หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
งานทำบุญฉลองอาคารวรลาโภ (๓๐ เตียง)
วันอังคารที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๙.๐๐ น.
ณ โรงพยาบาลศรีเชียงใหม่
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
เอ้า ขอเชิญ ท่านทั้งหลาย ผู้มาประชุมกันในสันนิบาตแห่งนี้ รวมมาบำเพ็ญกุศลกันที่นี้ แล้วก็... คิดออก เครื่องบังสุกุลทั้งหลายนี่น่ะ ถ้าพระคุณเจ้าเอาไปแล้ว ให้มันเกิดประโยชน์
เท่าที่ควร ทำความเจริญช่วยกัน คนทุกหมู่เหล่าเป็นเจ้าของ
โรงพยาบาลกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้น จะพูดย่อๆ ให้ได้ใจความตลอด
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี สะมัคคานัง ตะโป สุโข
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา
อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ อัตโถ
สาธายัสมันเตหิ สักกัจจัง ธัมโม โสตัพโพติ
ขอให้ตั้งใจฟัง ท่านว่าไป ว่าไปเรื่องของเราหรือเรื่องของธรรมะ อยู่ในพระไตรปิฎกมากมายก่ายเกิน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
มีแต่บัญญัติเรื่องของมนุษย์ทั้งนั้น ถ้ามนุษย์ไม่ประพฤติปฏิบัติตาม ก็คำสั่งสอนนั้นไม่มีความหมายเลย อืม ถ้าเรายึดเอาเป็นข้อวัตรปฏิบัติประจำตัวของเราเอง เราก็จะได้ประโยชน์ในการฟัง ให้ระลึกเสมอๆ ถ้าฟังไปแล้วไม่ขบคิด ไม่พินิจพิจารณาอะไรเลย ก็ไม่ออก นึกไม่ออก ตำหูตำตาอยู่ ก็ไม่ อืม ไม่ดูกัน ไม่แลกัน ที่จริงสมบัติส่วนกลาง โรงพยาบาลเป็นสมบัติของประเทศชาติ บ้านเมือง ของประชาชนทุกหมู่เหล่า ก็ต้องอาศัยโรงพยาบาล เป็นที่บำบัดโรค โรคอะไรๆ เราไม่มีปัญญาที่จะแก้ไข วิ่งมาหาโรงพยาบาล โรคปัจจุบันอย่างนี้จะเอาอะไรมาแก้ให้ทัน อย่างอหิวาตกโรคอย่างนี้เป็นต้น หรือว่าไข้เลือดออก หรืออะไรเหล่านี้เป็นต้น มันช่วยตัวเองไม่ได้แล้ว คนที่ป่วยช่วยตัวเองไม่ได้ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้รักษา การจะประพฤติปฏิบัติกัน ถ้าไม่เอาใจช่วยกัน ก็ชื่อว่าหลอกลวงโลก ตั้งโรงพยาบาลขึ้นหลอกลวงโลก ไม่ช่วยกันเลย คนเจ็บ คนป่วย คนอุบัติเหตุใดๆ เกิดขึ้น หามกันเข้ามา แบกกันเข้ามา ต้องมีห้องพิเศษ สำหรับห้องฉุกเฉิน เอาไว้จัดต้อนรับเหตุการณ์ปัจจุบันทันด่วน อุบัติเหตุเกิดขึ้นกับร่างกายเราได้ทุกอย่าง อหิวาตกโรคเป็นของที่แพร่ได้โดยง่าย แพร่ขยายโดยมาก ไข้เลือดออกทำนองนี้ เป็นของที่แพร่ แพร่พันธุ์หรือแพร่เชื้อมันไปได้ ได้รวดเร็ว เหมือนดังไฟลามทุ่ง โรคอหิวาตกโรค โรคฝีดาษ โรคอะไรต่ออะไร มันเกิดติดต่อกันได้ไปง่ายๆ หมอก็เอาใจใส่ ตั้งใจเมตตา ที่จะช่วยเหลือประชาชน พลเมือง คนทุกข์ก็มี คนรวยก็มี คนจนก็มี ไม่มีอะไรจะกินก็มี ลำบากขนาดไหน อันนี้ก็อยู่ในสายตาของผู้เป็นหัวหน้า อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้านายแพทย์ หรือพยาบาลที่รับอาสามา ดูแลรักษาให้ทันท่วงที ดูแลฉุกเฉินท่วงที อหิวาต์เกิดขึ้นแล้วอย่างงั้นอย่างงี้ มีเชื้ออหิวาต์จริงๆ แหละ ก็ใส่ยา ให้ถูกเรื่องถูกราวกัน ไข้เลือดออกเหล่านี้ มันเกิดขึ้นแล้วมันแพร่ขยายได้ง่ายๆ โดยมากก็ยุงนำเชื้อมาเผยแพร่ ให้กระจุยกระจายออกไปทั่ว ลูกเล็กเด็กแดงมันไม่รู้จักปาสงปะสาอะไร มันก็กินอันนั้น กินอันนี้ ไม่ระมัดระวัง อันนี้ก็ระวัง
ก็หลักการของแพทย์เขาบอกว่า ให้ทานแต่ของที่สุกแล้ว ร้อนๆ ถ้ามันข้ามคืนข้ามวันไปแล้ว มันมีโทษ มันมีโทษทำให้ท้องเสีย ท้องขึ้น ท้องร่วง โดยง่าย ไข้จับสั่นก็เหมือนกัน ถ้าเราแก้ไม่ถูกจุด ก็ขยาย เออ ขยายเชื้อ ออกไปได้ง่าย มันไปตามอากาศ มันไปตามแมลง แมลงวันชุมมาก นำเชื้ออหิวาตกโรคออกเผยแพร่ ไปโดน ไปแกง ไป... หรืออะไร ขามัน อยู่ในขามันล่ะ ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ในถ้วย ในจาน อย่างนั้นก็พึงรักษา ให้มี พวกทำครัวให้มีฝาปิด ฝาปิดหม้อ ฝาปิดถ้วย ปิดจานให้มิดชิด อย่าให้แมลงวันตอมได้ เออ ถ้าแมลงวันตอม แมลงตกลอยอยู่ อย่านำไปรับประทานอาหารเข้า เอาแล้ว เผยแพร่แล้ว ไปเผยแพร่เชื้อโรคแล้ว มันรวดเร็ว เนี่ย ไข้จับสั่น ไข้เลือดออก หรือว่าอหิวาตกโรคเหล่านี้ ของเหล่านี้มันแพร่ง่ายๆ เพราะฉะนั้น อืม เราต้องช่วยกัน เป็นหู เป็นตา ไม่ได้เมินเฉย อยู่เฉยๆ เห็นมันเกิดขึ้นที่ไหนๆ อ้า นำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว โรงพยาบาลรับผิดชอบ เรื่องนี้มันแก้ไขง่ายๆ ไข้จับสั่น ไข้อะไรเหล่านี้ อหิวาตกโรค มันก็ติดเชื้อมาจากอาหารการกิน ถ้ามันข้ามคืนข้ามวันไปแล้วเอามากิน แมลงวันลอยแล้ว ตอมแล้ว อันนี้ก็ทำให้แพร่ขยายเชื้อ ได้โดยเร็ว พรวดพราดๆ ปานไฟไหม้ป่าน่ะ เพราะฉะนั้น คำว่า
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
ภาษิตข้อนี้นั้น เป็นของควรนำพิจารณา รักษาความสะอาด ให้ทั่วถึงทุกอย่าง ถ้าข้ามคืนข้าม... ข้ามวันไป ถ้าจะนำมารับประทานอาหารก็ฆ่าเชื้อมันก่อน แมลง แมงวันมันตอม มันลอย มันจับ ผลหมากรากไม้เยอะแยะในฤดูกาลนี้ ตามเมืองใหญ่ๆ หัวเมืองใหญ่ๆ แมลงวันเป็นฝูงหนึ่ง เป็นฝูงๆ มันมาเป็นหมู่ เป็นพวกกลุ่ม มาแล้วเห็นอาหาร มันก็โดดใส่ลอยเลย ลอยใส่อาหารเลย เชื้อมันติดแข้ง ติดขามันมา มันไปไหน มันก็กระจายออกไปเรื่อยๆ ถ้าขืนเอาไปรับประทาน ในเวลาเราหิวๆ เราก็กินไม่ระมัดระวังล่ะ ระวังเชื้อโรคจะขยายพันธุ์ อันนี้ต้องเอาใจใส่พิเศษ อย่าเมินเฉย ลูกหลานของเรายังไม่เดียงสา เป็นเด็กๆ อยู่ ไม่เดียงสา ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนสูง ก็เอาของข้ามคืนข้ามวัน ของแมลงลอยตก แมลงตอม และก็มาเลี้ยงกันอย่างสบาย แต่ว่ากินเข้าไปแล้ว มันไปออกฤทธิ์ในกระเพาะพู้น(โน้น) ออกไปในกระเพาะ เกิดเจ็บท้องปัจจุบันทันด่วนขึ้น จุกเสียดขึ้นมา ก็ฮาก(อาเจียน)ๆ ถ้าฮาก(อาเจียน)ไม่ออก มันก็ติดเชื้ออยู่ในนั้น แหละ อย่างนี้พึงเอาใจใส่ ผู้ใหญ่ๆ ผู้รู้จักภาวะฉุกเฉิน เอาใจใส่พิเศษ ให้รักษา ของมันข้ามวันข้ามคืนไป เอามาอุ่นไฟให้มันเดือดๆ ซะก่อน จึงค่อยรับประทานอาหาร เชื้อโรคก็ตายไป เออ ตายไปในการรักษาของเรา ก็ทำให้สุก ของดิบๆ สุก สุกๆ ดิบๆ อันนั้นก็เป็นโทษเหมือนกัน เออ
แต่ก่อน หลวงปู่เป็นเด็กอยู่ สมัยหลวงปู่เป็นเด็ก ยังไม่รู้เดียงสา กินทุกอย่าง ลาบไม่สุก แล้วก็เอาเลือดมาลอยมันอีก เลือดสดๆ เอามาลอยใส่กัน ผสมกันเข้า พอดีอาหารมันได้โอกาส มันขยายพันธุ์ของมันออกไป เหมือนดังไฟไหม้ป่า ไฟไหม้ป่าแต่ดับไม่ทันนะ มันรุนแรงมาก มีลมช่วยสักหน่อย พัดพาไป ก็ทำให้โรคไปติดต่อผู้อื่นได้โดยง่าย อันนี้ขอเตือน พวกเราบ้านนอก เราไม่ได้ศึกษาอยู่ศึกษาเรื่องเชื้อโรคแพร่ขยายพันธุ์ให้รวดเร็ว ถ้าเรารักษาจริงๆ ก็ปลอดภัยไป
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
เราจะต้องเอาใจใส่ในภาชนะน้ำ ภาชนะอาหาร เนี่ยให้พิจารณาให้ดี
ถ้าสงสัยอยู่ว่ามันมีแมลงวันตอม แมลงวันตกเอาเชื้อโรคลงใส่แล้ว เราก็ต้องไปอุ่นใหม่เสียก่อน ทำความเดือดให้มันซะก่อน ฆ่าเชื้อซะก่อน อย่าไปเอามาทานเฉยๆ หิวมากก็คุ้ย(เปิบอาหาร)เลยๆ อย่างนี้ มันมีโอกาส ยิ้มของเชื้อโรค ยิ้ม เสร็จเราแล้ว ไอ้พวกนี้มันกินอย่างนี้ กินสุกๆ ดิบๆ มีก้อย มีเลือด ต้ม มีแกง มีต้ม มีจืด ผัดหมี่ ผัดเมอ ข้ามคืนข้ามวันไป ก็นำเชื้อโรคมาหาเหมือนกัน อันนี้ก็ต้องบอกไปถึงลูกถึงหลานเรา ให้ลูกหลานเราช่วยกันระมัดระวัง อย่าเห็นแต่แก่กินเท่านั้น ทำให้มันสุก สะอาดหมดจดซะก่อน จึงค่อยกินกัน ถ้าเรารักษากันจริงๆ จังๆ เชื้อโรคก็ไม่สามารถจะแพร่ขยายพันธุ์ อ้า ออกไปติดต่อกับลูกหลานผู้ไม่รู้เดียงสา
พร้อม ความพร้อมเพรียงของคนหมู่ให้เกิดสุข ความพร้อมเพรียงของชนหมู่ใหญ่ ทำงานใหญ่ให้สำเร็จลุล่วงไป ยกตัวอย่างสมัยก่อนโน้น สมัยบ้านเมืองยังไม่เจริญ ถนนหนทางก็ไม่เจริญ ไปแพร่ขยายพันธ์ุเชื้อโรค ขยายออกมาได้รวดเร็ว โรคอหิวาต์ กินเข้าไปแล้วมันมีเชื้อติดเข้าไปด้วย ก็เกิดปวดท้องกระทันหัน แล้วก็ท้องร่วง ร่วงไม่หยุด ร่วงไม่ได้ มันอั้น บันยะบันยังไม่มีหรอก ไม่ อย่าไปทำอย่างนั้น ทำให้มันเอร็ดอร่อยซะก่อน แล้วก็ให้มันสุกซะก่อน เพราะฉะนั้น ทางวัดทางวาก็ควรช่วยกันดูแลอยู่ ถ้าอาหารสิ่งใดมันเย็นเกินไป มีเครื่องทำให้มันร้อน ให้มันสุกซะก่อน ให้เชื้อโรคมันตายซะก่อน จึงเอามาเลี้ยงกัน แล้วก็โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่ค่อยเกิดมีขึ้น ดังนี้เป็นตัวอย่าง ถ้าพูดถึงเชื้อมาเลเรีย เชื้ออะไร ที่มันเป็นยุง เป็นอะไร มันไปไข่ใส่น้ำ ไข่ใส่น้ำแล้วก็บินได้ไปเป็น ไม่กี่วันก็บินได้ไปเป็น เมื่อบินได้ไปเป็นแล้วก็หาอาหารที่ถูกปากมัน โดนถ้วยอาหาร มันลอยอยู่น้ำในอาหาร ถ้วยแกง ถ้วยต้ม อะไรลอยอยู่ในนั่น นั่นมีโอกาสที่จะนำเป็นภาชนะ นำเชื้อโรคมาสู่ลูก สู่หลานเราได้ อย่างนี้ไม่ต้องกระเหม็ดกระแหม่หน่อยล่ะ พิจารณาให้ดี กระเหม็ดกระแหม่ ทำให้สุกซะก่อน อย่าเพิ่งกินมูมมาม อ้า สวาปามเข้าไปเลย เห็นว่ามันอร่อย ลาบเลือด แมลงวันมันตอม ตายอยู่ในนั้นก็มี อันนั้นได้ผลทันใด เกิดอหิวาตกโรคขึ้น ท้องร่วงฉับพลัน เฉียบพลัน เอาไว้ได้ก็ได้ เอาไว้ไม่ได้ก็หมดลมหายใจเลย มัน มันถ่ายมาก
ถ้ามันมีเชื้ออหิวาต์มันมีอยู่ เราต้องฆ่าเชื้อให้มันตายซะก่อน อย่าให้เอาดิบๆ สุกๆ ดิบๆ มาเลี้ยงกัน อันนี้ก็เป็นมารยาทของสังคม เราอยู่ร่วมกัน ในสังคมมนุษย์ เราก็ช่วยกันเป็นหูเป็นตา พวกที่จะขายอาหารทั้งหวาน ทั้งคาว ต้มแกงอะไร ให้มันสุกซะก่อน จึงเอาไปถวายพระที่วัด ถ้ามันไม่ร้อนแล้วก็ มันก็เกิดปวดท้องกะทันหัน ท้องร่วงโดยเฉียบพลัน แล้วก็เอาไม่อยู่ ถ้ายาดีเหลือเกินมันก็เอาไว้ได้ ถ้ายาไม่ดี กินแล้วลงไปก็เฉยๆ เหมือนเวลากินน้ำธรรมดา ไม่ ไม่หยุด ไม่สงบ ไม่ระงับเชื้อโรคไว้ได้ ถ้าช่วยกันรักษาจริงจัง ทั้งพ่อบ้าน แม่บ้านก็ดี ลูกหลานก็ดี ผู้ทำอาหารหวานคาวก็ดี อะไรควรจะเททิ้งซะ ถ้ามันบูด มันเน่าหลายวัน หลายคืนมา ก็ส่งให้ท้องเสีย
ทำให้เกิดอหิวาตกโรคติดต่อกัน เหมือนดังไฟป่า ถ้ามันเกิดขึ้นมาแล้วไม่รีบดับ มีลมกรรโชกเข้ามาพัดเอาไฟชนิดนั้น เออ ปื้อๆๆ ไป ไปถูกหญ้าแห้งๆ ก็ไปกันใหญ่ อาจจะไหม้บ้าน ไหม้เมืองไปก็ได้ อ้า อาจจะทำให้มี ไม่มีที่อยู่ที่อาศัยก็ได้ เพราะว่าไม่ระมัดระวัง ให้ระมัดระวังให้ดี ช่วยกัน เขาว่าช่วยกันรักษา
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
ถ้าสามัคคีกันจริงๆ แล้วก็ช่วยดับไฟ... นั่นไฟก็ไม่ลามปามต่อไปอีกได้ หยุดแค่นั้น หายาที่มันถูกกับโรคมารักษา ให้ทันต่อเหตุการณ์ ดังนี้เป็นต้น เอ้ เราเป็นคนอยู่ในสังคมหมู่ใหญ่แล้ว ตั้งโรงพยาบาลขึ้น ตั้งโรงเรียนขึ้น ถ้าเด็กมันไม่เดียงสา มันก็สวาปามเข้าไปเลย กินไปเลย อะไรมันอร่อยถูกปาก ถูกคอ กินมันไปเลย นั่น มันเกี่ยว อืม ...นี้ไม่เกี่ยว ต้องรับผิดชอบผู้เป็นพ่อบ้าน แม่เรือนทั้งหลาย ดูแลลูกเต้าให้รู้จักของควร ของไม่ควรซะก่อน ของไหนควรรับประทานก็จึงค่อยกินกัน ผลหมากรากไม้ ก็อย่าแมลงวันตอมเหมือนกัน ตอมจนว่าลอยอยู่ในน้ำแกงก็มี เออ นั่นมันนำเชื้อ มันขยายเชื้อ อร่อย ถ้าพ่อบ้าน แม่บ้าน ผู้ปกครอง ไม่ระมัดระวังให้ลูกหลาน มันก็รักษาตัวไม่รอดเหมือนกัน หิวจัดๆ มาก็ลุยเลย กินเลย อะไรต่ออะไร ไม่ๆ ไม่กลัว ขอให้ได้กินก็พอ ทำอย่างนี้ก็เรียกว่าละเลยต่อหน้าที่ของตัวเอง ที่รับผิดชอบภายในครอบครัวของเรา อืม มันแพร่ขยายได้ง่าย โรค โรคหิด โรคกลาก โรคเกลื้อน เรื้อนกวาง โรคอะไรมันเกิดขึ้นมา มันสามารถที่ขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว ทันใจ ถ้าเราไม่ระงับมันเอาไว้ อาหารการกินทำสุกแล้วก็ดี ผ่านความร้อนแล้วก็ดี ก่อนจะเอามาแจกกันล่ะก็็มีฝาปิดไว้ก่อน มีฝาปิดมิดชิดไว้ก่อน อย่าให้แมลงวันตก เออ แมลงวันตอม สิ่งไหนจึงจะนำเชื้อโรคไปเผยแพร่ทำให้ลำบาก อืม ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วมันป้องกันยาก อ้า อันนี้ก็ขอฝากให้มีความเอาใจใส่เป็นพิเศษด้วย อย่าละเมิน ละเลย อ้า ละเลยอนามัย สิ่งที่จะทำให้นำเผยแพร่ ศาสตราอาวุธ
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
อันนี้เป็นต้น ความพร้อมเพรียงของหมู่ให้เกิดสุข ก็มีเหมือนกัน กำจัดสิ่งที่มันเป็นโทษ อย่าเอาไว้ ของเน่า ของเหม็นแล้ว มีแมลงวันตอมลงไป เวลาถ่ายห้องน้ำห้องส้วม ก็ไม่มีน้ำจะล้าง ทำนองนี้ก็เป็นการแพร่ได้เหมือนกัน ถ้ามีน้ำก็เทราดมันลงไป มันลงในรูส้วมซะ ให้มันลงไปอยู่ลึกพู้น(โน้น)น่ะ มันดันขึ้นมาอีกได้ อันนี้เป็น... ไม่ง่ายหรอก วิธีช่วยกันรักษาความปลอดภัยของชีวิตและครอบครัว ก็ไม่มีอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเรากระเหม็ดกระแหม่ รักษาจริงๆ จังๆ ต้นเหตุมันเกิดจากอะไร ก็หาเหตุมันซะก่อน เหตุมันดังที่พรรณนามาแล้วน่ะ อาหารสุกๆ ดิบๆ ก็เป็นสิ่งที่นำเชื้อโรคมาขยายพันธุ์ได้ ให้ป้องภัย ปลอดภัย เหมือนดังไฟไหม้ป่า
ในป่ามันมีไม้แห้ง หญ้าแห้ง ตรงไหนมีเป็นก่อฟืนก่อไฟ ใกล้ๆ เชื้อเพลิงชนิดนั้น ลมพัดครึ้มมา มันก็พัดเอาไฟไปด้วย ถ้าลงไฟติดแล้ว เราช่วยกันรักษาไม่ทัน ทำยังไง มันต้องดูแล ก่อไฟไว้แล้ว ถ้าเราจะหนีจากบ้านจากช่อง
ก็ให้ดูรอบคอบซะก่อน เราจะไปไร่ จะไปนา จะไปเรือก ไปสวน ไปทำธุรกิจส่วนตัว ระฟืน ระวังฟืน ระวังไฟ ถ้าปล่อยไว้มันลามไหม้ไฟ อันตรายเกิดได้ทุกเมื่อ ไฟไหม้บ้าน ไฟไหม้ที่อยู่ที่อาศัย เลินเล่อเผลอสติ ลืมดับไฟ หนีไปเข้าไร่เข้านา โน่น เวลาลมแรงๆ มาเราไม่ได้อยู่บ้าน มันก็พัดกองไฟ เชื้อเพลิงชนิดต่างๆ ปลิวว่อนไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ก็ทำให้เกิดไฟไหม้บ้านได้ ที่อยู่ที่อาศัยก็พังพินาศไป เป็นฉิบหาย คนมันอยู่บ้านต้องรอบคอบ
ถ้าเป็นกับคนกระเหม็ดกระแหม่ รอบคอบ ถ้าก่อไฟไว้แล้ว ลืมดับ มันก็เริ่มไปหาฟืนซะ ไฟมันก็มีจังหวะ พอลมแรงมา มันพัดเอาเชื้อเพลิงต่างๆ ที่ติดอยู่นั่นน่ะ ลม มันน่ากลัวน่ะ ลมอะไร ลมหัวกุด(ลมหมุน) ลมหมุน ลมอะไรพัดเข้ามาแรงๆ ในบ้านหลังน้อยๆ มันมากระจุยกระจายทั้งบ้านแหละ บ้านเราปลูกติดต่อกัน ถ้าบ้านไหนมันปิด มันก็อาจจะไปอีกบ้านหลังหนึ่งอีกเหมือนกัน เออ ถ้าเลินเล่อเผลอสติ ให้ระมัดระวัง ก่อนจะลงจากบ้าน หนีไปทำการทำงานอย่างอื่น ดูฟืนดูไฟซะก่อน ดับซะก่อน ให้มันหมดเชื้อเพลิง มันก็ไม่มีอะไรที่จะเป็นพิษเป็นภัยหรอก
อ้า อาจจะเป็นพิษเป็นภัย ก็เพราะเราเลินเล่อเผลอสติ ไม่ระมัด ไม่ระวัง หากไม่ดับฟืนดับไฟไว้ เปิดไฟไหม้ไว้ทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้ปิดสวิตซ์มันเลย ความร้อนมัน สูงเข้าๆๆ มันก็ช็อต(short ลัดวงจร) ช็อต(short ลัดวงจร)หลอดไฟแตก แตกกระจุยกระจายไปตามสายไฟ อันนั้นก็ทำให้ไหม้บ้าน ไหม้เรือน ได้เหมือนกัน มีทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าว่าเราปลูกบ้านปลูกช่องใหม่ๆ เอี่ยมๆ เราก็ต้องมีที่สวิตซ์ไฟสำหรับปิดไฟซะ ก่อนหลับก่อนนอน ดับฟืนดับไฟหรือยัง ถ้าไม่ดับ นอนหลับอุตุสบาย เกิดลมมาเวลานั้น ทำยังไง มันลอยละล่องพัลวัน มันปลิวกระจายไปทั่วบ้านทั่วช่องเชื้อเพลิงทั้งหลาย ต้องกระเหม็ดกระแหม่เรื่องฟืนเรื่องไฟ เป็นเรื่องฉิบหาย
ไฟภายนอก ก็เป็นภัยขนาดนั้น ไฟภายในมันก็มีอีกแหละ ไฟภายในก็มี มันเกิดขึ้นจากความโมโหโทโส แล้วก็ฟาดกันเลย โยนฟืนลงไป ฟาดกันเลย ก็แตกกระจุยกระจายไป มันก็ลามมาเด้ ไปทั่วทุ่งไร่ทุ่งนา ปลูกข้าวไว้เยอะๆ ถ้าเกิดฟืนเกิดไฟเวลานั้น ทำยังไง มันก็ปลิวเอาเชื้อเพลิงที่มันติดอยู่แล้วล่ะ ปลิวว่อนไป ลมหัวกุด(ลมหมุน)มันแรง มันปลิวเอาไปหมด ไปถูกหญ้าแห้ง ไปถูกข้าวของแห้งๆ หลังคามุงแฝก หลังคามุงหญ้าธรรมดา มันไปแล้วทำยังไงล่ะ โอ้ มันไปตกใส่หลังคา ทำยังไง เป็นห่วง
เห็นหางบั้งไฟอยู่ตามใกล้ๆ ถนนหนทาง และมีที่จุดบั้งไฟกันอีก อันนี้ก็อันตรายอีกล่ะ ถ้าไม่ระมัดระวัง สนุกสนาน เย้วๆ เฉยๆ ถ้าเกิดลมหมุนขึ้นมา เวลากำลังจะจุดบั้งไฟ มันเอาไป โอ้ย ไปไกลมาก เป็นบ้าน เป็นเมือง เป็นตลาด เป็นอะไร มันปลิวเข้าไปในโน้นน่ะ ปลิวเข้าไปแล้วติดเชื้อ เชื้อ มันเชื้อไฟเชื้อเพลิง มีน้ำมันอยู่ในนั้นด้วย เตาแก๊ส เตา... เหล่านี้ ก็เป็นเหตุให้เกิดไฟ เลินเล่อได้เหมือนกัน ถ้าเปิดแรงจนเกินไปหลาย สายไฟก็เปื่อย เกิดมันลุกขึ้นไปตามสายไฟ แอ้ เข้าบ้านไหน เมืองไหน พินาศฉิบหายไป
อันนี้ขอเตือน เป็นคำเตือนเบื้องต้น เราได้ยินได้ฟังแล้ว จด กำหนดจดจำเอานำไป แล้วก็นอน อย่าปล่อยลืมไว้ในบ้าน อย่าเปิดไฟไว้ตลอดคืนตลอดวัน ถ้ามันเกิดฟ้าผ่าลงมา ระวังมันก็ติดเชื้อง่ายๆ เป็นไฟไหม้บ้านไหม้เรือนกัน เป็นเยอะอยู่ในกรุงเทพฯ บ้านไม่ใช่ได้อยู่ห่างกันน่ะ อยู่ใกล้ๆ กัน ติดกันทุกบ้าน ทุกครัวเรือน ติดกับบ้านนั่น ติดแล้วทำไง บ้านใกล้ๆ กันทำไง เออ จะเอาทันหรือเปล่า ไฟฟ้าซะด้วย มันลุกตามสาย ฟ้าผ่าลงมาแล้วลุกตามสาย ไหม้ไป แล้วก็ลมมาช่วยอีก ปลิวไป ตามลมอีก แอ้ ก็ไฟให้ติดเชื้อบ้านอื่นเขาไปอีก ดังนี้ นี่ก็ว่าให้ช่วยกันระมัดระวัง อ้า อย่า เตาไฟติดไฟไว้ที่บ้านลืมดับ ตัวเองไปท้องไร่ท้องนา อันนี้ก็เสียหายมาหลายแล้ว เออ ลืม ถอยฟืนถอยไฟในเตาออก มันดับไปก่อน ปล่อยให้มันอยู่นั้น ถ้าเป็นสายไฟฟ้า มันช็อต(short ลัดวงจร)ขึ้นมา จะว่ายังไง แม้ผู้มีความรู้อยู่ก็เอาไม่ทันเพราะไฟฟ้ามันแรง มันติดปึบขึ้นมาแล้วต่อไป ลุกๆๆๆๆๆๆ ตามสายไปเรื่อยๆ อยู่ไปๆ เอิ้น(เรียก)พี่ เอิ้น(เรียก)น้องมาช่วย อยู่ที่ไหนล่ะพี่น้อง อยู่ใกล้กันมีไหม อ้า มีแต่เขาจะสมน้ำหน้า สมน้ำหน้าใช้อะไรไม่ระมัดระวัง อ้า ตั้งหม้อไว้ จนไฟไหม้หม้อ ไฟไหม้หม้อก็เป็นเชื้อเพลิง ทำให้เกิดไฟไหม้บ้านได้เหมือนกัน อืม เปิดเตาแก๊สไว้แรงๆ ลืมหรี่ ไม่หรี่ลงไว้ ลดไฟไว้หรือว่าดับไฟซะ ดับสวิตซ์มันซะ อย่าให้มันออกมาได้ ถ้ามีเหตุที่จะใช้งานใช้การจึงเปิดมัน อันนี้ความประมาทเป็นหนทางแห่งความฉิบหาย วินาศสันตะโรเกิดขึ้นมาได้ อยู่บ้าน อยู่เมือง อาคาร ตลาด ร้านอาหาร เหล่านี้เป็นที่ก่อชนวนให้เกิดไฟได้ ถ้าเราประมาทเมื่อไหร่เป็นต้องตาย เออ
วิริเยนะ ฯ
วิริเยนะ ทุกขะมัจเจติ
เพิ่นก็บอก ถ้ามันน่าเลินเล่อเผลอสติ ก็เป็นหนทางพินาศฉิบหายเหมือนกัน เพราะฉะนั้น พวกเรามีสมบัติส่วนรวมร่วมกันที่ใช้คือโรงพยาบาล โรงพยาบาลมีที่ใช้ร่วมกันได้ทุกคน คนไหนเจ็บ คนไหนป่วยไข้ เอาเข้าโรงพยาบาลปัจจุบันทันด่วนขึ้นมา ถ้ามีเชื้อเพลิงเชื้อไฟเอาไป ในเวลานั้นก็อาจจะเกิดไฟไหม้ เออ
ที่ห้องพักคนไข้คนป่วยเหล่านี้ อย่าไปปล่อยให้มันสว่างไว้เฉยๆ คนไม่อยู่ ตัวเองกลับไปบ้านแล้วลืมปิดสวิตซ์ไฟ อันนี้ก็เป็นเหตุให้สายมันเสื่อม สวิตซ์มันเสื่อม มันก็ลุกขึ้นมาได้ ถ้าลุกขึ้นมาสายยางเป็นเชื้อเพลิงอยู่ในตัว ก็เกิดไฟไหม้บ้านได้เหมือนกัน อันนี้ก็ขอฝากให้กับผู้ที่ใช้ไฟทั้งหลาย ทำอะไรๆ ระมัดระวัง
เล่นบั้งฟืนบั้งไฟ จุดตะไลกัน ขึ้นฟ้า สนุกสนานดี มันเช็ดๆๆๆๆ ขึ้นไปแล้วก็ โค้ง ไปตกในหลังป่าหญ้าแฝก หญ้าแฝกติดหมู่บ้าน มันเป็นยังไงเพิ่นว่า โอ้ ไม่ไหม้หรอก อืม มันเป็นหญ้าแฝก เออ มันติดไปหมด สังกะสีก็เป็นสื่อไฟฟ้าเหมือนกัน สายยางก็เป็นสื่อของไฟฟ้าเหมือนกัน ถ้าเราไม่กระเหม็ดกระแหม่ไว้ ระมัดระวังล่ะ ก็เกิด เออ ไฟไหม้ที่อยู่ที่อาศัย แหลกลาญไปหลายหมู่บ้าน หลายตำบล อยู่ในตลาดเมืองใหญ่ๆ น่าเป็นห่วงเขาเหมือนกัน ที่นั่นก็ใกล้ฟืนใกล้ไฟ สายยาวสุรุ่ยสุร่ายซะด้วย ไม่กระเหม็ดกระแหม่ เปิดไฟไว้ แล้วตัวเองหนีไปนอนหลับ แล้วถ้าไฟเกิดมาแรงขึ้นในตอนกลางดึก แล้วจะเป็นยังไงไฟ สวิตซ์ ไม่ได้ดับ เปิดไว้อย่างงั้น ไฟไหม้ฟ้าผ่าที่อื่นหรอก แต่มันเป็นเชื้อเพลิงเหมือนกัน ฟ้าผ่า อันนี้ก็ระมัดระวังกันเอาเองนะ ให้รู้จักไอ้ที่เตือนๆ นี่แหละ รู้นิดๆ หน่อยๆ ตักเตือนกันเอาไว้ ช่วยกันรักษาสมบัติส่วนรวมของเรา ที่ได้สร้างเป็นโรงพยาบาลขึ้นมา จากศรัทธาน้ำใจของครูบาอาจารย์ ของหลวงปู่ เป็นสมบัติของหลวงปู่ นั่นไงล่ะ ใกล้ไฟไหมตรงนั้น ก่อนจะเลิกงาน หนีจากที่นั่ง ก็ต้องดับฟืนดับไฟ ปิดสวิตซ์ไฟให้หมดซะก่อน อย่าหนีไป ลืมปิดสวิตซ์ มันก็เป็นเหตุให้ไฟช็อต(short ลัดวงจร)ได้ มันร้อนมาก ร้อนมากเกินไป เกิดไฟช็อต(short ลัดวงจร)ขึ้นมา ลามไปตามสายยาง สายไฟนั่นแหละ มันเป็นเชื้อเพลิงเหมือนกัน มันลุกๆๆๆๆๆๆ ต่อไป เกิดขึ้นในหมู่บ้านใดหมู่บ้านนั้นก็ไฟดับ ไปหมด ทำยังไงล่ะ เจ้าหน้าที่เขาไม่อยู่ใกล้ เขาอยู่ไกล กว่าจะเห็น มาทันเหตุการณ์ ต้องใช้เวลานานพอสมควร อันนี้อย่าประมาท เลินเล่อเผลอสติ ให้มีอะไร มีสติ ไฟเหล่านี้มันมักเกิดขึ้นได้ ไฟอยู่ในตัวของเราก็มีอีก ไฟอยู่ในตัวของเรา
ราคะ โทสะ โมหะ
ความโลภ ความโกรธ ความหลง
ก็ไหม้บรรดาสิ่งของ ได้ฟืนได้ไฟก็ฟาดใส่กันไปเลย จุดบั้งไฟเล่น เล่นมันบั้งไฟ ไฟมันออกตลอด ความจริงมันไม่ขึ้น มันตกลงมาแตกกระจุยกระจาย ติดเชื้อเพลิงขึ้นมาก็เป็นเหตุให้ เป็นอันตรายต่อชีวิตและครอบครัวได้
เพราะฉะนั้น โรงงานใหญ่ๆ อย่างนี้ มีห้องประชุมหลายๆ ใช้ฟืนใช้ไฟมากอย่างนี้ ต้องกระเหม็ดกระแหม่ ปิดไฟให้เรียบร้อยซะก่อน จึงปิดประตู ปิดไฟ หนีกลับบ้าน เปิดไฟลืมปิดสวิตซ์ มันเกิดร้อนขึ้นมา ไฟช็อต(short ลัดวงจร)ขึ้นมาน่ะเว้ย ใครจะมาช่วยล่ะ มันช็อต(short ลัดวงจร) มันก็ไปตามสาย ช็อต(short ลัดวงจร)ตามสายๆ หากว่ามีลมหลอดนั้น ถ้าหลอดนั้นถึงหลอดนี้หน่อย ถ้ามีหมู่บ้านติดกัน เนี่ยลมมันทำให้เกิดไฟได้ เกิดไฟเกิด อ้า ความพินาศฉิบหายได้
ดังที่แสดงมา เพื่อให้นำเป็นข้อคิดพินิจพิจารณาด้วยปัญญาอันชาญฉลาดของตนๆ เองเถิด อัปปมาทธรรม ไม่มีความประมาทมีสติประจำเนื้อประจำตัวอยู่เสมอๆ ก็จะได้รับความปลอดภัย ในการใช้ไฟฟ้า อย่างนั้นเสียบปลั๊กไว้ให้ เสียบพัดลมไว้ให้ เวลาจะเลิกงานเลิกการ ไม่ ไม่ได้ถอดปลั๊ก ยิ่งอันตราย ไปหลายรายแล้ว
หลวงพ่อองค์หนึ่ง อยู่วัดปากภู(วัดศรีทัศน์) เป็นคน
ไม่ค่อยมีสติดีเท่าไหร่ แล้วก็นอนเป็นง่อยเป็นเปลี้ยอยู่อย่างงั้น ช่วยตัวเองก็ไม่ได้ เกิดไฟช็อต(short ลัดวงจร)ขึ้นมาเนี่ย ก็ปึบขึ้นมา มันติดอันนั้น ติดอันนี้ มีแต่ร้อง โอ้ยๆๆ อยู่แต่นั้น
มันจะลงมาใส่คนไป มันย่าง(เดิน)ๆ ลงมาแต่ข้างบน แล้วไฟไหม้สายมันแล้ว มันย่าง(เดิน)ๆ ลงมาถึงพื้นพรม อย่างนี้ก็เป็นเชื้อเพลิงเหมือนกัน พื้นพรมยังไงอย่างงั้น ก็ไหม้ลามปามหมด
วัด เออ ราชบพิธฯ นั่นก็ถูกไฟไหม้โบสถ์ วอดไป เออ ไปทำพิธีปลุกเสกนั่นซะ เกิดไฟช็อต(short ลัดวงจร)ขึ้นมาปะเนี่ย อันตราย
(มีคนเข้าไปใกล้)
หมด เออ ได้เวลาแล้ว ก็มายืนบอกบท เออ อ่ะ
นี่อ่ะ ไม่ใช่คำสอนนะ คำสั่ง คำสั่งอันนี้ หลวงปู่เตือนไว้ ทุกครัวเรือน เราได้ใช้ไฟฟ้าทุกครัวเรือน อย่าละเมินเลินเล่อ ลืมปิดสวิตซ์ไฟ เออ ถอดปลั๊กไปซะ อะไรๆ พัดลม ถ้าปล่อยให้มันทำงานอยู่ มันเกิดไฟขึ้นมา เกิดไฟขึ้นมา ถอดสวิตซ์มันซะก่อน
ดังที่แสดงมาเป็น ปกิณณกนัย เพื่อต้องการให้ญาติ
ให้โยม นำไปใคร่ครวญพินิจพิจารณาด้วยปัญญาอันชาญฉลาดของตนๆ เองเถิด อัปปมาทธรรม ไม่มีความประมาท ตั้งอก
ตั้งใจประพฤติตน ให้ระแวดระวังให้ดีๆ ต่อแต่นั้นก็จะได้ประสบพบเห็นแต่ความสุขความเจริญทั้งทางคดีโลกและทางคดีธรรมทุกประการ รับประทานวิสัชนามา เสียงมันแหบ มันแห้งแล้ว จึงขอสมมติ ยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
(สาธุ)
วิริเยนะ ทุกขะมัจเจติ
คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
สุขา สังฆัสสะ สามัคคี
ความพร้อมเพรียงของหมู่ ให้เกิดสุข
สะมัคคานัง ตะโป สุโข
ความเพียรของผู้พร้อมเพรียงกัน ให้เกิดสุข
(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ ธรรมบท
อุทาน อิติวุตตกะ สุตตนิบาต
คาถาธรรมบท พุทธวรรคที่ ๑๔ ข้อ ๒๔)
สัพเพสัง สังฆะภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา
ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช (สา) วัดราชประดิษฐ์
ทรงผูกขึ้นแปลได้ความว่า
“ความพร้อมเพรียงของชนผู้เป็นหมู่ยังความเจริญให้สำเร็จ”
สัญลักษณ์ของความสามัคคีนั้นเห็นได้จากการ
ประดิษฐานตราแผ่นดินที่มีคาถาภาษิตว่า
“สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฒิสาธิกา”
ซึ่งแปลว่า ความพร้อมเพรียงของคนทั้งปวง
รวมกันเป็นหมวดหมู่ด้วยความสามัคคี
เป็นเครื่องทำความเจริญให้สำเร็จ
อยู่ที่เสาทั้ง ๔ มุมของพระบรมรูปทรงม้า
ในขณะที่ชาติไทยกำลังถูกล่าเป็นเมืองขึ้น
๔๕