็นตัวหยิบออกๆๆๆ มันจะเอาตั้งแต่หัวน้ำไปถวาย เออ ไปถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ไม่รับ ทีแรกไม่รับ เพราะมันมีลูกของมัน มันมีตัวของมันไต่ยั้วเยี้ยอยู่ในนั้น เพิ่น ไม่รับเลยๆ ลิงก็ฉลาดอีก ฉลาดรอบรู้อีก โอ้ เพิ่นไม่รับ เพิ่นไม่ฉันให้เราเลย มันจะเป็นเพราะมันมีลูกนี่บ่หรือ หยิบออกๆๆ หมด แต่หัวน้ำบริสุทธิ์ ไม่มีลูกในนั้นเลย เอาแต่หัวน้ำไปถวาย เพิ่นก็เอื้อมพระหัตถ์ เอื้อมมือรับเอา รับเอาลงเพื่อมาพิจารณา พิจารณาไม่มีตัวแล้ว ไม่มีตัว มีแต่น้ำบริสุทธิ์ผุดผ่อง แล้วพระพุทธเจ้าก็ฉันให้ดูปะเนี่ย ฉันดู กินดู กินให้ดู โอ้ ลิงดีอกดีใจหลาย เออ พระพุทธเจ้าฉันให้ อืม ลิงโลดโดดเต้น ไปตามกิ่งไม้ทั้งหลายไม่ระวังตัว โดดไปโดดมา เออ ดีอกดีใจว่า พอพระบรมศาสดากินให้เราแล้ว แต่ว่ากระโดดลงไป ไปถูกกิ่ง กิ่งไม้มันตายแห้งอยู่ ไปจับอันนั้นมันก็หักลงไป มันน้ำหนักของลิงก็หนักพอได้ กิ่งไม้นั้นหักลงไป ตกลงไปใส่หิน ลิงหัว หัวแตก เลือดจะแตกซะออก ก็ทนบาดแผลไม่ได้ก็ตาย ลิงตายจากชาตินั้นแล้ว ไปๆ เป็นเกิดเป็นเทวบุตร เทวดาอยู่เทวโลกพู้น(โน้น)ปะเนี่ย เออ แต่ว่าช้างตัวเนี่ยยังไม่ทันตายหรอก ช้างที่ตัวปฏิบัติอุปัฏฐาก เออ อืม คงจะไปดีนะ ช้าง แน่ะ สัตว์อื่นหากมีนิสัย มีศรัทธา มี
ปะสาทะ
ความเชื่อ ความเลื่อมใส อยากช่วยอุปการะ อยากให้ความอุปถัมภ์บำรุงแก่พระบรมศาสดา เห็นมนุษยทำ ให้มันรู้อยู่ แต่คนแปลกหน้าเข้ามา พระอานนท์ได้ยินข่าวว่า พระภิกษุทั้งหลาย ได้ยินข่าวว่าพระบรมศาสดาไปอยู่ป่าแห่งนี้ ไปบำเพ็ญภาวนาอยู่แห่งนี้ พวกเราไปเยี่ยมไปกราบท่านเถอะ พากันไปล่ะ พระเจ้าพระสงฆ์มาจำนวนมาก เออ พากันมา เป็นหลายสิบองค์ ไม่ใช่ธรรมดา แล้วช้างวิ่งแจ้นเข้าไปกั้น เราไม่ให้มา เอางาเสียบขึ้นฟ้า ไม่ให้มาที่นี่ พระบรมศาสดาอยู่ที่นี่ แต่ พระบรมศาสดาก็เห็น เห็นช้างเข้าไปขัดขวาง เฮ้ย พวกเราๆ พวกเราไม่ใช่ที่อื่นหรอก ไม่เป็นศัตรูกับเราหรอก พวกนี้ลูกศิษย์เรา ลูกศิษย์เรามา มาเยี่ยมเรา เรามาอยู่ป่าหลายวันหลายเดือนแล้ว เขาคิดถึงเรา บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ก็พากันมาเป็นพรวนมาเยี่ยมมาตาม ช้างเลยหดตัวอยู่ ไม่ออกฤทธิ์ใดเลย ฟังคำเตือนของช้าง ช้างนั้นมีความรู้สึกอย่างนั้น ได้ฟังแล้วก็บอกให้หยุด ให้ได้หยุด พวกลิงพวกค่างทั้งหลาย ก็บอกให้หยุดเหมือนกัน อย่าไปรังแก ไอ้พวกนี้ เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ แล้วเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ เขาคิดถึง เขามาเยี่ยม อืม อย่าไปทำไรเขาเด้อ เออ เงียบ เงียบเลย ไม่ทำไรเลย ไม่ทำแสดงอาการ โกรธ เกลียดเดียดฉันท์อะไรเลย ไม่มีแน่ะ
ถ้ามีนิสัยวาสนาอยู่ตั้งแต่อยู่แต่ปางก่อน เคยได้อบรมบ่มนิสัยเคยสั่งสอนกันมาตั้งแต่ชาติเพิ่นก่อนโน้น ยังระลึกได้อยู่ โอ้ เห็นพระบรมศาสดามาอย่างงั้นก็ดีอกดีใจ มาอยู่กับเราในป่าแห่งนี้ มันเป็นไปได้ แม้แต่สัตว์อื่น ถ้าหากบารมีอินทรีย์แก่กล้า รู้จักความอยู่รอดของพระเถระ พระ พระพุทธเจ้า พระเถระทั้งหลายท่านก็อยู่กับพวกลิงพวกค่าง กินผลหมากรากไม้กับเขาได้ เออ อยู่ได้ ตัวไหนมีศรัทธานั่นก็ช่วยกันหามา หาเง้าบัว รากบัวอ้า มาฝักบัว มาดึงเหน็บงามา เหน็บหยังมากองไว้ เออ ถ้ามีผู้อื่นมาก็ประเคนให้ตอนเช้ามา อย่างนี้เป็นตัวอย่าง อ้า พูดถึงพระอยู่ป่า ท่านอาศัยพวกลิงพวกค่างดังนี้ก็มี พวกนกทั้งหลายก็ถือเอาเป็นตัวอย่างเหมือนกัน เพิ่นไปอยู่ป่าบางแห่งได้รับความอุปถัมภ์บำรุงจากสัตว์ป่า อ้า อย่างดีไม่ให้อดยากปากแห้ง ให้ได้อยู่ได้กินแล้วอย่างนี้ อืม น่าอัศจรรย์ใจนะ อ้า พวกเราเป็นมนุษย์ถ้าคิดอย่างงั้นเป็นมั่งไหม เห็นพระคุณเจ้ามาอดอยากปากแห้งอยู่ในป่าอย่างงั้น จะคิดหาเครื่องอุปถัมภ์บำรุงท่านเหมือนช้างดังกล่าวมานั้นจะเป็นไหม มีไหม เออ
แม้แต่ช้างตกมัน ช้างตกมันนั่นพระเทวทัต อ้า เอาเหล้า อืม เอาเหล้าไป ได้เหล้ามาจากไหนแล้วมามอมเมา มอมเมาช้างให้ตกมัน ตกมันแล้วมันก็พระพุทธเจ้าเอง ท่านเมตตาสงสารผู้อื่นมากกว่า
พระอานนท์ พระอะไรอาสาจะมาตายแทน ไม่ต้องไปๆ ไม่ต้องไปไหน เราเองๆ เพิ่นบอกเราเอง ตถาคตจะทรมานมันเอง ช้างตกมันเนี่ย พวกเราไม่ต้องเกี่ยวข้องเขา ให้หลบหลีกไปทางอื่นซะ เออ ก็ไม่ฟัง ก็จะอยากจะดูอยู่ใกล้ๆ อยากจะดูอยู่ใกล้ๆ ถ้าลูกศิษย์ทั้งหลายอยู่ใกล้ๆ อย่างพระอานนท์ก็ดี พระ เออ อะไรอีก ผู้อุปถัมภ์อุปัฏฐากใกล้ชิด อยากจะอยู่ใกล้ๆ เวลามันตะครุบพระบรมศาสดาขึ้นมาก็จะได้ ต่อต้าน เอาไม้ตีหรืออะไร ไม่ให้ทำอย่างงั้น
เพิ่นว่าพวกเรา พวกเราหรอกที่มานั่น อย่าทำอย่างงั้นนะ ช้างปาเลไลยก์แห่งนั้น พวกเราๆ มาเยี่ยมกัน อย่าไปทำไรเขา เขามาเยี่ยม มากราบ มาไหว้ คิดถึงพระบรมครู คิดถึงมาก อ้า เหมือนดังพวกเธอทั้งหลายเนี่ยล่ะ ถ้าคิดถึงมากก็มาเยี่ยมเยียน ดูอาการ มีอาหารก็นำมา มาวางไว้ให้ผู้อื่นดูแลไว้ให้ อย่างนี้เป็นตัวอย่าง
อันนี้พระบรมศาสดาก็เคยทรมานช้างมาแล้ว ช้างนาฬาคิริง
ตัวนั้น เป็นช้างของพระราชาที่เขาเรียนรู้ภาษาแล้ว แต่ว่าเขาอยากให้ช้างน่ะมาฆ่าพระบรมศาสดาซะ เราจะได้เป็นใหญ่เออ มีพระบางองค์ พระเทวทัตท่านอยากเป็นใหญ่เป็นโต เป็นเจ้าของผู้บริหารศาสนาล่ะ เพราะอติเรกลาภมากเหลือเกิน ใครๆ ก็ดูแลอุปถัมภ์อุปัฏฐากพระบรมศาสดา ไม่อดอยากอะไรเลย ถ้าฆ่าพระบรมศาสดาให้หมดชีวิตไปเสีย เราก็จะได้เป็นใหญ่ในที่นี้ เออ ความคิด อยากจะฆ่าพระพุทธเจ้าสักคน เราจะได้เป็นพุทธเจ้าแทน พอเป็นพุทธเจ้านี่มีอติเรกลาภมหาศาล อ้า
ผลหมากรากไม้ไหลมาเทมาไม่แต่มนุษย์ธรรมดา แม้แต่ผลหมากรากไม้ไหลมาเทมา ไม่แต่มนุษย์ธรรมดา แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็ยังรู้จักหา หามาส่งให้ช่วยให้มีอยู่มีกิน ดังนี้ ดูสิ พระบรมศาสดาก็แผ่เมตตา
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ความแผ่เมตตาของพระพุทธเจ้ามีจริงๆ เออ แล้วก็หลบจากที่อื่นมาก็มา มามองดูหน้าดูตาพระบรมศาสดา ก็เลยเย็นเข้าไปในหัวใจเพิ่นน่ะ ดูหน้าพระบรมศาสดาแล้ว ยืนดูแล้วก็ไม่เบื่อ น่าเบิกบาน
คือดอกบัว ราคี บ่ พันพัว ฯ
ศิระเกล้าบังคมคุณ สัมพุทธการุญ ญภาพนั้นนิรันดร ฯ
นี่ ท่านแผ่เมตตาจริงๆ เอย นาฬาคิริงเอย สงสารนะลูกพ่อ สงสารน่ะ เขาเมา เขามอมเมาเจ้า เอาเหล้าให้กิน เพราะฉะนั้น มานี่ซะ มา มาใกล้ๆ พาตัวใกล้ๆ เพิ่นก็ลูบหัวให้ ตบหัวให้ อย่าทำไรใครนะ เข้าใจนะ อ้า น้ำตาพัง ออก ทรมานคน ทำลายทรัพย์สมบัติของประชาชนทั้งหลายมามากมาย มีอะไรก็ดึงก็ทึ้ง ทำลายไปหมด อะไรขวางหน้าเอาทุกอย่าง ตะครุบ เอางาตีเอา เอาอย่างงั้น ทำได้ยังไงอย่างงั้น นาฬาคิริงเอย อืม หยุดซะๆ ลูกพ่อๆ ตัวของเธอก็เป็นลูกของเรา ลูกศิษย์ของเราเหมือนกัน อย่าทำลายอย่างงั้น เขามาใกล้ๆ ก็เอามือตบหัวให้ ตบหัวให้ พระหันต์ตบลูบหัวลูบอะไรให้ ตบหูปุปะ ปุปะดีใจ มือหนึ่งก็ดูดเอาขี้ฝุ่น ดูดเอาขี้ฝุ่นที่ติดพระบาทเหลือเลย เออ มีดูดมีอะไร ดูดแล้วมาโรยหัวตัวเอง ดูดเอาแล้วก็มาโรยหัวตัวเอง ดูดเอาขี้ฝุ่นที่ติดธุลีพระบาทอยู่นั้นล่ะ รู้จะได้เวลาแล้ว อ้าว กลับเข้าที่ ซะเด้อ ไปเข้าที่ซะ อย่าไปทำลายมนุษย์เด้อ มนุษย์เลี้ยง พระบรมศาสดาก็มนุษย์นั่นแหละเลี้ยง เพราะฉะนั้นจะเราทำลายมนุษย์แล้วใครจะเลี้ยงพระบรมศาสดาเอาล่ะ เออ น้ำตาพัง โอ้ ลุกขึ้นได้ถวายบังคม... เข้าใจว่าถวายบังคม ยกงวงขึ้นสูงๆ เอาลง ๒ ที ๓ ที แล้วก็ลุกขึ้นได้ ก็วิ่งแจ้นเข้าจำโรง ที่อยู่ของตัวเองอยู่ที่ไหน ไปเข้า ไปเสียใจอยู่ที่โน้น เสียใจว่าทำลายสมบัติของมนุษย์ ทำลายเพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย ตายไปตั้งหลายคน
เรานี่แย่ ถ้าเราไม่พบพระบรมศาสดา เราก็จะทำต่อไปอีก เออ เพราะเขาเอาเหล้ามาให้เรากินหลายขนาน หลายสำนัก หลาย หลายขวด หลายแล้วอยู่ กินเข้าไปๆ หลายๆ รอบ เพิ่นก็เมาสิปะเนี่ย อ่ะ เมาเหล้าแล้วก็ทำลายอาละวาด นั่น บุคคลผู้อิจฉาริษยามี อิจฉาริษยา ช้างจะฆ่าพระบรมศาสดา ถ้าพระบรมศาสดาตายซะแล้ว มรณภาพไปแล้ว ก็ไม่มีก้างขวางคอเรา เราจะทำอะไรก็ได้ คิดไปอย่างนั้น ผู้ที่วางแผนน่ะ อืม ไอ้เราเป็นมนุษย์ปะเนี่ย ไม่ใช่ช้าง สัตว์เดรัจฉานอย่างงั้น ไม่ใช่อย่างงั้น เราเป็นมนุษย์ เราอย่าทำลายกับผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีคุณธรรมสูงล้นฟ้า อืม มหาศาลขนาดนี้ เราจะทำได้อย่างไร โธ่ๆๆ ถ้าท่านไม่มาโปรดเรา เราก็จะทำลายสิ่งของ สิ่งที่เป็นประโยชน์ของมนุษย์ พังบ้านก็ดี เล้าข้าวหลังเฮือน(บ้าน)ก็ดี พังเป็นแถวๆ ไป เออ นี่เราทำเสียหายไปแล้ว วิ่งแจ้นไป เข้าจำลองเอาเองไป เข้าที่กัก กักขังเอง แล้วก็ทรมานตนเอง ตัวเองน่ะทำลายสิ่งของ ของประชาชนมหาศาลแล้ว มากมาย บางคนก็ล้มตายก็มี เจ็บป่วยไปก็มี เสียใจหลาย เดินไปเข้าจำลองเอง ไม่กินข้าว ไม่กินน้ำกินอะไรแล้ว กินก็บ่พอไปนั่นแหละ อดๆ อยากๆ ก็อยุ่ได้ แม้แต่ช้างร้ายกาจตกมันซะด้วย เอา เอาเหล้ามา เพิ่มเหล้าเข้าไป เพิ่มดีกรีเข้าไป เออ มันก็ฟัดแหลกทุกอย่างล่ะ อะไรขวางหน้าฟัดแหลกทุกอย่าง อ่ะ อันนี้เราได้ฟังเพิ่นเล่านิทานให้เราฟัง โอโห้ พระบรมศาสดาถ้าอย่างงั้น ก็ถูกช้างฆ่าตายแล้ว ความเมตตาปรานีไม่มีแล้ว ฟาดฟันไปหมด ตายเป็นเบือตั้งหลาย คนทั้งหลาย เออ
ผู้ที่เข้าทางพระเทวทัตก็ยืนมองอยู่เฉยๆ ขึ้นตามหลังคาบ้าน หลังคาเรือนไป เลือบมองดูคอยสังเกตการณ์อยู่ แต่มันไปทำความเคารพพระบรมศาสดาแล้ว หัวใจของเพิ่นก็ยอมเหมือนกัน ดูสิๆ พระบรมศาสดามาลูบหัวให้ ตีหัวให้ โอ้ย กว่ามันจะเอามือรวบขาพระบรมศาสดาตีกับพื้นดิน เนี่ยไม่มีเลย ดูดเอาขี้ฝุ่นเฉยๆ ดูดเอาขี้ฝุ่นที่รอบพระบาท รอบรอยพระบาทที่มันยืนอยู่นั่นแหละ เอามาพ่นใส่หัวตัวเอง ดูดเอาๆๆ มาพ่นใส่หัวตัวเอง ๒ ที ๓ ที ก็แจ้งวาบออกเลย ความมืดมน อนธการ หายไปเลยอย่างนี้ เพราะฉะนั้น ช้างเป็นสัตว์เดรัจฉานขนาดนั้นยังรู้จัก อ้า คุณของพระรัตนตรัย รู้จักคุณของพระพุทธเจ้า ผู้เลี้ยงดูเรามา ให้ความอุปถัมภ์บำรุงแก่เรามา แม้แต่ช้างแท้ๆ ยังรู้ เพราะฉะนั้น
พวกเราเป็นมนุษย์ ไม่ใช่สัตว์ธรรมดา
เรายังจะให้กิเลสเหล่านั้นมาขี่คอเราได้อยู่หรือ
ความอิจฉา ริษยา พยาบาท อาฆาต จองเวร จองกรรมชนิดนั้น ยังจะมาขี่คอเราได้อยู่หรือ พวกเราเป็นมนุษย์ ต้องให้มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกับช้างนั้นบ้าง ให้ดียิ่งกว่าช้างซะอีกก็ได้ เออ ผู้ที่รู้ตัวแล้ว กลับเนื้อกลับตัวกลายเป็นคนดีซะ ส่วนพระเทวทัตนั้นก็ถูกแผ่นดินสูบไปเลย เขาหาบมาให้ เขาหาบมาจะมาขอขมาลาโทษต่อพระบรมศาสดา ขอขมาลาโทษ เพิ่นก็จะยกโทษให้บ้าง ยังไม่ได้ขอขมาลาโทษซะด้วย มันดูดลงไปแล้ว ดูดลงไปถึงหัวเข่า ถึงเอว ถึงหัวใจแล้วๆ พระ พระบรมศาสดาได้ยินข่าวว่าแผ่นดินสูบพระเทวทัตแล้ว โอ้ย สงสารเธอนะ เราสงสารเธอ เธอคิดผิด เธอทำผิด เราจะไปเยี่ยมดูซะหน่อยเป็นไง มันดูดลงไปแล้ว พอเห็นพระพุทธเจ้ามา มือก็ไม่ได้ยกแล้ว เอาคางเนี่ย คางเนี่ยบูชา ขอบูชาพระบรมศาสดาด้วยดูก(กระดูก)คางเนี่ย มือ ดินสูบเอาไปแล้ว ดินสูบลงไปหมดแล้ว ยกมือไหว้ก็ไม่มีแล้ว เอาคางนี่แหละบูชา อ้า พระพุทธเจ้าท่านยังว่า เธอยังมีความสามัญสำนึกอยู่ ยังบูชาเราด้วยดูก(กระดูก)คาง แต่อย่างนั้นน่ะ แผ่นดินพสุธารับไว้ไม่ไหว มันหนักแผ่นดิน คนหนักแผ่นดินเนี่ย เขาก็เจ็บกันอยู่ทุกวันเนี่ยล่ะ คนไหนหนักแผ่นดินเขาก็เจ็บกันอยู่ ทุกวันๆ คนไหนทำตนเป็นภัยสังคม หนักแผ่นดินหนัก อ้า เขาก็เจ็บกันไปทุกวันๆ ล่ะ อ้า เป็นอย่างงั้น เพราะฉะนั้น เราเป็นมนุษย์ อย่าให้เป็นคนหนักแผ่นดิน ให้แผ่นดินเบาอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ อยู่ตามภูตามเขาที่ไหนก็อยู่ได้ ไม่มีอะไรเบียดเบียนได้ ผู้เมตตากรุณาต่อสัตว์อื่น เพราะฉะนั้น พวกเราจงเจริญเมตตาให้มากๆ
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
อะเวรา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพ๎ยาปัชฌา
อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อ้า เราแผ่เมตตากันอยู่ ทุกวันๆ ก็ให้มันยิ่งกว่าช้างนาฬาคิริงน่ะ เออ ที่วิเศษกว่าช้างทั้งหลาย เออ จะร้ายกาจมาขนาดไหนก็ตาม อำนาจเมตตาสามารถ ทำให้ใจอ่อนลงไปได้เลย เออ ไม่ต้องให้ช้างมาทำให้ใจอ่อนหรอก ใจของเรานั่นเองแหละ ทำให้ใจของเราอ่อน ขอพึ่งพระรัตนตรัย พึ่งพระพุทธเจ้า พึ่งพระธรรม พึ่งพระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ที่ระลึก กำจัดทุกข์ภัยได้จริง อ้า ให้เราระลึกเสมอๆ แผ่เมตตาให้เต็มดวง ทุกวันๆ อ้า เราก็จะได้อยู่เย็นเป็นสุข ไม่ได้มีอะไรมาเบียดเบียนเราอีกเลย
ไม่ใช่ สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลาย
เอาไปซื้อไปขายได้เงินแล้ว ไม่ใช่อย่างงั้นนะ เฮอะ
แผ่เมตตาต้องเฮ็ด(ทำ)จริงๆ ให้เขาปลอดภัยจริงๆ อ้า เนี่ย เทศน์แบบ ธรรมดาสอนโลก เพิ่นสอนกันอย่างงั้น พระพุทธเจ้าสอนมาอย่างนั้น แผ่เมตตาให้สัตว์ให้ทั้งหลาย สัตว์ก็ใจอ่อน เออ ไม่ได้เบียดเบียนใครอีกต่อไปเลย ขนาดนั้น พวกเราต้องแผ่เมตตามากๆ ไม่มีใครที่จะเบียดเบียนได้หรอก ใจอ่อนไปหมด แม้แต่ช้างนาฬาคิริง ตกมันอย่างร้ายกาจ กินเหล้าหมดหลายชะลอม หลายไหอยู่ กินเหล้าลงไปๆ มอมเมา เออ มึน มองอะไรไม่รู้เรื่องแล้ว มีแต่ออกอาละวาดฟาดฟัน บ้านช่องห้องหับ พังระเนระนาดไป คนผู้ไหนหนีไม่ทัน หนีไม่พ้นก็จับขาฟาดใส่ใส่ไม้ใส่ไรไป ตายไปเป็นเบือ แต่ ถ้าพระพุทธเจ้าไปแผ่เมตตาแล้ว ทำไมจึงใจอ่อนได้ นาฬาคิริงเอยสงสาร ลูกพ่อ ถูกเขามอมเมาเหล้า เจ้าก็ลืมตาอ้าปากดูโลกไม่ถึงแล้ว อ้า ทำเบียดเบียนมนุษย์อย่างบาป พระเจ้าพระสงฆ์ก็ไม่เว้นวาย เอาไปหมดทุกอย่าง ดังนี้ เรียกว่าเมตตา
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ฯ
เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง
มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง ฯ
เพิ่นก็สอนให้พวกเราแผ่เมตตาอยู่ทุกวันๆ เพราะฉะนั้น พวกเราก็เอาเมตตานี้แหละ ได้มีในคำสอนอยู่ จับเอาได้แล้วท่องเอาได้แล้ว ก็ไปแผ่เมตตาอยู่เรื่อยๆ สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จะเป็นมนุษย์ก็ตาม จะสัตว์ป่าก็ตาม สัตว์เลี้ยงก็ตาม ถ้าเราแผ่เมตตาอยู่เรื่อยๆ เขาก็ได้พึ่งพาอาศัยเรา อ้า ไม่เบียดเบียนเรา ช่วยงานช่วยการเราก็ได้ พวกช้างลาก ช้างลากไม้ ลากของให้มนุษย์ เอามาทำบ้านทำช่อง อ้า ด้วยความเมตตาของมนุษย์นั่นเอง
ไม่ใช่ สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลาย
เอาไปซื้อไปขายได้เงินแล้ว ไม่ใช่อย่างงั้นนะ
เมตตาน่ะ เออ เฮ็ด(ทำ)จริงๆ เว้นจริงๆ ถ้าเอาหัวใจแลกเอา ต้องการฆ่าเราก็ฆ่าซะ เออ ฆ่าซะ สั่งให้สาใจเลยเจ้าของต้องการอยากให้เธอน่ะ มาทำลายตถาคต ทั้งเอาเหล้ามาเลี้ยงเธอ เอายาอะไรมาเลี้ยงเธอ ให้มึนเมาไม่รู้เนื้อรู้ตัว เขาต้องการอยากให้เธอนั้น ฆ่าพระบรมศาสดา เธอจะฆ่าได้จริงหรือ ฆ่าพระบรมศาสดา ฆ่าได้จริงหรือ ส่ายหัวเลย ฆ่าไม่ได้ๆๆ ขอเอาขี้ฝุ่นติดฝ่าพระบาทมาโรยหัวตัวเอง เท่านั้นล่ะ หูแจ้งวาบออกเลย เอาขี้ฝุ่น ดูดขี้ฝุ่นในฝ่าพระบาทของพระพุทธเจ้า มาโรยหัวตัวเองแค่นั้น ก็เป็นยาวิเศษที่สุด เพราะฉะนั้น พวกเราเป็นมนุษย์ เป็นผู้รู้จักศีลธรรมดี มีการศึกษาสูง อยู่ร่วมกันกับเพื่อนมนุษย์ก็อย่าไปเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ให้เอาช้างนาฬาคิริงนั่นเป็นตัวอย่าง ถึงว่าร้ายกาจขนาดไหนก็ตาม จะยุบลงไปได้เลย เอาขี้ละอองติดพระบาทของพระบรมศาสดามาเป่าใส่หัวตัวเอง เท่านั้นก็แจ้งวาบไปเลย อืม
อัศจรรย์ใจไหม อัศจรรย์ใจโอ้ โสนในหนองสิเกิดเป็นไม้แก่น อันนี้คำสอนของหลวงปู่มั่น
อัศจรรย์ใจโอ้ โสนในหนองสิกลายเป็นไม้แก่น
ขึ้นมาแล้วพร้ากะสิป่านขวานกะสิเป้เพย่อนแก่นโสน
เพิ่นว่าไว้เป็นกลอน เป็นกาพย์ไว้หรอก อ้า
อัศจรรย์ใจแข้ หางยาวๆ สังบ่ได้ฮองนั่ง บาดกระต่ายหาง
ก้อมๆ สังมาได้นั่งฮอง เออ มันรู้จักวิธีนั่ง นั่งหางตัวเองนะ
แข้หางยาวๆ บ่ได้ฮองนั่งดอก เก็บไปอยู่โน้นล่ะ
เอาล่ะทุกคน ที่พูดเป็นปกิณณกนัย ต้องการให้อุบาสก ทายก ทายิกา ผู้จำศีลภาวนาทั้งหลาย จงยึดเอาธรรมะ มาขัดเกลาจิตใจตัวเองให้มันอ่อน เคารพนบน้อมต่อพระบรมศาสดาอย่างจริงอย่างจัง ยิ่งกว่าช้างนาฬาคิริงนั่นอีก เออ เพิ่นร้ายกาจขนาดไหนก็ยังทรมานได้อยู่ได้ พวกเราเป็นชาวพุทธ เป็นผู้นับถือพระพุทธเจ้า เคารพพระศาสดา เคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทั้งสามอย่าง เอาชีวิตจิตใจเข้าแลกเอา เออ เอาให้ใจอ่อนลงไป ยิ่งกว่านาฬาคิริงนั่นอีก เราเป็นมนุษย์ ทำประโยชน์ให้เพื่อนมนุษย์ร่วมโลกกันให้เต็มที่ อืม ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้นล่ะ เอาเต็มที่ เอาชีวิตแลกเอา แลกเอาคุณธรรม อ้า ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ แม้แต่ช้างนาฬาคิริงก็ยังเอาอยู่ แม้แต่ลิง ไปหาผลหมากรากไม้ หารังผึ้ง รังต่อ รังแตน มาถวายพระบรมศาสดา อ้า พระบรมศาสดารับแล้ว รับจากมือลิงแล้ว ดีใจหลาย เห็นเพิ่นจับมาอม มาเสวย อ้า ดีใจเต้นไป เต้นมา ก๊อกเก็กๆ ไปแล้ว โดดไปตามกิ่งไม้ทั้งหลายทั้งปวง ดีใจที่สุดน่ะ ดีใจหลาย ปลื้มใจที่สุด ก็เลยไปโดดใส่กิ่งไม้แห้งๆ กิ่งไม้แห้งๆ ก็ผ่า ถากลงไป โดยไม่ได้ระวัง ระวังตัว หักก็แล้วหัวไปโหม่งกับก้อนหินเข้าไปแล้ว แตก เอาก้อนหินแล้วก็ ชักดิ้นชักงอ ตายในขณะที่กำลังดีใจ เลยไปขึ้นเทวบุตร เนี่ย เพิ่นว่าลิงตัวนั้น ได้เป็นเทวบุตร เทวดาขึ้นในเทวโลก วานรเทวบุตร แอ้ ช้างตัวนี้มันจะไปยังไงก็ไม่รู้อ่ะ เวลาตายไป ไปนรกหรือเปล่า ไม่ทรมาน พระบรมศาสดาก็อยากได้มีความเคารพ นับถือ บูชาน้ำใจ พระบรมศาสดาอุปถัมภ์บำรุง ช้างเอาบัวฝักบัวถวายเพิ่นเท่านั้น เออ ลิงได้รังผึ้งมาก็ เอาออกหมด เอาแม่ออกหมด เอาอะไรมันออกหมดไม่มี มีแต่หัวน้ำ ยกไปถวายของพระบรมศาสดา เพิ่นก็เอื้อมพระหัตถ์รับ ก็ไม่มีอะไรก็เลยรับ รับได้ รับแล้วก็ฉันให้ดู ดูดให้ดู ลิงก็ดีใจใหญ่ ปัดโธ่ เพิ่นไม่รังเกียจเราเลย แม้แต่เง้าบัวกองบัวที่ช้างเอามา ก็กินเรียบหมด แต่ของเรา นึกว่าเพิ่นจะรังเกียจ เริ่มต้นเพิ่นก็ไม่รับ มันมีแม่มีลูกมีอะไรอยู่เพิ่นก็ไม่รับ พอเพิ่น มันเก็บแม่มันออกหมด เก็บลูกมันออกหมดเลย เหลือแต่หัวน้ำบริสุทธิ์ผุดผ่อง พระบรมศาสดารับแล้วก็ดูดให้ดู ดูด โอ้ พยักหน้า แต่พูดภาษากันไม่รู้เรื่อง พยักหน้าเอา เออ ดีๆๆ เท่านั้นแหละ เฮอะๆ เท่านั้นแหละ ลิงดีอกดีใจ วิ่งโลดโดดเต้น เต้นไปกิ่งนั้นกิ่งนี้ ง่ามนั้นง่ามนี่ โดดไปไม่ได้ระวัง ก็จะมีง่ามไม้ตรงไหนก็ไป ตรงไหนล่ะ ไปถูกไม้แห้งเข้า ไม้แห้งๆ มันคว้าแล้วมันจะหักอยู่แล้ว ไปถูกก็หักโกรกลงก็มี จะสาวแส้อะไรก็ไม่ได้ มันก็ดิ่งลงไปสู่แผ่นพสุธา แผ่นหิน .หัวไปวัดกับหิน ก็เลยชักดิ้นชักงอตายในเวลาดีใจเท่านั้นล่ะ กำลังดีใจ กำลังปลื้ม กำลังปิติ ปราโมทย์อย่างแรง เพราะฉะนั้น เกิดเป็นเทวบุตร วานรเทวบุตรบ่ อ่ะ นั่น เพราะฉะนั้น พวกเราเป็นมนุษย์ มันดีกว่านั้น ดีกว่าพวกลิงทั้งหลาย งดเว้นตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ลักจกฉกฉ้อ ไม่ปล้น ไม่จี้ ไม่คด ไม่โกงซึ่งกันและกัน ซื่อสัตย์สุจริตต่อกันเข้า ความรักกันมั่นคงเข้ามา เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คนไทยเรารักชาติจริงๆ ไม่รักแต่เป็นชาติเท่านั้น รักด้วยหัวใจจริงๆ อืม รักด้วยชีวิตจิตใจ ขอเทิดทูนบูชาพระบรมศาสดาอย่างลึกซึ้ง ไม่ได้ธรรมดา ไม่ได้ว่าแต่
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
เราไม่ได้ว่าเท่านั้น เราถือเป็นสรณะที่พึ่งจริงๆ เออ เมืองอินเดียเขาก็เอาอยู่ เมืองอินเดียเขาก็สวดมนต์อยู่
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ดังใส่ไมโครโฟนทั่วบ้านทั่วเมืองล่ะ แต่ว่าเราฟังออก ดูเอา เขาสวดมนต์เว้ยๆ เอา
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ได้ยินดัง ได้ยินชัดแจ้ง เพราะเป็นภาษามคธ เต็ม ได้ยินทั่วตลาดบ้านเมืองทั้งหลายน่ะ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
เนี่ย ภาษามคธ เอาไปสักนิดสักหน่อย หึหึ เฮอะ เพราะเราเป็นมนุษย์ มีพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่ง มีตั้งหลายวัดวาอาราม ที่เรารับผิดชอบอยู่ อืม วัดวาอารามทั้งหลายก็ได้พึ่งพาอาศัยญาติโยมนั่นแหละ ให้ความอุปถัมภ์บำรุง เลี้ยงดู อืม ปูเสื่อ ไม่ต้อง เลี้ยงดู ปูเสื่อเนี่ยเพิ่นปูเอาก็ได้ เออ มีเตียงให้นอน มีที่ให้นอน มีหมอนให้หนุนอย่างดี หนาวก็มีผ้าให้ห่มอย่างนี้แหละ ดังที่แสดงมา เพื่อต้องการให้ศรัทธาญาติโยมได้สลดในใจตัวเอง อย่าทอดทิ้งนิ่งดูดายต่อ
พุทธรัตนะ
ธรรมรัตนะ
สังฆรัตนะ
ถือมั่น ยึดมั่น ถือมั่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ต่อแต่นั้นก็จะเกิดมีความสุขทางใจ มีความสุขอิ่มอกอิ่มใจ ตลอดวัน ตลอดคืน นั่งสมาธิภาวนาก็ รวมเอาๆ ไม่ได้มีใครบังคับหรอก มันรวมเองริดลงไปเอง
พุทโธคำเดียว พุทโธคำเดียว
สว่างไสวขึ้นมา ในใจ ดังที่แสดงมา เหนื่อยแล้วนะ เหนื่อยแล้ว ขอสมมติยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
สรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ถือเอาพระพุทธเจ้า เป็นสรณะ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ถือเอาพระธรรม เป็นสรณะ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ถือเอาพระสงฆ์ เป็นสรณะ
รัตนะ แก้วหรือสิ่งประเสริฐ ๓ ประการ คือ
พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ
สิกขาบท ๕
ปาณาติปาตา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการฆ่า เบียดเบียนสัตว์อื่น
อะทินนาทานา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการถือเอาของที่เขามิได้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย
กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการประพฤติผิดในกาม ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น
มุสาวาทา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากของเมา คือ สุราอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
การงาน ๑ วิชา ๑ ธรรม ๑ ศีล ๑ ชีวิตอันอุดม ๑
ทานัง เทติ
การให้ทาน
นิสสะยะปัจจัย
ปัจจัยโดยเป็นที่อาศัย
พุทธชัยมงคลคาถา
(บทคัดบางส่วน)
นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
พญาช้างชื่อ นาฬาคิรี ตกมัน
ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
ดุร้ายยิ่งนัก ประดุจไฟป่า จักราวุธ และสายฟ้า
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
พระจอมมุนีทรงเอาชนะได้ด้วยวิธีรดด้วยน้ำ คือ เมตตา
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ
ด้วยเดชแห่งชัยชนะนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน
พ๎รัห๎มวิหารผรณา
บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ถึงความสุข
สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร
สัพเพ สัตตา อัพ๎ยาปัชฌา โหนตุ
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนกัน
สัพเพ สัตตา อะนีฆา โหนตุ
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีทุกข์กายทุกข์ใจ
สัพเพ สัตตา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงรักษาตนให้อยู่เป็นสุขเถิด
ปะสาทะ
ความเลื่อมใส ความชื่นบานผ่องใส
กรณียเมตตสูตร
(บทคัดบางส่วน)
เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง
ผู้ฉลาดพึงเจริญเมตตาในสัตว์ทั้งปวง
มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
ไม่มีประมาณไปในโลกทั้งสิ้น
อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ
ทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องขวาง
อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง
ไม่มีขอบเขต ไม่มีเวร ไม่มีศัตรู
ติฎฐัญจะรัง นิสินโน วา
ผู้เจริญเมตตายืนอยู่ก็ดี เดินอยู่ก็ดี นั่งอยู่ก็ดี
สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ
นอนอยู่ก็ดี พึงเป็นผู้ปราศจากความง่วง
(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ ธรรมบท อุทาน
สุตตนิบาต ข้อ ๑๐ บทคัดบางส่วน)
คำผญา
อัศจรรย์ใจโอ้ โสนในหนองสิกลายเป็นไม้แก่น
ขึ้นมาแล้วพร้ากะสิป่านขวานกะสิเป้เพย่อนแก่นโสน
(ต้นดอกโสนเป็นไม้อ่อน ใจกลางลำต้นลู่ลม
เปรียบดัง คนหรือพระที่เคยอ่อนน้อมถ่อมตน
พอนานๆ ไปกลับแข็งกระด้างไม่ลงใคร
แม้มีดขวานก็บิ่นเมื่อไปฟาดฟัน เพราะความแข็งกระด้าง
ของคนเหล่านั้น มีทิฐิมานะมาก ดื้อรั้นดันทุรัง ไม่ฟังใคร
ย่อมมีแต่ความเสื่อม)
อัศจรรย์ใจแข้ หางยาวๆ สังบ่ได้ฮองนั่ง บาดกระต่ายหาง
ก้อมๆ สังมาได้นั่งฮอง เออ มันรู้จักวิธีนั่ง นั่งหางตัวเองนะ
แข้หางยาวๆ บ่ได้ฮองนั่งดอก
(อัศจรรย์ใจ ที่ผู้มีความรู้มามากๆ ไม่สามารถช่วยเหลือ
ตัวเองได้ แต่ผู้ร่ำเรียนมาน้อยกลับมีความสามารถ
ประกอบอาชีพการงานได้สำเร็จและมั่นคงในชีวิต)
อนธการ [อน-ทะ-การ] ความมืดมัว ความโง่เขลา
บทสรรเสริญพระพุทธคุณ (ทำนองสรภัญญะ)
องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน
ตัดมูลกิเลศมาร บ่ มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว
ราคี บ่ พันพัว สุวคนธกำจร
องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร
โปรดหมู่ประชากร มละโอฆะกันดาร
ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมสานต์
ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย
พร้อมเบ็ญจพิธจัก- ษุจรัสวิมลใส
เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง
กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปแห่งชายหญิง
สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ
ข้าขอประณตน้อม ศิระเกล้าบังคมคุณ
สัมพุทธการุญ- ญภาพนั้นนิรันดร ฯ
พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร)
ป.ธ. ๘ องคมนตรีและเจ้ากรมพระอาลักษณ์ในรัชกาลที่ ๕
ท่านแปลบทสรรเสริญคุณต่างๆ เป็นฉันท์ภาษาไทย
เรียก “คำนมัสการคุณานุคุณ” มี ๕ ตอน คือ
บทสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
มาตาปิตุคุณ อาจาริยคุณ ตามลำดับ และ
เป็นผู้แต่งตำราเรียน “แบบเรียนหลวง” ชุดแรกของไทย
๔๔