หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
งานมุทิตาอายุวัฒนมงคล ๗๑ ปี หลวงพ่อจื่อ พันธมุตโต
วันเสาร์ที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ เวลา ๒๐.๐๐ น.
ณ วัดเขาตาเงาะอุดมพร ต.หนองบัวระเหว
อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ
(อาราธนาธรรม ทำนองสรภัญญะ)
พ๎รัห๎มา, จะ โลกา-, ธิปะตี, สะหัมปะติ
กัตอัญ-, ชะลี อัน-, ธิวะรัง, อะยาจะถะ
สันตี-, ธะ สัตตาป-, ปะระชัก, ขะชาติกา
เทเส-, ตุ ธัมมัง, อะนุกัม, ปิมัง ปะชัง.
(อาราธนาธรรมแปล ทำนองสรภัญญะ)
ท้าวสะหัม, บะดีพรหม, เป็นบรม, ในพรหมา
ทรงฤท-, ธิศักดา, กว่าบริษัท, ทุกหมู่พรหม
น้อมหัตถ์-, นะมัสสะการ, ประดิษะฐาน, ณ ที่สม
ควรแล้ว, จึงบังคม, ชุลีบาท, พระศาสดา
ขอพร, อันประเสริฐ, วอระเลิศ, มโหฬาร์
ปวงสัตว์, ในโลกา, กิเลสน้อย, ก็ยังมี
ขอองค์, พระจอมปราชญ์, สู่ธรรมาสน์, อันรุจี
โปรดปวง, ประชานี้, ท่านจงโปรด, แสดงธรรม
(ขอ)นิมนต์, ท่านเจ้าข้า, ผู้ปรีชา, อันเลิศล้ำ
โปรดแสดง, พระสัทธรรม, เทศนา, และวาที
เพื่อให้, สำเร็จผล, แก่ปวงชน, บรรดามี
สู่สุข, เกษมศรี, สมดังเจต-, ตะนาเทอญ
(ขอกราบอาราธนาในองค์หลวงปู่ เจ้าคะ)
เสียงดีเว้ย ผู้อาราธนาเสียงดีจัง ยังนึกอะไรไม่ออก จะเอาเรื่องอะไรๆ มาเล่าให้ทุกคนฟังวันนี้ หลายเรื่องหลายราว มีแต่ที่จะเอามาเทศน์ประกอบบรรยายให้ฟัง ให้ลองพิจารณากันเอง มีเวลากับความเป็นจริง แล้วก็มีเวลาอย่างอื่น เวลาในตัวของเราเอง ว่าตัวทำอะไรไว้บ้าง ศีลก็รับแล้วใช่ไหม รับศีลเสร็จแล้ว แต่ก่อนพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพิ่นกฎเกณฑ์วันนี้ ท่านสวดให้เราฟังแล้ว ก็เป็นเรื่องของคนทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องของสัตว์อื่น เรื่องของมนุษย์ที่จะต้องประพฤติปฏิบัติและรักษา ให้มันบริสุทธิ์ผุดผ่อง ให้เป็นธรรม เป็นวินัย ตามคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้านี่เอง เริ่มได้แล้วก็จะว่าให้ฟัง ตั้งใจฟังเด้อ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
อิมัสสะ ธัมมะปะริยายัสสะ อัตโถ
สาธายัสมันเตหิ สักกัจจัง ธัมโม โสตัพโพติ
ไม่ได้พูดเรื่องอื่นหรอกเรื่อง ทาน ศีล ภาวนา
กัมมัง
หมายถึง การกระทำของแต่ละคน คนเรากระทำลงไปมันก็เป็น
กัมมัง
ทำด้วยกายก็เป็นกายกรรม พูดด้วยวาจาก็เป็นวจีกรรม
วิชชา
ความรู้ทั้งหลายทั้งปวง มันเป็นวิชา วิชาทางโลก วิชาทางธรรม วิชาศิลปวิทยาใดๆ ก็เป็นธรรม เป็นกรรมเหมือนกัน
กัมมัง ธัมโม
หมายถึงธรรมะ ที่พระพุทธเจ้าเป็นประธาน สั่งสอนพุทธบริษัททั้งหลายไว้
วิชชา ศีล
การสังวร ระวังบาป ไม่ให้มันเกิดขึ้นทางกาย ทางวาจา ทางใจ สิ่งใดมันเป็นบาป พยายามละให้ได้ เออ
กัมมัง วิชชา ธัมโม สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
ธรรมะ ก็ภายในการกระทำของเรา เราทำอะไรไว้บ้าง ทำดีไว้บ้าง ทำชั่วไว้บ้าง ล้วนแล้วแต่จะให้ได้รับผลของกรรมนั้น พวกเรามัน...เป็นชาวโลกกัน...ดู
กัมมัง
ตัวนี้ต้องได้ทำอยู่ในนี้แหละ รักชอบกับชาวนา เขาเรียกว่ากสิกรรม กสิกร กสิกรรม การค้าการขายทั้งหลาย ก็เป็นการ การกระทำเหมือนกัน แต่ว่าผู้มุ่งความบริสุทธิ์ เลือกทำแต่กรรมดีๆ ใส่ตัว กรรมชั่วไม่ทำ ไปทำกรรมชั่ว มันก็พาไปตกนรกหมกไหม้ นานนับกัปนับกัลป์ไม่ถ้วนแล้ว เออ ได้รับผลของกรรมแน่นอน ปฏิเสธไม่ได้ ถ้าได้ทำกรรมอันใดไว้
ทำดีก็จะได้ผลดี ถ้าทำกรรมชั่วก็จะได้รับผลชั่ว
ไปตกนรกหมกไหม้ ไปเป็นเปรต ไปเป็นอสุรกาย ไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้าทำกรรมชั่วใส่ตัวเอาไว้ กรรมนั้นน่ะพาไปเอง ไม่ใช่ตัวเราจะไปเองหรอก กรรมจะพาไปเองปะนี้ วิบาก
กัมมะวิปาเจนะ สัจจานัง กัมมะปัจจะยา
สัตว์โลกเป็นไปตามอำนาจของกรรม คือการกระทำของตัวเอง คนไปติดคุกติดตะราง เขาก็ไป ไปติดคุกติดตะราง ด้วยวิบากกรรมอันใด เขาไปเป็นโจร เป็นผู้ร้าย ไปขโมย ไปปล้น ไปจี้เขา อย่างนี้ล่ะเป็นการกระทำ ด้วยกายของตัวเราเอง ไปด่า ไปว่า คนโน้นคนนี้ ออกทางวาจา เสียๆ หายๆ ก็เราเป็นคนพูดเอง เนี่ย
กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง
สัพพะปาปัง วินัสสันตุ อะเสสะโต
เพราะฉะนั้น พวกเราเป็นชาวพุทธ เป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนา วัดวาเป็นสถานที่ี่ปฏิบัติธรรม ก็ให้มีคุณธรรมในตัวทุกคน มีคุณธรรม ทำตามกายกรรม
กัมมัง
ถ้าเราทำกรรมดี เราก็จะได้รับผลตอบแทนที่ดี มีความสุข ถ้าไปทำกรรมชั่ว ก็ได้รับผลสาหัสสากรรจ์ที่สุด อย่างนักโทษ ถึงกับได้ตัดสินประหารชีวิต ก็เพราะทำกรรมไว้ถึงไหน ถึงกับลงโทษขั้นอุกฤษฎ์ หรือขั้นเด็ดขาด ไปติดคุกติดตะรางกันเป็นจำนวนหลายปี ถ้าทำความชั่วด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ มันให้ผล
อะยัมภะทันตา
น่ะ ให้ปัจจุบันชาตินี้ก็มี กรรมบางชนิด อย่างลงไปปล้น ไปจี้ ฆ่าอะไรเขาขั้นตาย เออ ถ้าเอาเงินเอาทองเขาไปอย่างนี้ อันนี้หลีกไม่ได้กฎหมายปกครองอีก ชัดเลย ผู้ทำการให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินอยู่เย็นเป็นสุข อยู่ด้วยความสงบสุข อยู่ด้วยความเมตตาปรานีต่อกันจริงๆ เออ ถ้ากระทำกรรมดีก็จะได้รับผลดีถ้ากระทำกรรมชั่วอย่างไร้ยางอาย
ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ
อยู่ในตัว พัดไปตามอำนาจกิเลสตัวเอง ไปคิดอยากได้ของเขาก็ไปลักเอา ไปจี้เอา ไปปล้นเอา ถึงฆ่าเจ้าของทรัพย์ ตาย เนี่ยอย่างนี้ เขาจับตัวได้ไล่ตัวทันแล้ว เขาจะไม่เอาผิดหรือเปล่า เขาจะไปลงโทษทางกบิลเมือง ตามหน้าที่ของเขา ว่าจะติดคุกติดตะรางกี่ปี กี่เดือน เขาก็บวกออกมาในโทษนั้นๆ ถ้าเขาฆ่าตาย ไปไว้ที่ไหน จับได้ไล่ทันเขาฆ่าตาย ไปตกนรกหมกไหม้ ไม่ได้ติดคุกติดตะรางเฉยๆ ยมฑูต เป็นผู้จัดการตามกบิล กบิลบ้านกบิลเมือง ไม่ว่า ช่างหัวมันเถอะให้อภัยมันซะ อย่างงั้นอย่างงี้ ไม่เคยว่า เป็นกฎหมายบ้านเมืองเขาก็เป็นอย่างงั้น
ในทางศีลธรรมนี่ก็เหมือนกัน ถ้าผู้ได้กระทำดี มีศีล มีธรรม มีศีล มีธรรมะ ในใจ มีความอดความทนในใจ ไม่ไปล่วงสิทธิเสรีของผู้อื่น ก็ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีความสุข เออ
นัตถิ สันติปะรัง สุขัง
เพิ่นบอกไว้อย่างนี้ ความสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี เนี่ย...ถ้าเรามีความสงบ เรียบร้อยดีทุกคน ตั้งอกตั้งใจอยู่ในศีลในธรรม ไม่ล่วงเกินศีลธรรม และกฎหมายของบ้านเมือง ใครจะจับเอาไปใส่คุกใส่ตะราง ตัดสินลงโทษตลอดชีวิตก็มี หรือว่ากี่ปี กำหนดกี่ปีโทษอย่างนี้ๆ กำหนดกี่ปี ก็ต้องใช้ตามกำหนดที่เขากฎหมายวางเอาไว้ แน่นอนที่สุด ไอ้ถ้าพวกเราทำอยู่ในศีลในธรรม
ทานัง เทติ
มีการทำบุญให้ทาน ประจำไม่ขาด เป็นข้อวัตรปฏิบัติประจำชีวิตของเราจริงๆ ใครล่ะจะไปทำเราไปติดคุกติดตะราง ไปลงโทษ ปรับไหมใส่โทษ เออ จองจำมีไหม ไม่มี ถ้าเราอยู่ด้วยศีลด้วยธรรม ศีลธรรม ท่านได้ว่า
กัมมัง กรรมที่ดี วิชชา
กัมมัง วิชชา
วิชาพาตัวรอดไปได้ วิชา ก็คือความรู้ ความรู้ที่เราประพฤติปฏิบัติอยู่ ...อาย มีความละอายต่อบาป ถ้ากระทำบาปขึ้นมีความละอายอย่างงั้น เขาเรียกว่า
หิริ
มีความละอายต่อบาป ไม่สามารถจะล่วงเกินได้ ไม่สามารถไปด่า ไปว่าคนอื่นเขาได้ ไม่มี พูดเผลอไป พูดรุนแรงเกินไป ก็มีขอโทษ ขออภัยกัน ขอโทษพูดมากเกินไป พูดด้วยความโกรธ อันนั้นก็เป็นโทษต่อเราแน่นอน จึงขอขมาลาโทษ ถ้าโทษหนักๆ ลงไปหน่อย ก็เอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบคารวะขอขมาจริงๆ ถ้าได้ล่วงเกินอย่างรุนแรงเกินไป ลงไม้ลงมือต่อกันอีกอย่างนี้ สิ่งที่จะยกโทษให้ไม่ได้ ก็คือฆ่า ฆ่าผู้อื่นให้ถึงแก่ความตาย ทำลายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บ พยายามฆ่า ถึงคำว่าตาย เอาปืนไปยิงเขา เอามีดไปฟันคอเขา ฟันหัวเขา ได้เข้าโรงพยาบอกพยาบาล เสียเวล่ำเวลาทำมาหากิน
มันก็ลงโทษไปตามกบิลเมือง กฎหมายเขาบอกว่าโทษชนิดนี้ควรติดคุกติดตะราง หรือว่าถูกปรับถูกไหม เป็นเงินตั้งหลายพัน หลายหมื่น เออ ตนต้องใช้บาปใช้กรรม อย่างที่ว่า
กัมมัง วิชชา
นั่น มันมีหลายอย่าง วิชามิจฉาชีพก็มี มิจฉาอาชีวะ ไม่เป็นสัมมาอาชีวะ เป็นมิจฉาชีพ ทำตามอำนาจอำเภอใจของตัวเอง เวลาเริ่มต้น เขาก็ออก มีมาตรการ ต้องติดคุกเท่านั้นปี จากถูกปรับถูกไหม ก็ปรับไหมเท่านั้นพันบาท เท่านั้นหมื่นบาท เป็นตัวอย่าง ไปทำร้ายทำลายเขาจนเสียชีวิตก็มี เนี่ย
กัมมัง กัมมัง
ตัวนี้ ถ้ามีวิชาพาตัวรอดได้ วิชาพาตัวรอด มีเยอะแยะไป อยากได้เป็นเจ้าเป็นนาย เจ้าคนนายคน เป็นผู้บังคับบัญชา บังคับกอง กรมอยู่ กรมไหน กองไหน เขาก็ลงโทษตามกฎหมายเหมือนกัน ถ้าโทษหนักหน่อยเขาก็เอาแรงๆ หน่อย เออ ถูกปรับถูกไหมยังไม่พอ ถ้าหากหนักกว่านั้นเข้าไป เอาไว้ก็เป็นศัตรูต่อบ้านเมืองต่อไป เออ ถ้า อะไรเมือง เขาตัดสินในเมืองจีน ประหารลูกเดียว มีเข้าหลักประหารลูกเดียว
มีตัวอย่างให้เราได้ดูอยู่ เช่น พระเจ้าชาห์ ซัดดัม ฮุสเซน เป็นตัวอย่างต่างประเทศเขา เอาถึงกับตายเลย อ้า แล้ว ซัดดัม ฮุสเซน ก็ถูกแขวนคอ ให้ประชาโลกได้ดูกันเป็นตัวอย่าง เขาทำ กรรมชนิดไหนๆ เบียดเบียนไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินขนาดไหน เออ มีโทษขนาดประหารชีวิต ประหารชีวิตเฉยๆ เอาปืนไปยิงทิ้งเฉยๆ ชาวโลกก็เลยได้รู้
เพราะฉะนั้น แขวนคอไอ้ซัดดัม แขวนคอ เอารถแบคโฮ รถใหญ่ๆ รถเครนใหญ่ๆ เป็นลูกตุ้มเอาเชือกรัดมันไว้จาก เออ พวกทหารก็พันลงมา มามัดคอ(อนุสาวรีย์รูปปั้น)ซัดดัม ซัดดัม ฮุสเซน เขาก็ประกาศให้ได้ทราบทุกคนๆ ให้รู้จักเหตุที่แขวนคอเพราะเป็นอย่างงั้นๆ ต้องแขวนคอประหาร ประจานให้โลกรู้ร่ำลือว่าคนคนนี้มหาโจร มหาโจร กินบ้านกินเมืองเป็นจำนวนไม่น้อย มากมายหลายหมื่นล้าน เอาไว้ก็เป็นภัยแก่บ้านเมือง
เพราะฉะนั้น จึงตัดสินลงโทษแขวนคอประจาน แล้วก็ออกโทรทัศน์ด้วย ให้ได้รู้หมดทุกประเทศในแผ่นดินเนี่ย หากไม่มีจอหนัง จอ ฟังข่าวออกทางโทรทัศน์ กระตุกคอซัดดัม ให้ชาวบ้านชาวเมืองเขาได้เห็นได้รู้ไปหมดทุกประเทศ กระตุก เบา ไม่มี นิดเดียว เสียงวี้ดนิดเดียวเท่านั้น กระตุกแล้วปะนั้น ติดเครื่องเร่งอีก โอ้นโต้น(ห้อยลงมา)ๆๆ ขึ้นไปพู้น(โน้น) แล้วก็ยิงด้วยปืนอีก กลัวจะไม่ตายแน่นอน ตายแล้ว หมดลมหายใจแล้ว เขาจึงเอาลงมา แก้คอ นำไปสู่ตะแลงแกง แล้วไปสู่ที่ฝังศพซะ ให้ชาวโลกได้เห็นได้รู้ ว่าเป็นคนชั่วถึงขนาดได้แขวนคอ นั่น เออ เผด็จการ เขาเรียกว่าปกครองแบบเผด็จการ
ส่วนพระเจ้าชาห์นั่น ไม่ได้ลงโทษหรอก พระเจ้าชาห์ นั่น กระอักเลือดออกเอง ตัวเองกระอักเลือดออก ฮาก(อาเจียน)เลือดออกเอง ห้ามเลือดไม่หยุด เขาว่าโลหิตฝอยแตกในหัวใจ หรือในมันสมอง ฟุบไป ตายเลย อืม หายใจไม่พอ เพราะท่านไปสนับสนุนให้ พระเจ้าชาห์ เป็น เออ ผู้โกงบ้านโกงเมือง เป็นจำนวนมากเหมือนกัน หนีหนี้ไป ไปอยู่ที่เกาะอังกฤษ หรือเกาะประเทศอะไร หรือจะเกาะอังกฤษ ไปอาศัยเพื่อนเป็นทางรอด เมื่อเขาตามรู้ ตามเห็น ตามทันแล้ว เกิดกระอักเลือดขึ้นมา สดๆ แดงๆ ฮาก(อาเจียน)เลือดออกแดงๆ หลบไปไม่ไหวแล้ว ตาย ในขณะนั้นเหมือนกัน ไม่ได้ยิง ไม่ได้แขวนคอในขณะนั้น นี่ระดับโลก ประจานให้โลกรู้ร่ำลือ ว่าเป็นคนชั่วร้ายขนาดไหน เออ
แต่พวกเรายังอยู่ดีกินดี ไม่มีใครจะกระทำให้ถูกประหารชีวิตแบบนั้น แขวนคอแบบนั้น ไปยิงเป้าแบบนั้นไม่มี พวกเราอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข เพราะว่ามีระบอบประชาธิปไตย เป็นที่ปกครองไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินโดยชอบธรรม ไม่ได้ไปประหัตประหาร ใคร ไม่ได้จับไปฆ่าเล่น ยิงเป้าเล่น ไม่มี มันอย่างงั้นไม่มี ถ้าพวกเราทั้งหมด อยู่ในที่นี้ และอยู่ในที่อื่นๆ ก็เหมือนกัน ตั้งใจประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในขอบข่าย ของศีลธรรมอย่างเคร่งครัด ศีล ๕ ข้อ ไม่ให้มันขาดเลย
ปาณาฯ อะทินนาฯ กาเมฯ มุสาฯ สุราฯ
อันนี้ศีลเบาๆ ศีล ๕ ข้อ ศีล ๘ ข้อมีอีกต่อไป ศีล ๑๐ สามเณร ศีล ๑๐ ศีลของพระก็ศีล ๒๒๗ ถ้าหากประพฤตินอกรีตนอกรอย ครูบาอาจารย์ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลก็ลงโทษตามกบิลเมือง
เหมือนกัน ลงโทษ ให้ลาสิกขาไปซะ ถ้าอยู่ในนี้ก็เป็นภัยต่อศาสนา ไม่ตั้งอกตั้งใจประพฤติตนอยู่ขอบข่ายของศีลธรรม ที่ตัวบวชเข้ามาแล้ว ไม่ได้รักษาให้ครบให้ถ้วน ขาดตกบกพร่องอยู่ มีข้อโหว่อยู่ เพราะฉะนั้น ก็ลงโทษไปตามกบิลบ้านกบิลเมืองไปได้ มันมีโทษหลายระดับ โทษศีล ๒๒๗ เนี่ยโทษเด็ดขาด ถ้าไปล่วงเกินศีล ๒๒๗ ก็อย่าอยู่เป็นพระให้ชาวบ้านชาวเมืองเขาหนักใจทำไม สึกซะดีกว่า เออ ถ้าทำแล้วผิดขนาดหนักให้สึก ถ้าเป็นโทษเบาๆ หน่อย พอที่สังวรระวังศีลของตัวได้อยู่ ก็สมาทานใหม่ แสดงอาบัติใหม่ซะ หรือสมาทานศีล ศีล ๑๐ ของตัวซะ เออ ก็อยู่ต่อไปเป็นพระที่ดี เป็นเณรที่ดี เป็นเนื้อนาบุญของโลก
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ
เพิ่นบอกว่า ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นเนื้อนาบุญของโลก ชาวโลกเอาอะไรให้ มาทำ เอาอะไรมาทำบุญ มาให้ทาน มาบริจาค
ให้ สงเคราะห์สงหาให้ ยังฝ่าฝืนศีลธรรมอยู่ ก็สมควรจะสึกออกไปจากเพศอันอุดมนี้ซะ อย่าอยู่เป็นก้างขวางคอของชาวโลก อยู่ไปก็หนักอกหนักใจของชาวบ้านชาวเมืองเขา ถ้าประพฤติตนไม่ดี ไม่ตามพระวินัย ทำยังไงก็ได้ให้หมดจด ก็ตั้งใจใหม่ ตั้งสมาทานใหม่ อยู่ปริวาสซะก่อนเรา ถ้าเป็นพระ เออ ถ้าหากล่วงเกินเข้าไปหนักๆ กว่านั้น อยู่เป็นพระก็อยู่ไปอย่างหลบลี้หนีหน้า ขี้กลากกินหัว เป็นขี้กลากเต็มหัว หัวถูลู่ถูกัง คันคะเยอไปหมดทั้งตัวนั้นแหละ อยู่ไปก็เป็นโรคติดต่อของประชาชนต่อไป
สึกไปซะ สึกไป ก็ไปเข้าหาการหางานอาชีพทางโลกเอา ถ้าขยันขันแข็งก็ตั้งเนื้อตั้งตัวได้ ถ้าเป็นคนขี้เกียจขี้คร้าน สึกออกไปแล้ว ไปหาลักฉกจกฉ้อ โกงบ้านโกงเมืองเขาอีก อย่างงั้นก็เป็นภัยต่อสังคมอีกเหมือนกัน หนักใจชาวบ้าน ผู้อุปถัมภ์(อุ)ปัฏฐาก ผู้ให้ความอุปถัมภ์(อุ)ปัฏฐาก บำรุงรักษา เออ หนักใจชาวบ้านเขา
อยู่ไปก็หนัก หนักแผ่นดิน
คนหนักแผ่นดินก็มี สมัยครั้งพุทธกาล ก็หนักแผ่นดิน จนถูกแผ่นดินก็ยังไม่รองรับ เพราะว่ามันหนัก แผ่นดินก็เลยสูบเอาไปเลย สูบ แผ่นดินสูบ อย่างพระเทวทัตเป็นตัวอย่าง หลายคนเน้อ พระเจ้า เออ เป็นถึงพระเจ้าแผ่นดิน ก็ถูกแผ่นดิน สูบไปก็มี เป็นผู้หญิงก็มี เป็นผู้ชายก็มี ถูกแผ่นดินสูบไปทั้งเป็นๆ เลย อย่างว่านางจิญจมาณวิกา เป็นตัวอย่างผู้หญิง ถูกแผ่นดินสูบไปเลย แน่ะ หมายถึงว่า สูบยังไง มันสูบยังไง สูบลงไปจริงๆ สูบลงไป พระเทวทัตก็สูบลงไป พระเจ้าสุปปพุทธะอีกองค์ ก็ถูกแผ่นดินสูบเหมือนกัน หลายคนอยู่
แต่จำไม่ได้มันหลายคน คนนั้นก็ถูกแผ่นดินสูบ คนนี้ก็ถูกแผ่นดินสูบไป สดๆ แดงๆ ดีกว่าหนักแผ่นดิน คนหนักแผ่นดิน พสุธาหรือแผ่นดิน ทนไม่ไหวก็แยกออกให้ตกลงไปในหลุม ดูดลงไปถึงอเวจีมหานรก ไปหมกไหม้อยู่ ก็ไปรับโทษทัณฑ์อันนี้อย่างนี้ เกิดร่วมอยู่ในแผ่นดินสูบไปในสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระชนม์ชีพอยู่ ผู้ทำความหนักแผ่นดิน ก็ถูกแผ่นดินสูบไป นี่เป็นตัวอย่าง แต่ทุกวันนี้ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แผ่นดินสูบเหมือนกัน เขาไปยิงเป้าทิ้งซะ ฆ่าทิ้งซะเลย ฆ่าทิ้ง ตายแล้วเอาไปไหน ก็แผ่นดินสูบเหมือนกัน ถ้าทำเภทภัยสังคมขึ้นมา เขาก็ดึงไว้ แผ่นดินสูบเหมือนกัน ตายอยู่ในที่แห่งไหนก็ตาม แต่ก็แผ่นดินสูบ แต่ผู้ที่ไปสวรรค์ทั้งเป็น แผ่นดินไม่ได้สูบหรอกไปสวรรค์ทั้งเป็น พระโสดาบันบุคคล สกิทาคา(มี) อนาคา(มี) พระอรหันต์ทั้งหลาย เพิ่นไปพระนิพพานกันหมด ไม่ถูกแผ่นดินสูบหรอก มีทุกขคติที่รุนแรงอย่างงี้ ต้องมีโทษสาหัสสากรรจ์พอได้ เพราะฉะนั้น พวกเราเป็นคนมีสัมมาอาชีวะ เป็นการเลี้ยงชีพในทางที่ิชอบ ประกอบการงานในทางที่สุจริต เลี้ยงชีวิตด้วยความบริสุทธิ์ใจ แผ่นดินรองรับนับถือเอาไว้ นอกนั้นหากถือเอาไว้ ตายแผ่นดินกับเขาได้อยู่ เป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย ถ้าท่านมีชีวิตอยู่ ท่านก็เป็นประโยชน์ต่อสังคม ทำให้สงบร่มเย็น อย่างน้อยก็แสดงธรรมะธัมโม ให้เขาฟังได้ หรือว่าอ่านหนังสืออธิบายบาปบุญคุณโทษ ให้หมู่ให้พวกได้ฟัง มีตำรับตำรา มีเต็มบ้านเต็มเมือง อ่านให้ลูกให้หลานฟัง ถ้ามีผู้เฒ่าผู้แก่ ถ้าลูกหลานอ่านหนังสือ อ่านออกก็อ่านหนังสือธรรมะ อ่านให้ครอบครัวของเรา ถนัดอ่านให้ลูกหลานฟัง เรื่องดีๆ มีเยอะแยะ เก็บดีจนไม่มีที่เก็บหนังสือธรรมะธัมโม เรื่องของพระพุทธเจ้า เรื่องของพระอริยสงฆ์ สาวกของพระพุทธเจ้า เรื่องผู้ประพฤติดีประพฤติชอบอยู่ในโลก ไม่ได้รักษาศีลเฉพาะหรอก แต่ว่าเป็นคนเป็นประโยชน์ต่อสังคม ทำประโยชน์ให้สังคม พัฒนาสังคม ให้เจริญรุ่งเรือง อืม มันเกิดขึ้นเพราะอะไร ศาลาธรรมสภาแห่งนี้ มันเกิดขึ้นด้วย วิริยะ อุตสาหะ จากน้ำมือของท่านผู้เป็นเจ้าอาวาสหนึ่ง จากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านชาวเมืองหนึ่ง เอามารวมกันเข้าจึงเป็นศาลาขึ้นหลังใหญ่โตขนาดนี้ แต่ก่อนโบสถ์ก็มี แต่ว่ามันน้อยไป ต่อจากโบสถ์มา เป็นวิหารใหญ่ต่อกันไป ดังที่เรานั่งกันอยู่นี้ เกิดจากแรงความคิดของท่านเจ้าอาวาส
(เสียงเด็กร้องไห้)
และก็เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายร่วมกัน คนละ ๑ บาท คนละสลึง คนละเฟื้อง คนละ ๑๐๐ ๒๐๐ คนละ ๑,๐๐๐ ๒,๐๐๐ คนละ ๑๐,๐๐๐ ๒๐,๐๐๐ เอ้า ก็ตั้งขึ้นมาได้อย่างนี้ นี่เรียกว่าเป็นคนไม่หนักแผ่นดิน เป็นคนทำให้แผ่นดินได้รับประโยชน์ ทุกอย่างที่ทำขึ้นในวัดนี้ ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ให้ประชาชนได้ใช้ร่วมกันอย่างนี้
ไม่ให้ตายแผ่นดินสูบเอาไว้ ไม่ตายหรอก เว้นไว้แต่หมดลมแล้ว หมดลมแล้วเขาก็เอาไปฝังซะ เอาไปเผาไฟซะ อืม แต่ว่าไม่ได้ตายด้วยแผ่นดินสูบโดยตรง แผ่นดินมันสูบโดยอ้อม ตายแน่นอน ถึงจะดวงวิญญาณจะไปสวรรค์ แต่ว่าร่างกายไปด้วยไม่ได้ ถ้าเกิดไปนานมันก็เน่า ไม่ก็เปื่อย เออ เหม็นบ้านเหม็นเมืองเขา น่าเกลียด จึงมีการเผา
กเฬวราก
ซากศพซะให้เรียบร้อย เรียกว่าประชุมเพลิง นั่น...พากันเก็บกระดูกไว้ ถ้าผู้ใดมีคุณงามความดี แม้เป็นกระดูกก็ยังแย่งกันเลย อย่างในประเทศอินเดีย กระดูกพระพุทธเจ้าแย่งกันอุตลุด กระดูกของพระอริยเจ้า พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร แย่งกัน
แต่พระอานนท์ ท่านเหาะขึ้นไปในอากาศ เพ่งไฟ กสิณ เตโชธาตุ ให้เกิดไฟไหม้อยู่ในอากาศ ไฟตกลงๆๆๆ ตกใส่ดินน่ะ แย่งกันอุตลุด แน่ะ นี่ก็มีอยู่ในครั้งพุทธกาล
พระอริยเจ้าทั้งหลาย พระโสดา(บัน) พระสกิทาคา(มี) อนาคา(มี) พระอรหันต์ขีณาสพทั้งหลาย ไม่มีใครไปทอดทิ้งนิ่งดูดายหรอก เก็บไปสักการบูชา เป็นที่เคารพสักการะกราบไหว้ ทำบุญทุกวัน ไหว้พระทุกวัน เก็บดอกไม้ไปบูชาทุกวัน ทุกคนผู้มีบุญแล้ว แม้แต่กระดูกเขายังไหว้เคารพบูชา เพราะว่าเป็นประโยชน์ต่อชุมชนส่วนรวมทั้งโลก ไม่มีใครปฏิเสธกระดูกของพระอรหันต์ทั้งหลาย ไม่มีใครปฏิเสธ แต่แม้ในรูปของท่าน ได้ถ่ายทำไว้ในรูป อยู่ในกระดาษ ก็ยังเอาไปบูชาสักการะ แม้แต่กระดูกก็ยังเก็บไปไหว้บูชาสักการะอยู่อย่างนั้น นี้บุคคลตัวอย่างมีอยู่ เราก็เห็นอยู่ เห็นกับหูกับตาน่ะ
ถ้าเราไปเที่ยวประเทศอินเดีย ก็จะเห็นสถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้ สถานที่ปรินิพพาน สถานที่สำคัญๆ อำนวยให้กุลบุตรลูกหลานได้ดู ได้ชม ได้กราบ ได้ไหว้ คนเมืองไทยของเราว่า ทัศนาจร ไปดู ไปชมกันทั้งนั้น ในประเทศอินเดีย สถานที่ประสูติอยู่ที่ไหน สถานที่ เออ แสดงธรรมอยู่ที่ไหน สถานที่ปรินิพพานอยู่ที่ไหน แล้วกระดูกหายไปไหนหมด เขาแย่งกัน หากไม่แบ่งปันกันโดยธรรม ก็อาจจะเกิดสงครามโลกแย่งกระดูกกัน โน้น บุคคลผู้ที่มีคุณธรรมสูง เขาบูชาแม้กระทั่งกระดูก แล้วนี่พวกเราน่ะมีคุณธรรมพอที่จะแย่งไว้ได้ พอที่จะแย่งกระดูกกันไหม
ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง
ในร่างกายเรา มีแต่เป็นของมีค่าทั้งนั้น แม้แต่อยู่ในปากก็ขอถอนเอา ถอนเอาฟัน ผมที่โกนออกมา แย่งกันทั้งนั้น ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ก็เพราะว่าคุณธรรมที่ท่านมี มีคุณธรรมประจำตัวของท่านเอง เกิดความศรัทธา... ความเชื่อ ความเลื่อมใส อย่างฝังอกฝังใจถอนไม่ออกเลย ดังนี้เป็นตัวอย่าง นี่แหละ พวกเราเป็นผู้มีบุญ จึงมีผู้มาแนะนำให้สร้างวัตถุถาวรเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ดังที่เรามาร่วมกันนั่งอยู่เดี๋ยวนี้ เห็นได้ชัดไหม ท่านผู้นั้นคือใครล่ะไปบอกเมื่อ...ทีแรก น่าโมทนาสาธุการไป อืม
เพราะฉะนั้น จึงขอฝากท่านทั้งหลาย ให้ทำตนเป็นคนดี อย่าทำเป็นคนชั่ว ถ้าเป็นคนชั่วแล้วแผ่นดินหนักมันจะสูบเอาไป อ้า ถ้าตายด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ตายด้วยศีลด้วยธรรมแท้ ใครๆ ก็เคารพ ใครๆ ก็นับถือ สักการบูชา ทำบุญสุนทาน ไม่เสียดาย เสียสละแรงกายแรงใจ มาร่วมทำเป็น เออ โรงทานบ้างในงานนี้ ผู้ที่มีศรัทธาเสียสละเป็นเจ้าภาพโรงทานบ้าง พระคุณเจ้าก็ได้ฝากท้องฝากไข้ด้วย เฮอะๆ อิ่มหนําสําราญด้วย เพราะแรงกายแรงใจที่ท่านเคยกระทำมานั่นเอง ให้ภาคภูมิใจตัวเองไว้ อย่างน้อยๆ ...กลับใจตัวเอง ถึงกับไปกินยาตาย หรือไปฆ่าคนตาย ผูกคอตาย ไปโดดเหวตาย ไปโดด โดดภูเขาตาย อะไรทำนองนี้ ถ้าใครสั้น คิดสั้น คิดไม่กว้าง ก็ทำประโยชน์ให้แก่ตัวเองไม่เพียงพอ ให้คิดให้กว้างๆ หรือว่าเสียสละชีพเพื่อชาติ เพื่อศาสนา เพื่อพระมหากษัตริย์ เพื่อรัฐบาล ผู้ปกครองเรา ให้อยู่ดีมีสุข เราเสียสละได้ทุกอย่าง อย่างนี้คล้ายๆ ว่าเป็นการเสียสละอย่างสูง ให้เข้าใจอย่างงั้น ให้ภาคภูมิใจไว้ ผู้ที่จำศีลภาวนามาตลอดชีวิต อย่างน้อยก็กระดูกก็เป็นประโยชน์ต่อชุมชนเหมือนกัน เอาฝากเขาไว้ เขาสักการะ เขาบูชา ผู้นับถือ เขาเลื่อมใส เสียสละทรัพย์ คนละนิดละหน่อยพอบำรุงพระศาสนา ให้มีวัดวาศาสนาเกิดขึ้นเต็มบ้านเต็มเมือง เหล่านั้นก็เรียกว่าเป็นประชาสงเคราะห์เหมือนกัน ให้ประชาชนได้ เกิดศรัทธาเลื่อมใส เสียสละกำลังกาย กำลังใจ ออกมาประพฤติปฏิบัติ บูรณะปฏิสังขรณ์วัดวาศาสนา ให้เป็นหลักเป็นฐาน ดังที่เรานั่งอยู่ในศาลาเดี๋ยวนี้ เกิดขึ้นเพราะความคิดของท่านผู้มีเมตตา ไม่เอารัด ไม่เอาเปรียบผู้หนึ่งผู้ใดเลย
ตายช่างมันๆ เมื่อยก็นวดเอา กินข้าวแล้วก็มีแรงมาเอง นวดเส้น นวดเอ็นมาแล้วก็มานั่งเทศน์ได้ อย่างนี้ก็เรียกว่าเสียสละเหมือนกัน เออ ได้สาธุหรือเปล่า บุญ เออ นั่งเทศน์อย่างนี้ก็ด้วย ข้าวปลาอาหาร ของญาติโยมเอามาเลี้ยงชีวิตร่างกาย แต่ว่ามันมีพลาดอะไรนิดหนึ่ง ตั้งใจว่าจะมากินเพลที่นี้ เออ ร้านแก่ ลำตะคอง ว่าจะมาฉันเพลที่นั่น
แต่มาๆ พอมาถึงที่นั่นแล้ว มันเลยเพลแล้ว เลยเที่ยงไปแล้ว กินเพลไม่ได้แล้ว ก็เลยเอาน้ำมา น้ำขวดใหญ่ น้ำขวด กินมัน เราพลาด เราไม่ได้กินเพลแล้ววันนี้ ไม่มีเพลแล้ว ตั้งใจจะมากินเพลลําตะคอง ไม่ทัน แต่ว่ารถมันติด ฝนก็ตกมากมาย พอมาถึงลำตะคอง ถึงร้านอาหารจริงๆ มันบ่ายแล้ว มันบ่ายไปตั้งหลายนาทีแล้ว เที่ยง บ่ายไปตั้งหลายนาทีแล้ว ต้องหาเลี้ยงชีพแล้ว กินน้ำเข้า กินน้ำเข้าหรือเปล่า ไม่ต้องกินมันเพล ไม่ต้องกิน กินน้ำร้อนเอา น้ำปานะ น้ำส้ม มีหลายชนิดที่เขาเอามาให้กิน ตอนบ่ายตอนเย็น หลายอย่างกินไม่ไหว... น้ำทั้งหลาย อืม หายเมื่อยหน่อย หายเมื่อยหาย หิวไหม ไม่มีหิว เออ อืม ถ้าเมื่อยๆ มาก็กินน้ำเอา กินน้ำร้อนเป็นแก้ว... กินน้ำ
(หลวงปู่ฉันน้ำร้อน) กินน้ำลงไปแล้ว
(หลวงปู่สำลักน้ำ ไอ) สำลักน้ำซะ เอา แค่นั้นแหละ
ถ้าการเลี้ยงเพลก็ฉันได้อยู่
(หลวงปู่ ไอ) ถ้าเอามื้อเดียว วันไหนอิ่มข้าวตอนเช้า อิ่มหลาย เขานิมนต์ฉันเพล เอามาอีกแหละ เอาอีกแหละ เออ มันกินไม่ได้อีกแล้ว เข้าไม่ได้แล้ว เอื้อม(เรอ)แล้ว เอ้า ยังไม่ถึงฮาก(อาเจียน)หรอก
(หลวงปู่สำลักน้ำ) หยิบน้ำกิน กินน้ำลงไปมันสำลักน้ำ
ที่บรรยายมา จับตรงนู้นบ้าง จับเอาอันนี้บ้าง เพื่อให้ท่านทั้งหลาย นำไปใคร่ครวญพินิจพิจารณาด้วยปัญญาอันชาญฉลาดของตนๆ เองเถิด ถ้าจะประพฤติปฏิบัติให้ดีกว่านี้ ให้เคร่งครัดกว่านี้ ไม่ให้เป็นคนหนักแผ่นดิน อย่างที่ อย่างนิทานเมื่อกี้
(หลวงปู่ ไอ) ออกมาแล้ว
คนหนักแผ่นดินแต่แผ่นดินไม่รับ สูบเอาไปเลย เออ นี่ไม่ถึงกับหนักแผ่นดินหรอก
(หลวงปู่ ไอต่อเนื่อง)
อย่าให้กลายเป็นนักโทษอย่างอุกฤษฎ์ ไม่ได้แขวนคอเหมือน ซัดดัม ฮุสเซน หรอก ไม่ได้กระอักเลือดตายเหมือนพระเจ้าชาห์หรอก ยังมีประโยชน์ต่อแผ่นดินอยู่ ก็ช่วยกันพัฒนาชาติบ้านเมืองของเรา ให้มันเจริญรุ่งเรือง เป็นที่อยู่ที่อาศัย ของลูกของหลานสืบไปอีกนานเท่านาน
ดังที่รับประทานวิสัชนามา ก็ยุติโดยเวลา เพราะว่าคอมันไม่เอาแล้ว มันไอแล้ว ก็ยุติ สมมติยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
(สาธุ)
อ้า รับพรกันซะก่อนน่ะ ด้วยอำนาจบุญกุศลบารมีราศีทั้งหลาย ได้พร้อมเพรียงกัน สามัคคีกัน มาเข้าวัดเข้าวา มาบำรุงรักษา สร้างสรรค์ พัฒนาสถานที่ ดังที่เราได้อาศัยนั่งฟังเทศน์อยู่เดี๋ยวนี้ด้วย และอื่นๆ มีอีกเยอะ ก็ขอจงเป็นพลวปัจจัย ดลบันดาลให้ท่านทั้งหลายได้รับความสุขความเจริญทั้งทางคดีโลกและทางคดีธรรมทุกประการ รับประทานฝอยมา ก็ยุติโดยเวลา เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
(สาธุ)
ปิด ปิดแล้ว สต๊อป(stop หยุด ปิด)
อาราธนาธรรม
(ทำนองสรภัญญะ)
พ๎รัห๎มา จะ โลกาธิปะตี, สะหัมปะติ,
กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ,
สันตีธะ สัตตาปปะระชักขะชาติกา,
เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง.
อาราธนาธรรมแปล
(ทำนองสรภัญญะ)
ท้าวสหัมบดีพรหม เป็นบรมในพรหมา
ทรงฤทธิศักดา กว่าบริษัททุกหมู่พรหม
น้อมหัตถ์นมัสการ ประดิษฐาน ณ ที่สม
ควรแล้วจึงบังคม ชุลีบาทพระศาสดา
ขอพรอันประเสริฐ วรเลิศมโหฬาร์
ปวงสัตว์ในโลกา กิเลสน้อยก็ยังมี
ขอองค์พระจอมปราชญ์ สู่ธรรมาสน์อันรุจี
โปรดปวงประชานี้ ท่านจงโปรดแสดงธรรม
นิมนต์ท่านเจ้าข้า ผู้ปรีชาอันเลิศล้ำ
โปรดแสดงพระสัทธรรม เทศนาและวาที
เพื่อให้สำเร็จผล แก่ปวงชนบรรดามี
สู่สุขเกษมศรี สมดังเจตนาเทอญ
อาราธนาธรรม
(ทำนองสรภัญญะ)
พ๎รัห๎มา, จะ โลกา-, ธิปะตี, สะหัมปะติ
กัตอัญ-, ชะลี อัน-, ธิวะรัง, อะยาจะถะ
สันตี-, ธะ สัตตาป-, ปะระชัก, ขะชาติกา
เทเส-, ตุ ธัมมัง, อะนุกัม, ปิมัง ปะชัง.
อาราธนาธรรมแปล
(ทำนองสรภัญญะ)
ท้าวสะหัม, บะดีพรหม, เป็นบรม, ในพรหมา
ทรงฤท-, ธิศักดา, กว่าบริษัท, ทุกหมู่พรหม
น้อมหัตถ์, นะมัสสะการ, ประดิษะฐาน, ณ ที่สม
ควรแล้ว, จึงบังคม, ชุลีบาท, พระศาสดา
ขอพร, อันประเสริฐ, วอระเลิศ, มโหฬาร์
ปวงสัตว์, ในโลกา, กิเลสน้อย, ก็ยังมี
ขอองค์, พระจอมปราชญ์, สู่ธรรมาสน์, อันรุจี
โปรดปวง, ประชานี้, ท่านจงโปรด, แสดงธรรม
นิมนต์, ท่านเจ้าข้า, ผู้ปรีชา, อันเลิศล้ำ
โปรดแสดง, พระสัทธรรม, เทศนา, และวาที
เพื่อให้, สำเร็จผล, แก่ปวงชน, บรรดามี
สู่สุข, เกษมศรี, สมดังเจต-, ตะนาเทอญ
กัมมัง วิชชา จะ ธัมโม จะ สีลัง ชีวิตะมุตตะมัง
การงาน ๑ วิชา ๑ ธรรม ๑ ศีล ๑ ชีวิตอันอุดม ๑
กัมมะวิปาเจนะ สัจจานัง กัมมะปัจจะยา
ผลแห่งกรรม มีกรรมเป็นปัจจัย อย่างแท้จริง
กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
สัพพะปาปัง วินัสสันตุ อะเสสะโต
บาปทั้งปวง จงวินาศสิ้นไป โดยไม่เหลือ
หิริ ความละอายแก่ใจ
โอตตัปปะ ความเกรงกลัว
นัตถิ สันติปะรัง สุขัง
สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี
ทานัง เทติ
การให้ทาน
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ
เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
สิกขาบท ๕
ปาณาติปาตา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการฆ่า เบียดเบียนสัตว์อื่น
อะทินนาทานา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการถือเอาของที่เขามิได้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย
กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการประพฤติผิดในกาม ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น
มุสาวาทา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี
สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
เว้นจากของเมา คือ สุราอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
๕ ผู้ต้องธรณีสูบในสมัยพุทธกาล
พระเทวทัต
พยายามลอบปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าหลายครั้ง
พระเจ้าสุปปพุทธะ
(เป็นพระราชบิดาของพระเทวทัตและพระนางยโสธรา)
ได้พยายามกลั่นแกล้งเพื่อขวางทางที่พระพุทธเจ้า
เสด็จออกบิณฑบาต ทำให้ทรงอดพระกระยาหาร ๑ วัน
นางจิญจมาณวิกา
ด่าพระพุทธเจ้าด้วยคำไม่จริง
นันทยักษ์
ฟาดกระบองใส่ศีรษะพระสารีบุตร(ผู้เลิศทางปัญญา)
นันทมานพ
ด้วยการข่มขืนพระอุบลวรรณาเถรี(ผู้เลิศทางฤทธิ์)
กเฬวราก [กะ-เล-วะ-ราก] ร่างไร้วิญญาณ ซากศพ
แต่มักหมายถึง คนไร้ประโยชน์ คนชั่ว คนเลว
อะยัมภะทันตา
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย
(บางแห่งใช้หมายถึง ทำแล้วได้รับผล ทันตาเห็น)
๗๔